พบผลลัพธ์ทั้งหมด 431 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงต้องแสดงการหลอกลวงผู้เสียหายโดยตรง การหลอกลวงเจ้าหน้าที่ไม่ถือเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
ตามคำบรรยายฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยหลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งอย่างไรเพียงแต่บรรยายฟ้องว่า จำเลยร่วมกันหลอกลวงพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าห้องเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2 นั้นไม่แสดงว่าจำเลยกระทำความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกเงินเพื่อตกลงเลิกคดีหลังถูกทำร้าย ไม่ถือเป็นความผิดขู่กรรโชก หากไม่มีเจตนาทุจริต
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ถูกผู้เสียหายยิง แล้วได้ไปแจ้งความต่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นกำนัน การที่จำเลยที่ 2 เรียกร้องเอาเงินจากผู้เสียหายเพื่อตกลงเลิกคดีกัน และจำเลยที่ 1 ก็ได้พูดกับผู้เสียหายเป็นทำนองไกล่เกลี่ยให้เลิกแล้วต่อกันนั้น ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามมาตรา 148, 337
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกเงินตกลงคดีหลังถูกทำร้าย: ไม่เป็นความผิดขู่กรรโชก หากไม่มีเจตนาทุจริต
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ถูกผู้เสียหายยิง แล้วได้ไปแจ้งความต่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นกำนัน การที่จำเลยที่ 2 เรียกร้องเอาเงินจากผู้เสียหายเพื่อตกลงเลิกคดีกัน และจำเลยที่ 1 ก็ได้พูดกับผู้เสียหายเป็นทำนองไกล่เกลี่ยให้เลิกแล้วต่อกันนั้น ดังนี้จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามมาตรา 148, 337
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นปัญหาข้อเท็จจริงในคดีเบียดบังเงิน
ปัญหาที่ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตกระทำผิดหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
(อ้างฎีกาที่ 457/2489)
(อ้างฎีกาที่ 457/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นข้อเท็จจริง ศาลฎีกาห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ปัญหาที่ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตกระทำผิดหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง (อ้างฎีกาที่ 457/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมัครสมาชิกสมาคมฌาปนกิจต้องดำเนินการด้วยตนเอง หากมีเจตนาทุจริต สัญญาเป็นโมฆะ สมาคมไม่ต้องจ่ายเงิน
ข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจมีว่า ผู้สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมต้องมีสุขภาพสมบูรณ์โดยมีใบรับรองแพทย์ และต้องไปให้กรรมการของสมาคมพิจารณาด้วยตนเอง และผู้สมัครต้องยื่นหนังสือแสดงความจำนงด้วยตนเอง ปรากฏว่า บุคคลผู้ไปยื่นใบสมัครและรับการตรวจโรคเป็นคนอื่นแต่ใช้ชื่อของอีกคนหนึ่งสมัคร ดังนี้จึงถือไม่ได้ว่า ผู้ที่มีชื่อตามใบสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมฌาปนกิจนั้นโดยชอบ สมาคมไม่มีความผูกพันที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่ถูกระบุชื่อให้เป็นผู้รับเงินฌาปนกิจ
แม้ทนายจำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ แต่ได้ยื่นคำร้องและได้แถลงต่อศาลอันเป็นการปฏิบัติในการว่าคดี ศาลคิดค่าทนายให้ได้.
แม้ทนายจำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ แต่ได้ยื่นคำร้องและได้แถลงต่อศาลอันเป็นการปฏิบัติในการว่าคดี ศาลคิดค่าทนายให้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริต ผู้ถือเช็คมีสิทธิฟ้องได้ แม้ไม่ใช่ผู้รับเช็คโดยตรง
เช็คที่ฟ้องร้องกันเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยเป็นผู้ถือย่อมเป็นผู้ทรงเช็คเมื่อเช็คถึงกำหนด จำเลยจึงนำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคาร แต่ถูกธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน จำเลยจึงฟ้องกล่าวหาโจทก์ว่าโจทก์กระทำผิดอาญาโดยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ข้อความที่จำเลยกล่าวหาโจทก์ว่ากระทำผิดทางอาญาจึงอยู่ที่ข้อความตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติไว้นั้น หาใช่อยู่ที่ข้อความว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คนั้นให้แก่ผู้ใด และจ่ายเช็คนั้นเป็นการชำระหนี้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งมิใช่จำเลยหรือไม่(อ้างฎีกาที่ 288/2507) ดังนั้น ฟ้องของจำเลยจึงไม่เป็นฟ้องเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริต ผู้ฟ้องต้องพิสูจน์เจตนาทุจริต ไม่ใช่แค่ผู้รับเช็ค
เช็คที่ฟ้องร้องกันเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยเป็นผู้ถือย่อมเป็นผู้ทรงเช็ค เมื่อเช็คถึงกำหนด จำเลยจึงนำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคาร แต่ถูกธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน จำเลยจึงฟ้องกล่าวหาโจทก์ว่าโจทก์กระทำผิดอาญาโดยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497 มาตรา 3 ข้อความที่จำเลยกล่าวหาโจทก์ว่ากระทำผิดทางอาญาจึงอยู่ที่ข้อความตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติไว้นั้น หาใช่อยู่ที่ข้อความว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คนั้นให้แก่ผู้ใด และจ่ายเช็คนั้นเป็นการชำระหนี้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งมิใช่จำเลยหรือไม่(อ้างฎีกาที่ 284/2507)ดังนั้นฟ้องของจำเลยจึงไม่เป็นฟ้องเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเช็คของผู้เสียหายไปโดยเจตนาทุจริตเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน ถือเป็นความผิดฐานเอาไปเสีย
ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ทรงเช็ค ได้ส่งเช็คซึ่งกำหนดแล้วให้แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเพื่อให้จำเลยออกเช็คให้ใหม่แทนเช็คฉบับนั้นเพราะธนาคารปฏิเทธการจ่ายว่ามีเงินไม่พอจ่าย จำเลยได้รับเช็คแล้วได้เอาเช้คนั้นหลบหนีไป และไม่ได้ออกเช็คให้ใหม่ ดังนี้ เป็นการเอาไปเสียซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเอาเช็คของผู้อื่นไปโดยเจตนาทุจริตเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คได้ส่งเช็คซึ่งถึงกำหนดแล้วให้แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเพื่อให้จำเลยออกเช็คให้ใหม่แทนเช็คฉบับนั้นเพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายว่าเงินไม่พอจ่ายจำเลยได้รับเช็คแล้วได้เอาเช็คนั้นหลบหนีไปและไม่ได้ออกเช็คให้ใหม่ ดังนี้ เป็นการเอาไปเสียซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188