คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินการฟ้องคดีหลังศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำสั่งไม่รับฟ้อง: โจทก์ปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ดำเนินคดีต่อ
ฟ้องซึ่งศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำสั่งไม่รับฟ้องเพราะโจทก์ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลนั้น แม้ศาลจะได้ลงสารบบหมายคดีแดงแล้วก็ดีถ้าโจทก์ยื่นคำแถลงขึ้นมายอมปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลทุกประการและขอให้ศาลดำเนินคดีต่อไป เมื่อศาลชั้นต้นยอมจัดการให้และดำเนินคดีต่อไปแล้ว ก็ย่อมทำได้ไม่เป็นการลบล้างคำพิพากษาศาลฎีกาไม่จำเป็นที่จะต้องให้โจทก์ทำคำฟ้องมายื่นต่อศาลใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวจากการถูกฉุดและข่มขู่ด้วยอาวุธ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามอุทธรณ์
ชายหญิงได้เสียเป็นสามีภริยากันโดยได้เสียกันเอง มีบุตรด้วยกัน 1 คนแล้วเลิกกันหญิงไปมีสามีใหม่ ต่อมาชายพบหญิง อ้อนวอนหญิงให้กลับไปอยู่กินด้วยกันอีก หญิงไม่ยอม อ้อนวอนอยู่หลายครั้งหญิงก็ไม่ยอม ชายจึงใช้กำลังเข้าจับมือหญิงทั้ง 2 ข้างฉุดจะให้ไปกับตน และชักมีดปลายแหลมออกมาขู่จะแทงถ้าหญิงไม่ยอมไป หญิงจึงแย่งมีดนั้นได้ ชายยังคงจับมือหญิงอยู่อีกมือหนึ่ง แล้วจะแย่งมีดกลับคืน หญิงจึงแทงชายไป 1 ที ถูกที่เหนือนมซ้าย อยู่ได้อีกประเดี่ยวหนึ่ง ชายก็ถึงแก่ความตาย ดังนี้ย่อมถือว่าการกระทำของหญิงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ตายฉุดหญิงไปและไม่ให้แย่งมีดคืนเพราะถ้าแย่งมีดคืนไปได้ ผู้ตายอาจแทงหญิงก็ได้ จึงนับว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1857/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 กรณีรอการลงอาญา: ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่สามารถเพิ่มโทษได้หากจำเลยยังไม่ได้รับโทษจำคุก
พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา ( ฉะบับที่ 14 ) 2494 ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า " ให้...บวกโทษที่รอการลงอาญาไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลัง " นั้น ความตอนนี้ย่อมมีความมุ่งหมายเช่นเดียวกับมาตรา 42 ของเดิมนั้นเอง คือให้ลงโทษที่รอการอาญาไว้ในคดีก่อนเป็นโสดหนึ่งต่างหากจากโทษที่จำเลยจะต้องรับสำหรับความผิดครั้งหลัง
แต่ในเรื่องเพิ่มโทษตามมาตรา 72 นั้น ในกรณีรอการลงอาญา มาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ หาได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เพิ่มโทษได้ดุจมาตรา 42 ของเดิมไม่ ฉะนั้นเมื่อในคดีเดิมถูกรอการลงอาญาไว้ จำเลยจึงหาได้ถูกจำคุกและพ้นโทษจำคุกในคดีก่อนแล้วมากระทำผิดในคดีใหม่นี้อีกไม่ จึงจะเพิ่มโทษจำเลยมาตรา 72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 156/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการวินิจฉัยคดีแพ่งตามคำพิพากษาคดีอาญา: ศาลฎีกาไม่ผูกพันข้อเท็จจริงในส่วนแพ่งที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย
ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
ในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่มีส่วนรู้เห็นกับผู้กระทำผิด จึงให้ยกฟ้อง แต่วินิจฉัยต่อไปว่าจำเลยเคยเชิดผู้กระทำผิดเป็นตัวแทนทำให้ผู้เสียหายเข้าใจผิด จำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้เสียหายเสมือนผู้กระทำผิดเป็นตัวแทนของจำเลยพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ฟังว่า ผู้กระทำผิดเป็นตัวแทนนี้ เป็นการวินิจฉัยคดีเฉพาะในส่วนแพ่งโดยตรง ซึ่งไม่เกี่ยวกับคดีอาญาแต่อย่างใดศาลสูงจึงไม่จำเป็นจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาในเรื่องตัวแทนนี้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลในคดีแพ่ง: ศาลฎีกามุ่งหมายให้ชำระเฉพาะชั้นฎีกา
ผู้ขายฝากฟ้องว่า ได้ชำระเงินค่าไถ่ถอนทรัพย์ที่ขายฝากแล้วแต่ผู้รับซื้อไม่ไปแก้ทะเบียนการไถ่ถอน จึงขอให้ศาลบังคับผู้ซื้อให้ไปแก้ทะเบียนการไถ่ถอน ฝ่ายผู้ซื้อให้การปฏิเสธว่าไม่เคยรับเงินค่าไถ่ถอนจากผู้ขายฝากเลย ดังนี้ถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เท่าราคาทรัพย์ที่ขายฝาก โจทก์เสียค่าขึ้นศาลไม่ถูกมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ครั้นคดีมาถึงชั้นศาลฎีกา ศาลฎีกาสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มเส่ยให้ถูกต้อง ดังนี้ ย่อมมุ่งหมายให้เสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลที่ถูกต้องในคดีซื้อขายฝาก – ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มเติม
ผู้ขายฝากฟ้องว่า ได้ชำระเงินค่าไถ่ถอนทรัพย์ที่ขายฝากแล้วแต่ผู้รับซื้อไม่ไปแก้ทะเบียนการไถ่ถอน จึงขอให้ศาลบังคับผู้ซื้อให้ไปแก้ทะเบียนการไถ่ถอน ฝ่ายผู้ซื้อให้การปฏิเสธว่าไม่เคยรับเงินค่าไถ่ถอนจากผู้ขายฝากเลย ดังนี้ถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เท่าราคาทรัพย์ที่ขายฝาก โจทก์เสียค่าขึ้นศาลไม่ถูกมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ครั้นคดีมาถึงชั้นศาลฎีกา ศาลฎีกาสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มเสียให้ถูกต้อง ดังนี้ ย่อมมุ่งหมายให้เสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นฟ้องเคลือบคลุม: จำเลยฎีกาซ้ำไม่ได้ ศาลฎีกายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าฟ้องเคลือบคลุมแต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ จำเลยมิได้ฎีกาว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมต่อไป ครั้นศาลชั้นต้นพิจารณาคดีเสร็จแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืน ดังนี้จำเลยจะฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อในคดีอาญา: ความล่าช้าในการขอ และเจตนาโจทก์มีผลต่อการพิจารณา
จำเลยถูกฟ้องหลายสำนวน โจทก์เพิ่งจะมาขอให้นับโทษสำนวนแรกต่อกับโทษจำเลยในสำนวนที่ 5 ในชั้นอุทธรณ์ และขอให้เรียกตัวจำเลยมาสอบถามในชั้นศาลฎีกาดังนี้ แม้จำเลยจะเป็นคนเดียวกันจริงศาลฎีกาก็ไม่นับโทษต่อให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จเกี่ยวกับหลักทรัพย์ประกันตัว ศาลฎีกาห้ามฎีกาเนื่องจากเป็นการฟังข้อเท็จจริง
จำเลยมีที่ดินว่างเปล่ามาอ้างในคำร้องขอประกันตัวจำเลยต่อศาลว่า มีสวนผลไม้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังต้องกันว่าจำเลยแจ้งความเท็จ จำคุกจำเลย 3 เดือน ดังนี้เป็นการฟังข้อเท็จจริง ฎีกาจำเลยต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยมีด ศาลฎีกายืนโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
การที่จำเลยชักมีดปลายแหลมตรงเข้าแทงผู้ตายฝ่ายเดียวที่หน้าอกใต้ไหปลาร้า 1 ที โดยแรงจนปลายมีดไปตุงข้างหลัง ผู้ตายอยู่ได้ประเดี๋ยวเดียวก็ขาดใจตาย ดังนี้จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ม. 249
of 344