พบผลลัพธ์ทั้งหมด 869 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่เป็นการพยายามฆ่า
จำเลยแทงผู้เสียหายเพราะโกรธที่ผู้เสียหายร่วมประเวณีกับจำเลยแล้วไม่ยอมรับผิดชอบต่อจำเลยและไม่ยอมเจรจากับจำเลยโดยดี มิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการบันดาลโทสะ
จำเลยใช้มีดปลายแหลมซึ่งมีความยาวส่วนใบมีด 5 นิ้วครึ่งความกว้างตรงส่วนกลางของใบมีด 1 นิ้ว แทงถูกผู้เสียหายถูกที่ท้องลึก 2 เซนติเมตร ผู้เสียหายวิ่งหนีจำเลยไปล้มนอนหงาย จำเลยติดตามไปนั่งคร่อมผู้เสียหายแล้วเงื้อมีดจะแทงผู้เสียหายอีก แต่ผู้เสียหายจับมือของจำเลยไว้ได้ทันพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย.(ที่มา-ส่งเสริม)
จำเลยใช้มีดปลายแหลมซึ่งมีความยาวส่วนใบมีด 5 นิ้วครึ่งความกว้างตรงส่วนกลางของใบมีด 1 นิ้ว แทงถูกผู้เสียหายถูกที่ท้องลึก 2 เซนติเมตร ผู้เสียหายวิ่งหนีจำเลยไปล้มนอนหงาย จำเลยติดตามไปนั่งคร่อมผู้เสียหายแล้วเงื้อมีดจะแทงผู้เสียหายอีก แต่ผู้เสียหายจับมือของจำเลยไว้ได้ทันพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงต่อเนื่อง แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลพิพากษายืนฐานพยายามฆ่า
จำเลยแทงผู้เสียหายเนื่องจากจำเลยโกรธผู้เสียหายที่ไม่ยอมรับผิดชอบต่อจำเลยและไม่ยอมเจรจากับจำเลยโดยดีถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว กรณีที่เกิดแทงกันขึ้นจึงมิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การกระทำของจำเลยจึงไม่ใช่เป็นการบันดาลโทสะ การที่จำเลยใช้อาวุธมีดปลายแหลม ซึ่งมีความยาวส่วนใบมีด5 นิ้วครึ่ง ความกว้างตรงส่วนกลางของใบมีด 1 นิ้วแทงถูกผู้เสียหายที่ท้องลึก 2 เซนติเมตร ซึ่งความลึกส่วนนี้แม้ไม่ถึงอวัยวะภายในที่จะเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายได้ก็ตาม แต่เมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีจำเลยไปล้มนอนหงาย จำเลยได้ติดตามไปนั่งคร่อมผู้เสียหายแล้วเงื้อมีดจะแทงผู้เสียหายอีก แต่ผู้เสียหายจับมือของจำเลยไว้ทันแล้วแย่งมีดกัน โดยมีบุคคลอื่นได้มาช่วยแย่งมีดด้วยซึ่งหากผู้เสียหายจับมือของจำเลยไม่ได้ จำเลยจะต้องแทงผู้เสียหายที่บริเวณอกและอาจทะลุถึงอวัยวะภายในซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญและอาจเป็นผลให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย การที่ผู้เสียหายและบุคคลอื่นมาช่วยแย่งเอามีดไปจากจำเลยได้ทันทำให้การกระทำของจำเลยไม่บรรลุผลดังเจตนาของจำเลย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5054/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการใช้มีดแทงหลายครั้ง ศาลฎีกายืนโทษฐานพยายามฆ่า
ขณะที่โจทก์ร่วมนอนรอดูโทรทัศน์ จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมใบมีดยาว 6 นิ้ว กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร แทงโจทก์ร่วมที่ราวนมซ้ายอย่างแรง โจทก์ร่วมกอดปล้ำต่อสู้กับจำเลย จำเลยได้ใช้มีดแทงทำร้ายโจทก์ร่วมอีกหลายทีถูกศีรษะ เอว และสะบัก เป็นบาดแผลหลายแห่ง ขณะทำร้ายจำเลยพูดด้วยว่า "กูพยายามจะฆ่ามึงมานานแล้วทีนี้ถึงสำเร็จ" เฉพาะบาดแผลที่ราวนมซ้ายลึกถึงเนื้อปอด มีลมออกมาจากบาดแผล อาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงโจทก์ร่วมที่อวัยวะสำคัญ เกิดบาดแผลฉกรรจ์ และขณะแทงทำร้ายจำเลยพูดในทำนองเคียดแค้นจะเอาชีวิตโจทก์เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าโจทก์ร่วม เมื่อโจทก์ร่วมไม่ตายจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5054/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการใช้มีดแทงหลายครั้ง ศาลพิพากษายืนความผิดฐานพยายามฆ่า
ขณะที่โจทก์ร่วมนอนรอดูโทรทัศน์ จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมใบมีดยาว 6 นิ้ว กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร แทงโจทก์ร่วมที่ราวนมซ้ายอย่างแรงโจทก์ร่วมกอดปล้ำต่อสู้กับจำเลย จำเลยได้ใช้มีดแทงทำร้ายโจทก์ร่วมอีกหลายทีถูกศีรษะ เอว และสะบัก เป็นบาดแผลหลายแห่ง ขณะทำร้ายจำเลยพูดด้วยว่า "กูพยายามจะฆ่ามึงมานานแล้วทีนี้ถึงสำเร็จ" เฉพาะบาดแผลที่ราวนมซ้ายลึกถึงเนื้อปอด มีลมออกมาจากบาดแผล อาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงโจทก์ร่วมที่อวัยวะสำคัญ เกิดบาดแผลฉกรรจ์ และขณะแทงทำร้ายจำเลยพูดในทำนองเคียดแค้นจะเอาชีวิตโจทก์เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าโจทก์ร่วม เมื่อโจทก์ร่วมไม่ตายจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5044/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรงแสดงเจตนาฆ่า พยานหลักฐานสนับสนุนความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้มีดเหน็บปลายแหลม ใบมีดกว้างประมาณ 4 นิ้วยาวประมาณ 1 ฟุต และด้ามยาวประมาณ 1 คืบ ซึ่งเป็นอาวุธที่ร้ายแรงฟันตรงลงมาที่ศีรษะผู้เสียหายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญถ้ากระโหลกศีรษะแตกถึงสมองอาจทำให้ถึงตายได้ ทั้งจำเลยยังใช้มีดแทงผู้เสียหายซ้ำอีก แสดงว่ามีเจตนาฆ่า เมื่อผู้เสียหายไม่ตายจึงมีความผิดฐานพยานยามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด แม้ไม่สำเร็จผลก็เป็นความผิดพยายามฆ่า
