พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,884 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมแปลงสลากและการยักยอกเงิน จำเลยมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารและฐานยักยอกทรัพย์
พิมพ์สลากกินแบ่งปลอมขึ้นแต่ยังไม่มีเลขลำดับไม่ได้เข้าเล่มและยังไม่ประทับตราประธานและเลขานุการก็เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ ไม่ใช่เพียงคั่นพยายาม
ข้าหลวงประจำจังหวัดได้รับอนุมัติกระทรวงมหาดไทยออกสลากกินแบ่งหาเงินรายได้บำรุงเทศบาลจังหวัดนั้น และเป็นเวลาก่อนมีกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาล สลากกินแบ่งนั้นถือว่าเป็นหนังสือสำคัญธรรมดา ไม่ใช่หนังสือสำคัญในราชการศาลชั้นต้นและศาลอาญาพิพากษาต้องกันให้จำคุกจำเลย 5 ปีฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นวางมาตรา 225 จำคุก 7 ปี ศาลอุทธรณ์วาง ม.224-60 จำคุก 3 ปี 4 เดือน เป็นการแก้มาก คู่ความฎีกาข้อเท็จจริงได้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตาม ม.225 พิจารณาได้ความว่าจำเลยมีผิดตาม ม.224 ศาลลงโทษจำเลยตาม ม.224 ได้การฎีกาว่าตามข้อเท็จจริงที่ได้ความมาจำเลยเป็นผู้มีหน้าที่ตาม ม.319(3) หรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ข้าหลวงประจำจังหวัดได้รับอนุมัติกระทรวงมหาดไทยออกสลากกินแบ่งหาเงินรายได้บำรุงเทศบาลจังหวัดนั้น และเป็นเวลาก่อนมีกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาล สลากกินแบ่งนั้นถือว่าเป็นหนังสือสำคัญธรรมดา ไม่ใช่หนังสือสำคัญในราชการศาลชั้นต้นและศาลอาญาพิพากษาต้องกันให้จำคุกจำเลย 5 ปีฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นวางมาตรา 225 จำคุก 7 ปี ศาลอุทธรณ์วาง ม.224-60 จำคุก 3 ปี 4 เดือน เป็นการแก้มาก คู่ความฎีกาข้อเท็จจริงได้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตาม ม.225 พิจารณาได้ความว่าจำเลยมีผิดตาม ม.224 ศาลลงโทษจำเลยตาม ม.224 ได้การฎีกาว่าตามข้อเท็จจริงที่ได้ความมาจำเลยเป็นผู้มีหน้าที่ตาม ม.319(3) หรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการสอบสวนก่อนฟ้องคดีอาญา: การสอบสวนปากคำจำเลยเพียงผู้เดียวถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
การสอบสวนก่อนยื่นฟ้องคดีนั้นกฎหมายมิได้บัญญัติว่าจะต้องสอบสวนมากน้อยเพียงใด การที่เจ้าพนักงานสอบสวนจดปากคำจำเลยแต่เพียงปากเดียว ก็ถือว่าได้มีการสอบสวนในเรื่องนั้นแล้วได้ สรรพสามิตต์อำเภอจะทำการสอบสวนคดีโดยลำพังได้หรือไม่
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อกฎหมายแล้วพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์โดยไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงต่อไป เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับข้อกฎหมายของศาลชั้นต้นแล้วก็มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงแห่งคดีแล้วพิพากษาโดยมิต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในข้อเท็จจริงใหม่
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อกฎหมายแล้วพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์โดยไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงต่อไป เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับข้อกฎหมายของศาลชั้นต้นแล้วก็มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงแห่งคดีแล้วพิพากษาโดยมิต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในข้อเท็จจริงใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แก้ไขโทษจำคุกจากศาลชั้นต้นเป็นศาลอุทธรณ์ จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงแต่ศาลฎีkayืนตาม
