คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิจารณา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 380 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกเงินภาษีและการปลอมแปลงเอกสาร: ข้อหาชัดเจนและพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
บรรยายฟ้องว่าจำเลยยักยอกเงินค่าภาษีโรงค้ารายนายฉลองไป 600 บาท แต่ต่อมานำส่งเสีย 57.60 บาท จำเลยยักยอกไปเพียง 542.40 บาท ดังนี้จัดว่าชัดเจนพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาฐานยักยอกได้ดีตาม ม.158 วิ.อาญา.หาเคลือบคลุมไม่
แม้ข้อเท็จจริงทางพิจารณาจะได้ความว่าจำเลยยักยอกเงินค่าภาษีรายนายฉลองไป 600 บาท มิใช่ 542.40 บาท ดังข้อหาให้จำเลยรับผิดตามฟ้องก็ดี ควรฟังข้อเท็จจริงดังนี้เพราะเงิน 57.60 บาท ที่จำเลยนำส่งเป็นค่าภาษีรายนายช่อล้องมิใช่นายฉลอง ฉนั้นเงินค่าภาษีนายฉลองที่จำเลยยักยอกจึงคงมี 600 บาท จึงถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณากับฟ้องเช่นนี้หาเป็นเหตุให้ยกฟ้องโจทก์ตาม ป.วิ.อาญา ม.192ได้ไม่
ถึงจำเลยจะมีหน้าที่เขียนต้นขั้วใบเสร็จรับเงินด้วยตนเองก็ดี แต่ถ้าจำเลยตกเติมแก้ไขต้นขั้วใบเสร็จนั้นโดยมีเจตนาปลอมแปลงจากเดิมให้เข้าใจผิดเป็นอย่างอื่นและอาจเกิดการเสียหายขึ้นได้ ดังนี้จำเลยก็หาพ้นความรับผิดฐานปลอมหนังสือไม่
การที่จะวินิจฉัยข้อ ก.ม.นั้นศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพนอกเหนือความจริงและการพิจารณาบาดเจ็บสาหัสตามกฎหมายอาญา
แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลก็จะรับฟังลงโทษนอกเหนือไปจากความจริงหาได้ไม่
ฟ้องว่าผู้เสียหายบาดเจ็บถึงทุพลภาพและทนทุกข์เวทนาถ้าไม่สามารถประกอบอาชีพได้ดังปกติเกินกว่า 20 วัน จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง โจทก์ขอสืบพยานประกอบเพราะแต่วันเกิดเหตุถึงวันจำเลยรับไม่เกิน 20 วัน ผู้เสียหายเบิกความว่าแผลที่ศีรษะแม้รักษา 30 วันแต่ก็ลุกไปไหนไม่ได้เพียงครึ่งเดือนเท่านั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นบาดเจ็บถึงสาหัสตาม มาตรา 256(8)
ส่วนบาดเจ็บที่นิ้วทำไซดักปลาไม่ได้ 20 วันนั้น ปรากฏว่าผู้เสียหายมีอาชีพทำนา จึงถือไม่ได้ว่าการทำเครื่องมือหาปลาเป็นอาชีพตามปกติตาม มาตรา 256(8)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพนอกเหนือความจริง และการพิจารณาบาดเจ็บสาหัสตามกฎหมายอาญา
แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลก็จะรับฟังลงโทษนอกเหนือไปจากความจริงหาได้ไม่
ฟ้องว่าผู้เสียหายบาดเจ็บถึงทุพพลภาพและทนทุกข์เวทนาถ้าไม่สามารถประกอบอาชีพได้ดังปกติเกินกว่า 20 วัน จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง โจทก์ขอสืบพยานประกอบเพราะแต่วันเกิดเหตุถึงวันจำเลยรับไม่เกิน 20 วัน ผู้เสียหายเบิกความว่าแผลที่ศีรษะแม้รักษา 30 วันแต่ก็ลุกไปไหนไม่ได้เพียงครึ่งเดือนเท่านั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นบาดเจ็บถึงสาหัสตาม มาตรา 256(8)
ส่วนบาดเจ็บที่นิ้วทำไซดักปลาไม่ได้ 20 วันนั้น ปรากฏว่าผู้เสียหายมีอาชีพทำนา จึงถือไม่ได้ว่าการทำเครื่องมือหาปลาเป็นอาชีพตามปกติตาม มาตรา 256(8)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การและเหตุผลที่ศาลควรพิจารณาการกระทำของจำเลยโดยรวม
โจทก์ส่งต้นฉบับสัญญากู้ตามที่จำเลยขอดูพ้นกำหนดที่ศาลสั่งและพ้นกำหนดวันยื่นคำให้การของจำเลยและจำเลยได้ยื่นคำให้การหลังจากโจทก์ส่งเอกสารต่อศาล 2 วันดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่า จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและจำเลยได้แจ้งถึงเหตุที่ตนมิได้ยื่นคำให้การตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา199

