คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิจารณาคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 477 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการมีทนาย – การพิจารณาคดีอาญาที่ถูกต้อง – การพิจารณาพิพากษาใหม่
โจทก์ฟ้องจำเลยตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7,8 ทวิ,72,72 ทวิ,78 ฯลฯ อัตราโทษจำคุกถึง 10 ปี ศาลชั้นต้นมิได้สอบถามเรื่องทนาย พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยฝ่าฝืน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 ศาลต้องพิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1554/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีเนื่องจากความผิดพลาดในการจดวันนัด และการคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดที่ไม่ชัดเจน
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกโจทก์ขอเลื่อนคดี ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 11 ธันวาคม 2522 ถึงวันนัดโจทก์ขอเลื่อนอีก ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 25 มกราคม 2523 แต่ทนายจำเลยจดวันนัดลงในสมุดนัดความของตนผิดโดยจดเป็นวันที่ 25กุมภาพันธ์ 2523 ซึ่งเป็นผลทำให้ทนายจำเลยเข้าใจวันนัดสืบพยานโจทก์ผิดไปจึงมิได้มาศาลในวันที่ 25มกราคม 2523 ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา กรณีมีเหตุสมควรที่จะให้พิจารณาใหม่ได้
ในคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย ได้มีข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลว่า ศาลได้พิจารณาให้โจทก์ชนะคดีโดยเพียงแต่ฟังพยานหลักฐานของโจทก์ซึ่งนำพยานเข้าสืบเพียงปากเดียวนั้นยังไม่เพียงพอที่จะให้โจทก์ชนะคดีได้ เนื่องจากจำเลยมีพยานทั้งบุคคลและเอกสารต่างๆ ที่จะนำสืบแสดงว่าจำเลยมิได้ผิดสัญญาตามฟ้องโจทก์ ดังนี้ถือได้ว่าคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยได้กล่าวโดยชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีมรดกเนื่องจากผู้ร้องถึงแก่กรรมระหว่างการพิจารณาคดี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาตั้งผู้คัดค้านที่ 3 เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ด้วย ผู้ร้องฎีกา ระหว่างฎีกาผู้ร้องตายไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาต่อไป จึงจำหน่ายคดีผู้ร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2789/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเลื่อนคดีเนื่องจากเจ็บป่วย/ถอนทนาย และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องว่าตัวโจทก์ป่วยและทนายโจทก์มีความคิดเห็นในการดำเนินคดีขัดแย้งกับตัวโจทก์ หากดำเนินคดีให้แก่ตัวโจทก์ต่อไปจะเกิดความเสียหายได้ ทนายโจทก์จึงขอถอนตัวจากคดี คำร้องดังกล่าวแม้จะไม่มีข้อความขอเลื่อนคดี ก็เท่ากับเป็นการขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว ศาลชั้นต้น สั่งให้ทนายโจทก์ส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์ทราบก่อน แล้วศาล จะได้สั่งคำร้องในภายหลัง ศาลชั้นต้นจึงชอบที่ จะดำเนิน กระบวนพิจารณาในเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 65 เสียก่อน ทั้งใน วันนั้นทนายจำเลยก็ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก เพราะ ความเจ็บป่วย ซึ่งศาลควรจะต้องสั่งเลื่อนคดีตาม มาตรา 40 อยู่แล้ว ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์และนัดสืบพยานจำเลยต่อไปจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2) แม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นไว้ คดีก็ไม่ ต้องห้าม อุทธรณ์ฎีกา และเป็นกรณีแตกต่างกับการที่ ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจ สั่งให้เลื่อนหรือไม่ให้เลื่อนคดี ซึ่งคู่ความที่จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่ง ระหว่างพิจารณาดังกล่าวจะต้องโต้แย้งคำสั่งศาลไว้จึงจะมีสิทธิ อุทธรณ์ฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2675/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีหมิ่นประมาทจากเอกสารท้ายฟ้อง และการสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความเสียหายจากการหมิ่นประมาท
คดีหมิ่นประมาท โจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความบางตอนที่อ้างว่าเป็นหมิ่นประมาทโจทก์ และได้บรรยายด้วยว่ารายละเอียดข้อความดังกล่าวปรากฏตามภาพถ่ายเอกสารท้ายฟ้อง ดังนี้ ศาลหยิบยกเอาข้อความในเอกสารท้ายฟ้องซึ่งเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฟ้องมาพิจารณาว่าโจทก์บรรยายฟ้อง ครบองค์ความผิดหรือไม่ได้
โจทก์แถลงขอสืบพยานว่า ข้อความที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ ทำให้โจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เมื่อบุคคลอื่นได้อ่านหนังสือพิมพ์แล้วก่อให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ดังนี้ จึงไม่อาจพิจารณาแต่เพียงข้อความในเอกสารท้ายฟ้องเท่านั้น ศาลชอบที่จะทำการพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1328/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ถิ่นที่อยู่ปกติของเด็กและเยาวชนเพื่อการพิจารณาคดี: การพิจารณาจากที่อยู่อาศัยจริงและการประกอบอาชีพ
จำเลยเป็นเยาวชนย้ายจากเขตจังหวัดธนบุรีมาอยู่ที่จังหวัดนนทบุรีตั้งแต่ยังเล็ก แต่ไม่ได้แจ้งย้ายทะเบียนบ้าน ต่อมาจำเลยทำงานรับจ้างเป็นเด็กกระเป๋ารถยนต์สองแถว และกินอยู่หลับนอนกับนายจ้างที่จังหวัดนนทบุรี ดังนี้ ถิ่นที่อยู่ปกติของจำเลยจึงอยู่ในเขตจังหวัดนนทบุรี แม้มารดาของจำเลยกับจำเลยแจ้งย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ถิ่นที่อยู่ปกติของจำเลยหาใช่เป็นแห่งเดียวกับภูมิลำเนาจำเลยไม่โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดนนทบุรีจึงชอบแล้วกรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรลุนิติภาวะของจำเลยระหว่างการพิจารณาคดี และผลต่อการเป็นคู่ความ
จำเลยที่ 2 อายุ 18 ปี ขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา จำเลยที่ 2 อายุครบ 20 ปี บรรลุนิติภาวะจำเลยที่ 2 จึงมีความสามารถบริบูรณ์ มีอำนาจเป็นคู่ความด้วยตนเองศาลฎีกาพิจารณาพิพากษาคดีไปได้ โดยไม่จำต้องสั่งให้จำเลยที่ 2 แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลระหว่างพิจารณาคดี และการบรรยายฟ้องที่ชัดเจนครบถ้วน
คำสั่งศาลที่ให้งดชี้สองสถานและงดสืบพยานโจทก์จำเลย เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 8 และพิพากษาเมื่อวันที่ 24 เดือนเดียวกัน แต่จำเลยก็มิได้โต้แย้งไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าว ทั้งปัญหานี้มิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนอันศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวของโจทก์ ค่าเช่าเดือนละ 200 บาท ครบกำหนดอายุการเช่าตามกฎหมายแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยเช่าต่อไป ได้บอกกล่าวให้จำเลยออกจากตึกที่เช่า จำเลยได้รับแล้วแต่ไม่ออก ทำให้โจทก์เสียหายจึงขอฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลย ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ข้อความในสัญญาเช่าที่ว่า โจทก์ยินยอมอนุญาตให้จำเลยปลูกครัวในที่ดินของโจทก์ซึ่งอยู่นอกอาคารที่เช่าได้หนึ่งหลัง ถ้าโจทก์ต้องการที่ดินในส่วนนั้นเมื่อใด จำเลยจะรื้อถอนครัวออกทันที ถ้าจำเลยผิดสัญญาคือไม่รื้อไป โจทก์จะเลิกสัญญาเช่าทันที ดังนี้ หามีผลทำให้สัญญาเช่าเดิมกลายเป็นสัญญาต่างตอบแทนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2971/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตเลื่อนคดีและการพิจารณาคดีต่อไป ไม่ถือเป็นการขาดนัดตามกฎหมาย
ในวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อน ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้สืบพยานโจทก์ไป แล้วนัดสืบพยานจำเลย ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยขอเลื่อนการพิจารณาแต่ศาลไม่อนุญาต ทั้งศาลก็มิได้สั่งให้จำเลยขาดนัดพิจารณา แล้วให้พิจารณาไปฝ่ายเดียวถือไม่ได้ว่าเป็นการพิจารณาโดยขาดนัด จำเลยจะขอให้พิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2971/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตเลื่อนคดีและการพิจารณาคดีโดยไม่ถือว่าเป็นการขาดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ในวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและให้สืบพยานโจทก์ไป แล้วนัดสืบพยานจำเลย ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยขอเลื่อนการพิจารณาแต่ศาลไม่อนุญาต ทั้งศาลก็มิได้สั่งให้จำเลยขาดนัดพิจารณาแล้วให้พิจารณาไปฝ่ายเดียวถือไม่ได้ว่าเป็นการพิจารณาโดยขาดนัด จำเลยจะขอให้พิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 ไม่ได้
of 48