พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,082 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาข้อเท็จจริงในคดีที่ทุนทรัพย์เกิน 2,000 บาท แม้ศาลชั้นต้น/อุทธรณ์พิพากษาให้ได้น้อยกว่า
คดีที่ราคาทรัพย์ที่พิพาทหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้องเกิน 2,000 บาท นั้น แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ชนะคดีเพียงจำนวนไม่ถึง 2,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนก็ตาม คู่ความก็มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพหลังต่อสู้คดีเดิม ศาลไม่พิจารณาข้อต่อสู้เดิม และอำนาจสอบสวนเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์แม้จะไม่ปรากฏข้อความว่าให้ยืน ยก แก้หรือกลับ แต่ปรากฏข้อความว่าอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ซึ่งแสดงว่า พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั่นเองซึ่ง ถูกต้องตามมาตรา 214 ป.วิ.อาญาแล้ว
ในชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ และต่อว่าผู้กระทำการสอบสวนทำการสอบสวนโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ต่อมาจำเลยกลับให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องโจทก์ทุกประการ ขอให้ลงโทษจำเลยแต่ในสถานเบา และแยกพิพากษาคดีส่วนตัวของจำเลยให้เสร็จสิ้นไปนั้น เป็นการแสดงว่าจำเลยไม่ติดใจต่อสู้คดี ตามคำให้การฉะบับแรกนั้นแล้ว ฉะนั้นข้อต่อสู้ของจำเลยชั้นเดิมที่ว่าการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่เป็น+ที่ศาลจะร้องยกขึ้นวินิจฉัย
+จะฟังว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง เพราะในการนี้อาจต้องพิจารณาถึงข้อบังคับกฎหมายซึ่งว่าด้วยอำนาจและหน้าที่ของตำรวจเป็นข้อประกอบด้วย ตามมาตรา 16 ป.วิ.อาญา
ในชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ และต่อว่าผู้กระทำการสอบสวนทำการสอบสวนโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ต่อมาจำเลยกลับให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องโจทก์ทุกประการ ขอให้ลงโทษจำเลยแต่ในสถานเบา และแยกพิพากษาคดีส่วนตัวของจำเลยให้เสร็จสิ้นไปนั้น เป็นการแสดงว่าจำเลยไม่ติดใจต่อสู้คดี ตามคำให้การฉะบับแรกนั้นแล้ว ฉะนั้นข้อต่อสู้ของจำเลยชั้นเดิมที่ว่าการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่เป็น+ที่ศาลจะร้องยกขึ้นวินิจฉัย
+จะฟังว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง เพราะในการนี้อาจต้องพิจารณาถึงข้อบังคับกฎหมายซึ่งว่าด้วยอำนาจและหน้าที่ของตำรวจเป็นข้อประกอบด้วย ตามมาตรา 16 ป.วิ.อาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความคลาดเคลื่อนวันเกิดเหตุในฟ้อง ไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง หากข้อเท็จจริงยังคงสอดคล้องกัน
ฟ้องของโจทก์กล่าวทั้ง วันทางจันทรคติ และทางสุริยคติ แต่วันทางจันทรคติผิดไป แต่ถูกตามวันสุริยคตินั้น ยังไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง อันเป็นเหตุให้ยกฟ้อง
(อ้างฎีกา 745/2489)
(อ้างฎีกา 745/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความคลาดเคลื่อนของวันในฟ้องอาญาไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง หากข้อเท็จจริงโดยรวมยังคงตรงกัน
ฟ้องของโจทก์กล่าวทั้งวันทางจันทรคติและทางสุริยคติ แต่วันทางจันทรคติผิดไป แต่ถูกตามวันสุริยคตินั้น ยังไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องอันเป็นเหตุให้ยกฟ้อง (อ้างฎีกา 745/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 735/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนกระทำการนอกอำนาจและไม่สมประโยชน์: ปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยถูกต้องแล้ว
ตัวแทนกระทำการนอกอำนาจและสมประโยชน์ตัวการหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 735/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจตัวแทนและการกระทำนอกเหนืออำนาจ: ศาลฎีกายกฟ้องเนื่องจากประเด็นข้อเท็จจริง
