คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 670 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2491/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างเอกสารเป็นพยาน: ศาลมีอำนาจไต่สวนความถูกต้องแม้โจทก์ไม่คัดค้าน
จำเลยอ้างว่าได้ชำระหนี้บางส่วนให้โจทก์แล้วตามเอกสารหมาย ล.1 ถึง ล.9 ที่จำเลยอ้างเป็นพยาน และได้ส่งสำเนาให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยานแล้ว แม้โจทก์จะไม่คัดค้านการอ้างเอกสารนั้น ก็ไม่ตัดอำนาจของศาลในอันที่จะไต่สวนและชี้ขาดในเรื่องการมีอยู่ความแท้จริง หรือความถูกต้องของเอกสารเช่นว่านั้นตามความในวรรคท้ายของมาตรา 125 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2491/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างเอกสารเป็นพยาน ศาลมีอำนาจไต่สวนความถูกต้อง แม้คู่ความไม่คัดค้าน
จำเลยอ้างว่าได้ชำระหนี้บางส่วนให้โจทก์แล้วตามเอกสารหมาย ล.1 ถึงล.9 ที่จำเลยอ้างเป็นพยาน และได้ส่งสำเนาให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยาน แล้ว แม้โจทก์จะไม่คัดค้านการอ้างเอกสารนั้น ก็ไม่ตัดอำนาจของศาล ในอันที่จะไต่สวนและชี้ขาดในเรื่องการมีอยู่ความแท้จริง หรือความถูกต้องของเอกสารเช่นว่านั้นตามความในวรรคท้ายของมาตรา125 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งนัดพยานและการถอนตัวทนาย: ศาลต้องแจ้งนัดให้โจทก์ทราบก่อนถือว่าไม่มีพยาน
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งโจทก์ไม่ได้มาศาลทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นพยาน ศาลสั่งให้คำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายว่า สำเนาให้โจทก์ เช่นนี้ สมควรให้โจทก์ ทราบเรื่องทนาย ขอถอนตัวโดยเลื่อนคดีไปก่อน การที่ศาลชั้นต้นถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ทราบนัด เป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อจะขายที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย และอำนาจฟ้องของผู้ซื้อ
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนขายบ้านให้โจทก์ โดยกล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสองทำสัญญาจะขายบ้านโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ ปรากฏว่าตามสัญญาจะซื้อจะขายนั้น จำเลยที่ 2 พิมพ์ลายนิ้ว มือในสัญญาโดยมีพยานรับรองเพียงคนเดียว ซึ่งการพิมพ์ลายนิ้วมือจะต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคน จึงจะเสมอกับลงลายมือชื่อ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรคสาม ที่โจทก์ลงชื่อในสัญญาไม่มีข้อความระบุว่า เป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยที่ 2 ต้องถือว่า โจทก์ลงชื่อในฐานะผู้ซื้อ จึงถือไม่ได้ว่า สัญญาดังกล่าวได้ลงลายมือชื่อจำเลยที่ 2 ฝ่ายที่ต้องรับผิดส่วนจำเลยที่ 1 มิได้ลงลายมือชื่อในสัญญาด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับแก่จำเลยทั้งสองตามสัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าวได้
โจทก์มีอำนาจฟ้องตามสัญญาจะซื้อจะขายได้หรือไม่นั้น เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2838/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือตกลงหย่าที่มีพยานรับรอง ถือเป็นหลักฐานเพียงพอต่อการฟ้องหย่าได้ แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียน
ทำหนังสือหย่าโดยมีผู้ทำบันทึกลงชื่อในฐานะผู้บันทึกข้อความถือว่าผู้ทำบันทึกซึ่งรู้เห็นข้อตกลงเป็นพยานคนหนึ่งโดยไม่ต้องมีคำว่าพยานกำกับไว้ กับมีพยานอีกคนหนึ่งลงลายมือชื่อด้วย สามีฟ้องหย่าให้ภริยาไปจดทะเบียนหย่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาที่ไม่สมบูรณ์: ลายพิมพ์นิ้วมือผู้กู้ต้องมีพยานรับรอง 2 คน การฟ้องบังคับคดีจึงตก
ลายพิมพ์นิ้วมือผู้กู้มีพยานลงลายมือชื่อรับรองคนเดียวโจทก์ลงชื่อในสัญญากู้ในช่องผู้ให้กู้ไม่ได้เป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้กู้ไม่ชอบด้วย มาตรา 9 วรรค 3 ฟ้องบังคับคดีแก่ผู้กู้ไม่ได้ เป็นเหตุลักษณะคดีแม้โจทก์ฎีกาฝ่ายเดียว ศาลก็พิพากษายกฎีกาโจทก์และยกฟ้องผู้ค้ำประกันด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลตามเวลาที่ผิดพลาดเนื่องจากจดเวลาคลาดเคลื่อน ไม่ถือว่าโจทก์ไม่มีพยาน
วันนัดสืบพยานโจทก์ทั้งสองคราวโจทก์นำพยานมาศาล โดยครั้งแรกจำเลยที่ 2 ขอเลื่อนคดี แต่วันนัดสืบพยานครั้งที่สองโจทก์นำพยานมาศาลผิดเวลาเพราะจดเวลานัดสืบพยานคลาดเคลื่อนไปเป็นข้ออ้างที่มีเหตุผลสมควร เพราะวันนัดสืบพยานครั้งแรกนัดสืบพยานเวลา 13.30 นาฬิกา ส่วนครั้งหลังนัดเวลา 9 นาฬิกา การที่โจทก์ไม่มาศาลตามเวลาในวันนัดสืบพยานโจทก์ดังกล่าวยังไม่พอถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของส่วนราชการ, อายุความละเมิด, การส่งเอกสารประกอบคำถามค้านพยาน
สำนักนายกรัฐมนตรีมีฐานะเป็นกระทรวง กองที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของโจทก์ตามมติคณะรัฐมนตรีมีค่าใช้จ่ายอยู่ในงบประมาณของโจทก์เป็นส่วนราชการที่โจทก์ดูแลรับผิดชอบ โจทก์ฟ้องผู้ที่ละเมิดให้เงินของกองนั้น ๆ ขาดไปได้ผู้อำนวยการซึ่งมีอำนาจชี้ขาดรู้ตัวผู้ทำละเมิดในวันที่ชี้ขาดให้ดำเนินการตามรายงานกรรมการสอบสวน กรรมการสอบสวนมิใช่ตัวแทนของโจทก์ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797
โจทก์ส่งเอกสารเพื่อประกอบคำถามค้านพยานจำเลย โดยไม่ส่งสำเนาเอกสาร ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ศาลอนุญาตได้ตาม มาตรา 86, 87, 89

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง: การลงลายพิมพ์นิ้วมือพยานไม่สมบูรณ์ แต่ถือเป็นพยานธรรมดาได้ หากมีพยานอื่นร่วมด้วย
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองซึ่งมีผู้ลงลายพิมพ์นิ้วมือเป็นพยานคนหนึ่ง และมีผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานอีกคนหนึ่ง กับมีนายอำเภอผู้จัดทำพินัยกรรมลงลายมือชื่อในฐานะนายอำเภอนั้น การลงลายพิมพ์นิ้วมือเป็นพยานใช้ไม่ได้ พยานในพินัยกรรมจึงเหลือเพียงคนเดียวขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 และตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1705 แต่พินัยกรรมฉบับนี้ได้ทำต่อหน้านายอำเภอ จึงถือได้ว่านายอำเภอเป็นพยานในพินัยกรรมด้วยอีกผู้หนึ่งโดยไม่จำต้องมีข้อความเขียนบอกว่าลงชื่อเป็นพยานอีกฐานะหนึ่ง เมื่อรวมแล้วจึงเป็นพินัยกรรมที่ทำต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกับอนุโลมเข้าแบบพินัยกรรมธรรมดาตามมาตรา 1656, 136 (อ้างฎีกาที่ 1612/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองโมฆะเนื่องจากพยานไม่ครบ แต่สมบูรณ์ในฐานะพินัยกรรมธรรมดาได้
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองซึ่งมีผู้ลงลายพิมพ์นิ้วมือเป็นพยานคนหนึ่งและมีผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานอีกคนหนึ่ง กับมีนายอำเภอผู้จัดทำพินัยกรรมลงลายมือชื่อในฐานะนายอำเภอนั้นการลงลายพิมพ์นิ้วมือเป็นพยานใช้ไม่ได้ พยานในพินัยกรรมจึงเหลือเพียงคนเดียวขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 และตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1705 แต่พินัยกรรมฉบับนี้ได้ทำต่อหน้านายอำเภอ จึงถือได้ว่านายอำเภอเป็นพยานในพินัยกรรมด้วยอีกผู้หนึ่งโดยไม่จำต้องมีข้อความเขียนบอกว่าลงชื่อเป็นพยานอีกฐานะหนึ่ง เมื่อรวมแล้วจึงเป็นพินัยกรรมที่ทำต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกันอนุโลมเข้าแบบพินัยกรรมธรรมดาตามมาตรา 1656,136(อ้างฎีกาที่ 1612/2515)
of 67