พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,082 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีไม่ตรงกับข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในศาล ถือเป็นการสืบไม่สมฟ้อง
โจทก์รับโคของจำเลยที่+ของฝ่ายตนทำให้บาดเจ็บไว้รักษา แล้วมอบโคของตนให้จำเลยไปใช้งานแทนก่อนชั่วคราวเมื่อรักษาแผลโคหายแล้วต่างจะเปลี่ยนโคกันตามเดิม ครั้นโคที่เจ็บตายแล้ว โจทก์ส่งคืนจำเลย ปรากฏว่าโคที่โจทก์มอบให้จำเลยไปใช้นั้นตายเสียแล้ว ดังนี้โจทก์ควรจะฟ้องเรียกโคของโจทก์กลับคืนหรือเรียกค่าเสียหายฐานยืมใช้คงรูป.
ถ้าโจทก์มาฟ้องว่าได้ตกลงแลกเปลี่ยนโคกับจำเลย โดยจำเลยรับมอบโคจากโจทก์แล้ว ส่วนโคของจำเลยซึ่งจะต้องมอบให้โจทก์นั้น จำเลยมิได้นำมามอบตามสัญญาแลกเปลี่ยน โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยมอบโคของจำเลยหรือใช้ราคาดังนี้ ถือว่าประเด็นที่โจทก์ฟ้องรูปเรื่องต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณา ฉะนั้นที่โจทก์ฟ้องผิดรูปเรื่องมาดังนี้เป็นการแสดงว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง ศาลต้องยกฟ้อง.
ถ้าโจทก์มาฟ้องว่าได้ตกลงแลกเปลี่ยนโคกับจำเลย โดยจำเลยรับมอบโคจากโจทก์แล้ว ส่วนโคของจำเลยซึ่งจะต้องมอบให้โจทก์นั้น จำเลยมิได้นำมามอบตามสัญญาแลกเปลี่ยน โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยมอบโคของจำเลยหรือใช้ราคาดังนี้ ถือว่าประเด็นที่โจทก์ฟ้องรูปเรื่องต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณา ฉะนั้นที่โจทก์ฟ้องผิดรูปเรื่องมาดังนี้เป็นการแสดงว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง ศาลต้องยกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีไม่ตรงกับข้อเท็จจริง การสืบพยานไม่สมประเด็นฟ้อง ทำให้ศาลยกฟ้อง
โจทก์รับโคของจำเลยที่คนของฝ่ายตนทำให้บาดเจ็บไว้รักษาแล้วมอบโคของตนให้จำเลยไปใช้งานแทนก่อนชั่วคราว เมื่อรักษาแผลโคหายแล้วต่างจะคืนโคกันตามเดิมครั้นโคที่เจ็บหายแล้ว โจทก์ส่งคืนจำเลยปรากฏว่าโคที่โจทก์มอบให้จำเลยไปใช้นั้นตายเสียแล้ว ดังนี้โจทก์ควรจะฟ้องเรียกโคของโจทก์กลับคืนหรือเรียกค่าเสียหายฐานยืมใช้คงรูป
ถ้าโจทก์มาฟ้องว่าได้ตกลงแลกเปลี่ยนโคกับจำเลย โดยจำเลยรับมอบโคจากโจทก์แล้ว ส่วนโคของจำเลยซึ่งจะต้องมอบให้โจทก์นั้นจำเลยมิได้นำมามอบตามสัญญาแลกเปลี่ยน
โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยมอบโคของจำเลยหรือใช้ราคาดังนี้ ถือว่าประเด็นที่โจทก์ฟ้องรูปเรื่องต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณา ฉะนั้นที่โจทก์ฟ้องผิดรูปเรื่องมา ดังนี้ เป็นการแสดงว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องศาลต้องยกฟ้อง
ถ้าโจทก์มาฟ้องว่าได้ตกลงแลกเปลี่ยนโคกับจำเลย โดยจำเลยรับมอบโคจากโจทก์แล้ว ส่วนโคของจำเลยซึ่งจะต้องมอบให้โจทก์นั้นจำเลยมิได้นำมามอบตามสัญญาแลกเปลี่ยน
โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยมอบโคของจำเลยหรือใช้ราคาดังนี้ ถือว่าประเด็นที่โจทก์ฟ้องรูปเรื่องต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณา ฉะนั้นที่โจทก์ฟ้องผิดรูปเรื่องมา ดังนี้ เป็นการแสดงว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องศาลต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินที่ขายแล้วยังถือเป็นทรัพย์ของทางราชการหรือไม่? ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากฎีกาเกี่ยวกับข้อเท็จจริง
ในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำให้ทรัพย์ของใช้ในราชการเสียหายตาม ม.325 โดยให้จำคุก 2 เดือน แต่ให้รอการลงอาญาไว้นั้น จำเลยจะฎีกาว่า ทรัพย์ที่เสียหายนั้นไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในทางราชการไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 220.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริต-การปลอมหนังสือ: ปัญหาข้อเท็จจริง-ไม่มีความผิด
การกระทำของจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกับศาลชั้นต้น แต่แก้กำหนดโทษจาก 2 ปีเหลือ 1 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยไม่มีความผิดโจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