ตัวแทนกระทำการนอกอำนาจและสมประโยชน์ตัวการหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงในคดีอาญาไม่ผูกพันคดีแพ่ง: การรุกที่ดิน
ศาลพิพากษาชี้ขาดข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ว่า 'ผู้เสียหายไม่รู้ว่าเขตโฉนดของตนอยู่แค่ไหนจำเลยจะบุกรุกเข้าไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่หาว่าจำเลยบุกรุกเข้าไป ก็เพราะสังเกตไว้เข้าใจเอาเท่านั้น ฟังไม่ได้แน่นอนว่า จำเลยรุกที่ดินของผู้เสียหายฯลฯ'ดังนี้ ถือว่าศาลไม่ได้ชี้ขาดว่าจำเลยไม่ได้รุกที่ดินของผู้เสียหาย เป็นแต่ว่า ผู้เสียหายไม่รู้เขตที่ คือนำสืบไม่ชัดว่า ที่ดินของผู้เสียหายแค่ไหน จึงลงโทษจำเลยทางอาญาไม่ได้เท่านั้น ฉะนั้นเมื่อผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้จัดการทำแผนที่วิวาท และนำสืบจนฟังได้แน่นอนว่า จำเลยรุกที่ของโจทก์แล้ว ศาลก็ย่อมฟังข้อเท็จจริงในคดีแพ่งว่าจำเลยรุกที่ดินโจทก์ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าและการอาศัย: ศาลปรับข้อเท็จจริงเข้าบทกฎหมายได้ แม้ใช้คำว่า 'อาศัย' หากมีลักษณะเป็นการเช่า
การเช่าและการอาศัยอยู่ในลักษณะเดียวกัน ผิดกันแต่ว่า การเช่าต้องเสียค่าเช่า การอาศัยไม่ต้องเสียค่าเช่า
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยกล่าวว่า จำเลยได้อาศัยโดยเสียค่าน้ำค่าไฟซึ่งเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงของการปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลยว่าเป็นเช่นไรเพื่อขอให้ศาลปรับเข้ากับตัวบทกฎหมายแล้วขับไล่จำเลย เมื่อคดีได้ความว่าเป็นการเช่าศาลก็ตัดสินได้ ไม่เป็นการเกินหรือนอกคำฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยกล่าวว่า จำเลยได้อาศัยโดยเสียค่าน้ำค่าไฟซึ่งเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงของการปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลยว่าเป็นเช่นไรเพื่อขอให้ศาลปรับเข้ากับตัวบทกฎหมายแล้วขับไล่จำเลย เมื่อคดีได้ความว่าเป็นการเช่าศาลก็ตัดสินได้ ไม่เป็นการเกินหรือนอกคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมโนสาเร่: การฟ้องขับไล่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิหรือการตีความสัญญา
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลย ซึ่งเป็นบริวารของผู้เช่าออกจากห้องเช่าอันมีราคาค่าเช่าเดือนละ 6 บาท จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยเป็นผู้เช่าเอง หาได้ต่อสู้กรรมสิทธิหรือเถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่าไม่ จึงเป็นคดีมโนสาเร่ อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิที่ดินโดยครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงเรื่องการครอบครองก่อนชี้ขาดเรื่องความสุจริต
โจทก์ฟ้องว่าผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ+จึงตาย จำเลยที่ 1 เป็นทายาทของผู้ตาย ได้ขอโอนรับมฤดกที่พิพาท และได้ขายให้จำเลยที่ 2 โดย+สุจริต จึงขอให้ศาลแสดง+โจทก์มีกรรมสิทธิในที่พิพาท และถอนชื่อจำเลยที่ 2 ออกจากโฉนด
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามพยานโจทก์ พิพากษาให้โจทก์ชะนะคดีในตามฟ้อง
ศาลอุทรณ์ไม่ได้ชี้ข้อเท็จจริงว่า โจทก์ครอบครองจนได้กรรมสิทธิหือไม่ แต่ชี้ในข้อที่ว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ซื้อไปโดยไม่สุจริต พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาในข้อที่ว่า สัญญาซื้อขายไม่สุจริตข้อเดียว
ศาลฎีกามีอำนาจชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิโดยครอบครองปรกักษ์ได้
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามพยานโจทก์ พิพากษาให้โจทก์ชะนะคดีในตามฟ้อง
ศาลอุทรณ์ไม่ได้ชี้ข้อเท็จจริงว่า โจทก์ครอบครองจนได้กรรมสิทธิหือไม่ แต่ชี้ในข้อที่ว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ซื้อไปโดยไม่สุจริต พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาในข้อที่ว่า สัญญาซื้อขายไม่สุจริตข้อเดียว
ศาลฎีกามีอำนาจชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิโดยครอบครองปรกักษ์ได้