คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หุ้นส่วน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 346 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนผิดสัญญา แม้ยังมิได้เลิกหุ้นส่วน ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ ไม่ใช่เรื่องชำระบัญชี
การฟ้องเรียกค่าเสียหายเพราะหุ้นส่วนฝ่ายหนึ่งผิดสัญญากันการฟ้องขอเลิกหุ้นส่วน เพื่อให้มีการชำระบัญชีนั้นเป็นคนละเรื่องกัน และไม่มีกฎหมายบทใดบังคับว่าเมื่อยังมิได้เลิกหุ้นส่วนกันแล้ว ผู้เป็นหุ้นส่วนฝ่ายหนึ่ง จะฟ้องร้องอีกฝ่ายหนึ่งหาว่าผิดสัญญาไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งเงินค่าช่วยเหลือการก่อสร้างจากจำเลยครึ่งหนึ่งตามสัญญาดังกล่าวนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเพิ่มทุนและใครลงทุนไปเท่าใด เมื่อจำเลยรับเงินแล้วก็ต้องแบ่งให้โจทก์ตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1195/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิเรือนพิพาทและหุ้นส่วน: ศาลฎีกาพิพากษาเรื่องกรรมสิทธิเรือนพิพาทและข้อพิพาทเรื่องหุ้นส่วนควบคู่กัน
โจทย์ฟ้องว่าเรือนพิพาทเป็นของโจทก์ ขอให้ขับไล่จำเลยกับบริวารจำเลยต่อสู้ว่า เป็นของจำเลยและฟ้องแย้งว่าได้เข้าหุ้นกับโจทก์ ขอให้โจทก์คืนทุนและแบ่งกำไรให้ดังนี้ฟ้องแย้งของจำเลยต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.177 วรรค 3 เพราะเป็นฟ้องแย้งเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม แต่เมื่อโจทก์จำเลยไม่ได้โต้แย้งแต่อย่างใดแล้วก็แล้วแต่ศาลจะสั่งตามที่เห็นสมควร
อนึ่งฟ้องแย้งของจำเลยขอให้คืนทุนและแบ่งกำไรจากโจทก์ผู้เป็นหุ้นส่วนเมื่อปรากฎว่าหุ้นส่วนยังไม่เลิกจากกันดังนี้ฟ้องไม่ได้ แต่คดีนี้เมื่อศาลล่างได้รับไว้พิจารณาและสืบพยานเรื่องหุ้นส่วนมาจนสิ้นกระแสร์ความแล้วเช่นนี้ ศาลฎีกาจะรื้อฟื้นให้พิจารณาเรื่องชำระบัญชีหุ้นส่วนกันอีกครั้งอนึ่งก็จะเป็นการเสียหายแก่คู่ความโดยไม่ได้ข้อเท็จจริงเพิ่ม ขึ้นแต่ประการใดดังนี้เมื่อศาลเห็นควรก็พิพากษาไปเสียทีเดียวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1195/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์เรือนพิพาท & หุ้นส่วน: ศาลฎีกาพิพากษาเรื่องกรรมสิทธิ์เรือน และชำระบัญชีหุ้นส่วนควบคู่กันไป
โจทก์ฟ้องว่าเรือนพิพาทเป็นของโจทก์ ขอให้ขับไล่จำเลยกับบริวารจำเลยต่อสู้ว่า เป็นของจำเลย และฟ้องแย้งว่าได้เข้าหุ้นกับโจทก์ ขอให้โจทก์คืนทุนและแบ่งกำไรให้ ดังนี้ฟ้องแย้งของจำเลยต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม เพราะเป็นฟ้องแย้งเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม แต่เมื่อโจทก์จำเลยไม่ได้โต้แย้งแต่อย่างใดแล้วก็แล้วแต่ศาลจะสั่งตามที่เห็นสมควร
อนึ่งฟ้องแย้งของจำเลยขอให้คืนทุนและแบ่งกำไรจากโจทก์ผู้เป็นหุ้นส่วน เมื่อปรากฏว่าหุ้นส่วนยังไม่เลิกจากกันดังนี้ฟ้องไม่ได้ แต่คดีนี้เมื่อศาลล่างได้รับไว้พิจารณาและสืบพยานเรื่องหุ้นส่วนมาจนสิ้นกระแสร์ความแล้วเช่นนี้ ศาลฎีกาจะรื้อฟื้นให้พิจารณาเรื่องชำระบัญชีหุ้นส่วนกันอีกครั้งหนึ่งก็จะเป็นการเสียหายแก่คู่ความโดยไม่ได้ข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้นแต่ประการใด ดังนี้เมื่อศาลเห็นควรก็พิพากษาไปเสียทีเดียวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทหุ้นส่วนจำกัด: การชำระหนี้ค่าหุ้นและการถอนหุ้นโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนอื่น