คนขายสุราของบริษัทเอาน้ำสุราไปขายที่อื่นแล้ว ทำบิลว่านำสุราส่งไปขายให้แก่ร้านค้าปลีกของบริษัท ถือว่าเป็นการทำหนังสือเท็จ ไม่เป็นความผิด ฐานปลอมหนังสือ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกับศาลชั้นต้น แต่แก้กำหนดโทษจาก 2 ปีเหลือ 1 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยไม่มีความผิดโจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
คนขายสุราของบริษัทเอาน้ำสุราไปขายที่อื่นแล้ว ทำบิลว่านำสุราส่งไปขายให้แก่ร้านค้าปลีกของบริษัท ถือว่าเป็นการทำหนังสือเท็จ ไม่เป็นความผิด ฐานปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง ลงโทษไม่ได้ตามกฎหมาย
ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อคืนระหว่างวันที่ 11,12 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดในคืนวันที่ 10 ถือว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริง ที่บรรยายมาในฟ้องลงโทษจำเลยไม่ได้ตาม ป.วิ.อาญามาตรา 192(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องระบุปัญหาข้อกฎหมายให้ชัดเจน การโต้แย้งข้อเท็จจริงศาลล่างถือเป็นฎีกาที่ต้องห้าม
ฎีกาในปัญหาข้อกฏหมายนั้นจะต้องอธิบายในคำฟ้องฎีกาให้ชัดแจ้งว่า ข้อที่อ้างเป็นปัญหาข้อกฏหมายนั้นคืออะไรเป็นปัญหาข้อกฏหมายว่าอย่างไร
ข้อฎีกาที่ว่าข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมานั้น ไม่ควรถือว่าจำเลยได้รับมอบหมายห้องจากโจทก์นั้น ถือว่าเป็นฎีกาข้อเท็จจริง.
ข้อฎีกาที่ว่าข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมานั้น ไม่ควรถือว่าจำเลยได้รับมอบหมายห้องจากโจทก์นั้น ถือว่าเป็นฎีกาข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องชัดเจนแจ้งประเด็นกฎหมาย หากเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริง ศาลจะยกฎีกา
ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายนั้นจะต้องอธิบายในคำฟ้องฎีกาให้แจ้งชัดว่า ข้อที่อ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมายนั้นคืออะไรเป็นปัญหากฎหมายว่าอย่างไร
ข้อฎีกาที่ว่าข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมานั้น ไม่ควรถือว่าจำเลยได้รับมอบหมายห้องจากโจทก์นั้น ถือว่าเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
ข้อฎีกาที่ว่าข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมานั้น ไม่ควรถือว่าจำเลยได้รับมอบหมายห้องจากโจทก์นั้น ถือว่าเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อแตกต่างข้อเท็จจริงในฟ้องและพิจารณา ทำให้ลงโทษจำเลยไม่ได้
ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อคืนระหว่างวันที่ 11,12 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดในคืนวันที่ 10 ถือว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่บรรยายมาในฟ้อง ลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของช่วงเวลาที่ระบุในฟ้องอาญา หากข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาไม่แตกต่างจากที่กล่าวอ้างในฟ้อง
ฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตกวันที่ 28 เมษายน ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น วันที่ 29 เมษายน ทางพิจารณาได้ความว่าเกิดเหตุเมื่อ 4.00 น. รุ่งเช้าก็เป็นวันที่ 29 เมษายน ดังนี้ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบข้อเท็จจริงส่วนร่วมในการทำสัญญาซื้อขาย ไม่เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร
ตามสัญญาซื้อขายมีชื่อสามีจำเลยเป็นผู้ซื้อ แต่ผู้เดียวนั้น โจทก์มีสิทธิที่จะนำสืบได้ว่าตนมีส่วนออกเงินร่วมด้วยในการทำสัญญานั้น ไม่เรียกว่าเป็นการนำสืบแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเอกสารที่ห้ามไว้ตามมาตรา 94(ข)ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพราะเป็นการนำสืบถึงข้อเท็จจริงส่วนหนึ่ง มิได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในตัวสัญญานั้นเลย