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำบอกกล่าวของผู้ถูกทำร้าย/ตาย รับฟังประกอบการพิจารณาคดีได้
คำร้องระบุบอกกล่าวของผู้ถูกทำร้ายโดยไม่ทันยั้งคิดก็ดีคำบอกกล่าวของผู้ตายโดยรู้ว่าชีวิตจะไม่รอดแต่สติยังดีอยู่ก็ดีย่อมรับฟังประกอบการพิจารณาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 618/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไม่เจตนา: การพิจารณาเจตนาจากสถานการณ์ขณะเกิดเหตุและอาวุธที่ใช้
ขณะเกิดเหตุจำเลยเมาสุรา อาวุธที่จำเลยใช้แทงเป็นมีดลักษณะโตเล็กอย่างไรไม่ปรากฏ เกิดเหตุเวลากระทันหัน จำเลยได้แทงผู้ตายเพียงทีเดียวเท่านั้น หากไปถูกที่สำคัญผู้ตายจึงถึงแก่ความตาย ดังนี้จำเลยย่อมมีความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา (อ้างฎีกาที่ 483/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: ความผิดเริ่มเกิดในจังหวัดใด ศาลจังหวัดนั้นมีอำนาจพิจารณา
ในความผิดฐานรับของโจรโคของกลางจับได้ที่จังหวัดสงขลาแต่โคนี้ถูกคนร้ายลักจากจังหวัดพัทลุงความผิดได้เริ่มเกิดในเขตอำนาจศาลจังหวัดพัทลุงศาลจังหวัดพัทลุงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2084/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความถูกต้องของวันเกิดเหตุและการสั่งริบปืนในคดีอาญา
เกี่ยวกับวันเกิดเหตุโจทก์ฟ้องว่าวันขึ้น 2 ค่ำ พยานโจทก์ 2 ปากแรกให้การชั้นศาลว่า วันแรม 2 ค่ำ พยานโจทก์ 2 ปากหลังให้การชั้นศาลว่าวันขึ้น 2 ค่ำแต่ชั้นสอบสวนซึ่งเป็นเวลาหลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน พยานโจทก์ 2 ปากแรกก็ได้ให้การว่าวันขึ้น 2 ค่ำเมื่อข้อเท็จจริงยังฟังได้ว่าวันเกิดเหตุเป็นวันข้างขึ้นตามฟ้อง วันที่พยานโจทก์ 2 ปากแรกเบิกความชั้นศาลนั้นคลาดเคลื่อนไปดังนี้จะฟังว่าโจทก์ฟ้องผิดวันยังไม่ได้
ในคดีที่ฟ้องว่าจำเลยใช้ปืนยิงคนโดยเจตนานั้น เมื่อฟ้องกล่าวว่าเป็นปืนของผู้มีชื่อขอให้ริบ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเอาปืนไปจากนายบ่ายซึ่งเป็นผู้ถือปืนอยู่ นายบ่ายจะได้ปืนมาอย่างใดและจะจดทะเบียนหรือไม่ ๆ ปรากฎเพียงเท่านี้ยังไม่พอจะสั่งให้ริบปืนของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642-1643/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างของข้อเท็จจริงระหว่างฟ้องและพิจารณาในคดีปล้นทรัพย์ ไม่ทำให้การฟ้องเป็นโมฆะ
ในคดีที่ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์และบรรยายว่าจำเลยได้ปล้นเอาทรัพย์ไปจากเจ้าทรัพย์ 4 คนตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยปล้นเอาทรัพย์ไปจากเจ้าทรัพย์ได้เพียง 3 คนเท่านั้น ข้อเท็จจริงที่ต่างกันเช่นนี้หาใช่ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 836/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเป็นบาดเจ็บสาหัส และการพิจารณาความรุนแรงของบาดแผล
ใช้มีดหรือขวานไม่ปรากฏชัดฟันเขาถูกที่หน้าผากเป็นบาดแผลกว้าง 2 ซ.ม. ยาว 7 ซ.ม. ลึก 1 ซ.ม. แพทย์ลงความเห็นว่าอาการสาหัสรักษาเกินกว่า 20 วัน ผู้เสียหายเบิกความว่า ต้องรักษาอยู่ประมาณ 60 วันจึงหายระหว่างรักษาทำงานการไม่ได้เพราะเสียวเดี๋ยวนี้งานเบาทำได้ งานหนักทำไม่ได้ แม้แพทย์ผู้รักษาจะเบิกความว่าบาดแผลผู้เสียหายรักษา 10 วันหายก็ดี แต่ก็ว่าบาดแผลข้างในยังไม่หาย ต้องทำการรักษากันอยู่ตลอดมา เพราะเกี่ยวกับเส้นประสาทอีกด้วย ดังนี้ วินิจฉัยว่า เป็นบาดแผลถึงสาหัสตามกฎหมาย
of 38