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือนตาม ม.245 ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก 2 ปีตาม ม.244,60 ดังนี้เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาที่ไม่เป็นเอกฉันท์และการจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ไม่ได้รับสำเนาฎีกา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาปล่อยจำเลย 3 คนพ้นข้อหาไปโจทก์ฎีกาแต่ส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยคนหนึ่งมิได้ศาลฎีกาจำหน่ายคดีฉะเพาะที่เกี่ยวกับตัวจำเลยที่ส่งสำเนาฎีกามิได้นั้นออกจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฎีกาเริ่มต้นนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง การยื่นฎีกาเกินกำหนดอายุความ
อายุความฎีกานั้นเริ่มนับแต่วันอ่านให้จำเลยฟังศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2480 (28 วัน) โจทก์ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2480 ดังนี้ ฎีกาขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มรณะของจำเลยทำให้สิทธิในการเรียกร้องค่าปรับและแร่ของกลางระงับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปรับจำเลยและริบแร่ของกลางจำเลยได้ชำระค่าปรับแล้วในระหว่างอุทธรณ์จำเลยตายดังนี้ ผู้จัดการมฤดกของจำเลยหมดความชอบธรรมที่จะร้องขอเงินค่าปรับและแร่ของกลางคืน
(หมายเหตุ เรื่องนี้มารดาจำเลยเคยร้องขอรับมฤดกความครั้งหนึ่งแล้วตามฎีกาที่ 1685/2479)
(หมายเหตุ เรื่องนี้มารดาจำเลยเคยร้องขอรับมฤดกความครั้งหนึ่งแล้วตามฎีกาที่ 1685/2479)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพจำเลย: ขอบเขตการยอมรับและการใช้เป็นเหตุหนักโทษ
การแปลความหมายของคำให้การรับสารภาพของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าปลอมหนังสือตอนท้ายกล่าวว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว แต่พ้นโทษมาเกินกำหนดขอให้ศาลใช้ดุลยพินิจในการลงโทษจำเลย จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์ไม่สืบพะยานดังนี้ ไม่ถือว่าจำเลยให้การรับสารภาพตลอดถึงข้อที่เคยต้องโทษมาแล้วด้วย
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าปลอมหนังสือตอนท้ายกล่าวว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว แต่พ้นโทษมาเกินกำหนดขอให้ศาลใช้ดุลยพินิจในการลงโทษจำเลย จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์ไม่สืบพะยานดังนี้ ไม่ถือว่าจำเลยให้การรับสารภาพตลอดถึงข้อที่เคยต้องโทษมาแล้วด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องคดีอาญา: ผลกระทบต่อจำเลยและอำนาจศาล
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยวิ่งราวทรัพย์ของนาย ส.ก่อนพิพากษาโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ชื่อเจ้าทรัพย์เปนนาง ส.ดังนี้ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือหลงสู้คดีอย่างไรศาลอนุญาตให้โจทก์แก้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานรับของโจร: การเข้าใจข้อหาของจำเลย
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อ 3 ปี+มีผู้ร้ายลักโคของเจ้าทรัพย์ไป แล้วต่อมา+โคของกลางได้โดยจำเลยลักมาหรือรับไว้โดย+ว่าเป็นของร้ายดังนี้+เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม: ข้อหาลักทรัพย์ vs. รับของโจร ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา และฟ้องของผู้เสียหายตกตามไปด้วย
โจทก์ฟ้องบรรยายข้อเท็จจริงว่าจำเลยลักทรัพย์ แล้วเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยทรัพย์ของกลางโทษจำเลยรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้ายได้มาโดยกระทำผิดดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุมต้องยกฟ้อง อ้างฎีกาที่ 975/2480 ในคดีที่พนักงานอัยยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลไว้แล้วผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ด้วยเช่นนี้เมื่อปรากฎว่าฟ้องของอัยยการโจทก์บกพร่องต้องยกฟ้องแล้วก็ทำให้คำร้องของผู้เสียหายพลอยตกไปด้วย