คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดความจำเป็นในการพิจารณาคดีหลังจำเลยเลิกกิจการ ศาลฎีกายกฟ้อง
เมื่อเหตุที่มีการโต้แย้งในอันที่จะขอให้ศาลบังคับได้หมดไปแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยคดีต่อไป ศาลฎีกาย่อมยกฎีกาเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัว: การใช้ขวานเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายด้วยมีดพก ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ว่าเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ
จำเลยและผู้ตายได้พูดเถียงกัน ผู้ตายชักมีดพกยาว 1 คืบเศษ จำเลยลุกขึ้นยืน ผู้ตายลุกขึ้นยืน จำเลยถอยไปข้างฝาและหยิบขวานที่เหน็บฝาไว้ พอผู้ตายเดินเข้ามา จำเลยก็ใช้ขวานทุบศีรษะผู้ตาย 1 ที ผู้ตายล้มลงและถึงแก่ความตายนั้น การกระทำของจำเลยเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลยให้พ้นภยันตราย ซึ่งเกิดขึ้นโดยผิดกฎหมาย ไม่ควรลงอาญาแก่จำเลยตาม มาตรา 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงผู้วิจารณ์ ยั่วโทสะหรือไม่: ศาลฎีกาตัดสินใจ
จำเลยก่อเหตุยิงสัตว์ใกล้บ้านผู้ตายในเวลาค่ำคืน ผู้ตายว่ากล่าวห้ามปรามและด่าจำเลย จำเลยยิงผู้ตายถึงตาย ไม่พอถือเป็นเหตุลดโทษฐานยั่วโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและการงดกักกันในคดีลักทรัพย์: ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษกักกันได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ฐานลักทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294 เพิ่มโทษและลดโทษ มีส่วนเท่ากันให้หักกลบลบกันไปคงจำคุก 1 ปี พ้นโทษแล้วให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันมีกำหนด 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ แม้คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ดี แต่เมื่อจำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อ ก.ม.ขึ้นมาศาลฎีกาแล้ว และศาลฎีกาเห็นในข้อ ก.ม.ตามศาลอุทธรณ์ก็ตาม ศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้งดส่งตัวจำเลยไปกักกันเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและงดกักกันในคดีลักทรัพย์: ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษกักกันโดยคำนึงถึงปัจจัยจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ฐานลักทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 294. เพิ่มโทษและลดโทษ มีส่วนเท่ากันให้หักกลบลบกันไปคงจำคุก 1 ปี พ้นโทษแล้วให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันมีกำหนด 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนดังนี้ แม้คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ดีแต่เมื่อจำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายขึ้นมาศาลฎีกาแล้วและศาลฎีกาเห็นในข้อกฎหมายตามศาลอุทธรณ์ก็ตามศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้งดส่งตัวจำเลยไปกักกันเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1195/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิเรือนพิพาทและหุ้นส่วน: ศาลฎีกาพิพากษาเรื่องกรรมสิทธิเรือนพิพาทและข้อพิพาทเรื่องหุ้นส่วนควบคู่กัน
โจทย์ฟ้องว่าเรือนพิพาทเป็นของโจทก์ ขอให้ขับไล่จำเลยกับบริวารจำเลยต่อสู้ว่า เป็นของจำเลยและฟ้องแย้งว่าได้เข้าหุ้นกับโจทก์ ขอให้โจทก์คืนทุนและแบ่งกำไรให้ดังนี้ฟ้องแย้งของจำเลยต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.177 วรรค 3 เพราะเป็นฟ้องแย้งเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม แต่เมื่อโจทก์จำเลยไม่ได้โต้แย้งแต่อย่างใดแล้วก็แล้วแต่ศาลจะสั่งตามที่เห็นสมควร
อนึ่งฟ้องแย้งของจำเลยขอให้คืนทุนและแบ่งกำไรจากโจทก์ผู้เป็นหุ้นส่วนเมื่อปรากฎว่าหุ้นส่วนยังไม่เลิกจากกันดังนี้ฟ้องไม่ได้ แต่คดีนี้เมื่อศาลล่างได้รับไว้พิจารณาและสืบพยานเรื่องหุ้นส่วนมาจนสิ้นกระแสร์ความแล้วเช่นนี้ ศาลฎีกาจะรื้อฟื้นให้พิจารณาเรื่องชำระบัญชีหุ้นส่วนกันอีกครั้งอนึ่งก็จะเป็นการเสียหายแก่คู่ความโดยไม่ได้ข้อเท็จจริงเพิ่ม ขึ้นแต่ประการใดดังนี้เมื่อศาลเห็นควรก็พิพากษาไปเสียทีเดียวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1195/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์เรือนพิพาท & หุ้นส่วน: ศาลฎีกาพิพากษาเรื่องกรรมสิทธิ์เรือน และชำระบัญชีหุ้นส่วนควบคู่กันไป
โจทก์ฟ้องว่าเรือนพิพาทเป็นของโจทก์ ขอให้ขับไล่จำเลยกับบริวารจำเลยต่อสู้ว่า เป็นของจำเลย และฟ้องแย้งว่าได้เข้าหุ้นกับโจทก์ ขอให้โจทก์คืนทุนและแบ่งกำไรให้ ดังนี้ฟ้องแย้งของจำเลยต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม เพราะเป็นฟ้องแย้งเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม แต่เมื่อโจทก์จำเลยไม่ได้โต้แย้งแต่อย่างใดแล้วก็แล้วแต่ศาลจะสั่งตามที่เห็นสมควร
อนึ่งฟ้องแย้งของจำเลยขอให้คืนทุนและแบ่งกำไรจากโจทก์ผู้เป็นหุ้นส่วน เมื่อปรากฏว่าหุ้นส่วนยังไม่เลิกจากกันดังนี้ฟ้องไม่ได้ แต่คดีนี้เมื่อศาลล่างได้รับไว้พิจารณาและสืบพยานเรื่องหุ้นส่วนมาจนสิ้นกระแสร์ความแล้วเช่นนี้ ศาลฎีกาจะรื้อฟื้นให้พิจารณาเรื่องชำระบัญชีหุ้นส่วนกันอีกครั้งหนึ่งก็จะเป็นการเสียหายแก่คู่ความโดยไม่ได้ข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้นแต่ประการใด ดังนี้เมื่อศาลเห็นควรก็พิพากษาไปเสียทีเดียวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1154/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบพยานเกี่ยวกับพินัยกรรมและการพิจารณาคดีมรดก ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่าการพิจารณาของศาลชั้นต้นถูกต้องแล้ว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกโดยไม่มีพินัยกรรม จำเลยต่อสู้ว่าเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกให้จำเลยดังนี้หน้าที่นำสืบตกแก่จำเลย เมื่อได้สืบพยานทั้งสองฝ่ายไปจนสิ้นกระแสความแล้ว โดยศาลชั้นต้นให้โจทก์นำสืบก่อนโจทก์ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า หากจะพิจารณาใหม่โจทก์จะมีพยานหลักฐานอื่นใดมาสืบพิสูจน์หักล้างพยานหลักฐานจำเลย เกี่ยวกับพินัยกรรมอีก ดังนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องสั่งให้พิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายเนื่องจากไม่วางเงินค่าธรรมเนียม ศาลฎีกายกคำขอให้รับอุทธรณ์
จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่จะพึงรับไว้พิจารณา จึงให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยเสีย เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว 22 วัน จำเลยได้ยื่นคำร้องขอวางเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์ (ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาพ้นกำหนดอายุความอุทธรณ์นานถึง5เดือนเศษแล้ว) แล้วฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของจำเลยดังนี้คดีไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัตราโทษความผิดพยายามข่มขืนชำเรา: ศาลฎีกาวินิจฉัยการลดโทษตามกฎหมาย
แม้ความผิดฐานาข่มขืนชำเราตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 244 วรรคต้นมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงถือ 10 ปี แต่ ความผิดฐานพยายามตามมาตรา 244 นั้น อย่างสูงศาลจะพิพากษาโทษได้ 6 ปี 8 เดือนเท่านั้น จึงเป็นคดีที่ไม่จำเป็น ต้องฟังพยานโจทก์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 176 ก่อน เมื่อจำเลยรับสารภาพจำเลยก็ย่อมพิพาทลงโทษจำเลยได้ที เดียว./
of 344