โจทก์ฟ้องว่า ได้เข้าหุ้นทำป่าไม้กับจำเลยเป็นเงิน 10000 บาท ต่อมาสามีดจทก์บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นรายนี้ และดจทก์ขอคืนเงินค่าหุ้น จำเลยยอมคืนและผ่อนชำระแล้ว 1500 บาท ที่เหลือ 8500 บาท ขอผัดชำระวันหลังแล้ว ในที่สุดไม่ยอมชำระจึงขอให้ศาลบังคับ.
จำเลยปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นส่วน แต่รับว่าได้คืนเงินค่าหุ้นให้ 1500 บาทจริง เพราะสำคัญ ผิด คิดว่ามีอำนาจคืนได้โดยไม่ต้องให้หุ้นส่วนทั้งหมดยินยอม ดังนี้ ประเด็นในข้อท่สามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมหรือ ไม่ ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะ ประเด็นคงมีเพียงจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้วหรือยัง เท่านั้น ข้อที่จำเลยต่อสู้ว่า ยอมให้โจทก์ถอนหุ้น โดยสำคัญผิดเพราะที่ถูกจะต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทุกคนก่อนนั้น ก็ไม่จำต้อง พิจารณาถึง เพราะการที่จำเลยยอมให้ดจทก์ถอนหุ้นเช่นเรื่องนี้ เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่ใช่เรื่องของ หุ้นส่วน./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องหุ้นส่วนและการชำระหนี้เงินค่าหุ้น โดยประเด็นหลักอยู่ที่การชำระเงินครบถ้วนหรือไม่
โจทก์ฟ้องว่า ได้เข้าหุ้นทำป่าไม้กับจำเลยเป็นเงิน10,000 บาทต่อมาสามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นรายนี้และโจทก์ขอคืนเงินค่าหุ้นจำเลยยอมคืนและผ่อนชำระแล้ว 1,500 บาท ที่เหลือ 8,500 บาทขอผัดชำระวันหลังแล้วในที่สุดไม่ยอมชำระจึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นส่วน แต่รับว่าได้คืนเงินค่าหุ้นให้ 1,500 บาทจริงเพราะสำคัญผิด คิดว่ามีอำนาจคืนได้โดยไม่ต้องให้หุ้นส่วนทั้งหมดยินยอม ดังนี้ ประเด็นในข้อที่สามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมหรือไม่ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะ ประเด็นคงมีเพียงว่าจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้วหรือยัง เท่านั้นข้อที่จำเลยต่อสู้ว่ายอมให้โจทก์ถอนหุ้นโดยสำคัญผิดเพราะที่ถูกจะต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทุกคนก่อนนั้น ก็ไม่จำต้องพิจารณาถึง เพราะการที่จำเลยยอมให้โจทก์ถอนหุ้นเช่นเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่ใช่เรื่องของหุ้นส่วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนใช้ชื่อบริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนกู้เงิน ความรับผิดชอบยังคงเป็นของหุ้นส่วน
สองคนเข้าหุ้นส่วนกันตั้งร้านค้า มีชื่อเป็นบริษัทบริษัทหนึ่งได้ทำสัญญากู้เงินเขา โดยหุ้นส่วนคนหนึ่งลงชื่อเป็นผู้กู้ มีผู้อื่นเป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาผิดนัดไม่ชำระหนี้แก่เขา ผู้ค้ำประกันต้องออกเงินใช้แทนไป ดังนี้ แม้ในสัญญากู้และ