จำเลยแทงผู้เสียหายเนื่องจากจำเลยโกรธผู้เสียหายที่ไม่ยอมรับผิดชอบต่อ จำเลยและไม่ยอมเจรจากับจำเลยโดยดี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว กรณีที่เกิดแทงกันขึ้นจึงมิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยถูก ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วย เหตุอันไม่เป็นธรรม การกระทำของจำเลยจึงไม่ใช่เป็นการบันดาลโทสะ การที่จำเลยใช้ อาวุธมีดปลายแหลม ซึ่ง มีความยาวส่วนใบมีด5 นิ้วครึ่ง ความกว้างตรง ส่วนกลางของใบมีด 1 นิ้วแทงถูก ผู้เสียหายที่ท้องลึก 2 เซนติเมตร ซึ่ง ความลึกส่วนนี้แม้ไม่ถึงอวัยวะภายในที่จะเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายได้ ก็ตาม แต่ เมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีจำเลยไปล้มนอนหงาย จำเลยได้ ติดตาม ไปนั่งคร่อมผู้เสียหายแล้วเงื้อมีดจะแทงผู้เสียหายอีก แต่ ผู้เสียหายจับมือของจำเลยไว้ทันแล้วแย่งมีดกัน โดย มีบุคคลอื่นได้ มาช่วย แย่งมีดด้วยซึ่ง หากผู้เสียหายจับมือของจำเลยไม่ได้ จำเลยจะต้อง แทงผู้เสียหายที่บริเวณอก และอาจทะลุถึง อวัยวะภายในซึ่ง เป็นอวัยวะที่สำคัญและอาจเป็นผลให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย การที่ผู้เสียหายและบุคคลอื่นมาช่วย แย่งเอามีดไปจากจำเลยได้ ทันทำให้การกระทำของจำเลยไม่บรรลุผลดัง เจตนาของจำเลย จำเลยจึงมีความผิดฐาน พยายามฆ่า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3758/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากบาดแผลร้ายแรง: การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าจากการใช้ขวดสุราเป็นอาวุธ
จำเลยใช้ขวดสุราแตกซึ่งมีส่วนที่แหลมคมยาวถึง3 นิ้วฟุต เป็นอาวุธแทงผู้เสียหายถูกที่คอด้านซ้ายในขณะที่คร่อมตัวผู้เสียหายอยู่ เป็นบาดแผลยาว 5 เซนติเมตรลึก 1 ถึง 2 เซนติเมตร แสดงว่าจำเลยแทงโดยแรงและเป็นอวัยวะส่วนสำคัญที่จะทำให้ถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีเจตนามุ่งประสงค์จะฆ่าผู้เสียหาย มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์พร้อมทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ความผิดฐานพยายามฆ่า และลักทรัพย์
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่าเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 อีกบทหนึ่ง
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส และตกลงจากรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่มา จากนั้นจำเลยได้ลักเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป การที่จำเลยยิงผู้เสียหายก็เพื่อความสะดวกในการที่จำเลยจะลักเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสจากการกระทำดังกล่าวการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(6),80มิใช่มาตรา 289(7) ซึ่งเป็นการฆ่าเพราะได้กระทำความผิดอื่นมาแล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส และตกลงจากรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่มา จากนั้นจำเลยได้ลักเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป การที่จำเลยยิงผู้เสียหายก็เพื่อความสะดวกในการที่จำเลยจะลักเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสจากการกระทำดังกล่าวการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(6),80มิใช่มาตรา 289(7) ซึ่งเป็นการฆ่าเพราะได้กระทำความผิดอื่นมาแล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าเพื่อลักทรัพย์: ความผิดฐานพยายามฆ่าและลักทรัพย์
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 อีกบทหนึ่ง จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า เพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ของผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(6),80 มิใช่มาตรา 289(7) ซึ่งเป็นการฆ่าเพราะได้กระทำความผิดอื่นมาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมพยายามฆ่าเพื่อสะดวกในการปล้นทรัพย์: เล็งเห็นผลการกระทำของพวก
พวกของจำเลยใช้อาวุธปืนยิง ช. คนขับรถขณะที่จำเลยกำลังปลดทรัพย์ผู้เสียหายและคนโดยสารอื่น แม้จำเลยจะไม่ได้เป็นคนใช้อาวุธปืนยิง ช. ด้วยตนเอง แต่พวกของจำเลยรวมทั้งจำเลยเองก็มีอาวุธปืนติดตัวมาด้วยในการปล้นทรัพย์จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่า พวกของจำเลยอาจใช้อาวุธปืนยิงผู้ใดผู้หนึ่งในรถคันเกิดเหตุหากผู้นั้นขัดขืน เพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ เมื่อพวกของจำเลยใช้อาวุธปืนยิง ช. แต่ ช. ไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์ด้วย