สัญญาค้ำประกันจะใช้คำว่า บริษัทเป็นผู้กู้ก็ดี แต่บริษัทดังว่า ยังมิได้จะทะเบียนเป็นนิติบุคคล จึงไม่ทำให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสองพ้นจากความรับผิดไปได้เพราะชื่อบริษัทที่กล่าวนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนใช้แทนชื่อของตน
นั่นเอง./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนใช้ชื่อบริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนกู้เงิน ความรับผิดชอบยังคงอยู่ที่หุ้นส่วน
สองคนเข้าหุ้นส่วนกันตั้งร้านค้า มีชื่อเป็นบริษัทบริษัทหนึ่งได้ทำสัญญากู้เงินเขา โดยหุ้นส่วนคนหนึ่งลงชื่อเป็นผู้กู้มีผู้อื่นเป็นผู้ค้ำประกันต่อมาผิดนัดไม่ชำระหนี้แก่เขา ผู้ค้ำประกันต้องออกเงินใช้แทนไป ดังนี้ แม้ในสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันจะใช้คำว่าบริษัทเป็นผู้กู้ก็ดี แต่บริษัทดังว่า ยังมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจึงไม่ทำให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสองพ้นจากความรับผิดไปได้เพราะชื่อบริษัทที่กล่าวนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนใช้แทนชื่อของตนนั่นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1168/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดจดบัญชีเท็จและฉ้อโกงหุ้นส่วน การรอการลงโทษเมื่อมีการประนีประนอม
ความผิดตาม มาตรา 344 ฐานจดบัญชีห้างหุ้นส่วนเท็จนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนอาจเป็นโจทก์ฟ้องได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 1 ปี จำเลยฎีกาในข้อกฎหมาย ศาลฎีกาอาจพิพากษาให้รอการลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 98/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการนอกเหนืออำนาจของผู้จัดการหุ้นส่วน ทำให้ห้างหุ้นส่วนเสียหาย ผู้จัดการต้องรับผิด
ร้านของจำเลยเป็นผู้ทำการติดต่อซื้อน้ำมันจากบริษัทต่างประเทศ และร้านซึ่งโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันรับช่วงซื้อน้ำมันจากร้านจำเลยเอามาขาย การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการร้านหุ้นส่วนด้วยได้เอาเงินของร้านหุ้นส่วนส่งไปซื้อน้ำมันยังบริษัทต่างประเทศแล้วถูกบริษัทต่างประเทศหักเงินเป็นค่าถังเปล่า ซึ่งร้านจำเลยค้างส่งแก่บริษัทเสียนั้น ได้ชื่อว่าจำเลยทำการนอกเหนืออำนาจ เป็นเหตุให้ร้านหุ้นส่วนเสียหาย จำเลยจึงต้องรับผิดในเงินที่ส่งไปนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 98/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำนอกอำนาจของผู้จัดการหุ้นส่วนก่อให้เกิดความเสียหายต่อร้านหุ้นส่วน จำเลยต้องรับผิด
ร้านของจำเลยเป็นผู้ทำการติดต่อซื้อน้ำมันจากบริษัทต่างประเทศและร้านซึ่งโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันรับช่วงซื้อน้ำมันจากร้านจำเลยเอามาขาย การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการร้านหุ้นส่วนด้วยได้เอาเงินของร้านหุ้นส่วนส่งไปซื้อน้ำมันยังบริษัทต่างประเทศ แล้วถูกบริษัทต่างประเทศหักเงินเป็นค่าถังเปล่า ซึ่งร้านจำเลยค้างส่งแก่บริษัทเสียนั้น ได้ชื่อว่าจำเลยทำการนอกเหนืออำนาจเป็นเหตุให้ร้านหุ้นส่วนเสียหายจำเลยจึงต้องรับผิดในเงินที่ส่งไปนั้น
of 35