คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยมีด ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
การที่จำเลยชักมีดปลายแหลมตรงเข้าแทงผู้ตายฝ่ายเดียวที่หน้าอกใต้ไหปลาร้า 1 ที โดยแรงจนปลายมีดไปตุงข้างหลังผู้ตายอยู่ได้ประเดี๋ยวก็ขาดใจตาย ดังนี้จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม มาตรา249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุอย่างมาก ศาลฎีกาเพิ่มโทษจำเลย
คดีอาญาที่โจทก์ยื่นฎีกาแม้ศาลจะเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายโดยป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ แต่ถ้ารูปคดีเห็นว่าจำเลยกระทำป้องกันตัวเกินกว่าเหตุอย่างมาก และศาลอุทธรณ์วางโทษมาเบาไปศาลฎีกาวางโทษจำเลยให้สูงกว่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำพิพากษาที่ไม่ริบของกลาง: ปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลฎีกาไม่รับพิจารณา
ปืนของกลางในคดีที่หาว่าจำเลยหยิบปืนของผู้อื่นซึ่งมีไว้โดยถูกต้องตามกฎหมายไปโดบยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เมื่อศาลล่างลงโทษปรับเพียง 100 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างในข้อไม่ริบปืน โดยเห็นว่ายังไม่ควรริบ ดังนี้ ถือว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาไม่ได้ โดยต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลเสียโฉม ถือเป็นบาดแผลสาหัส แม้ศาลอุทธรณ์เห็นต่าง ศาลฎีกาตัดสินตามศาลชั้นต้น
ถูกขว้างด้วยตะบอกที่โหนกแก้มแผลเป็น กว้างครึ่งเซนติเมตร ยาว 4 เซนติเมตร ศาลชั้นต้นบันทึกบาดแผลไว้ว่า ให้ผู้ถูกทำร้ายอยู่ห่าง 2 วา ก็เห็นแผลเป็นได้ชัด ศาลพิเคราะห์แล้วเปนบาดแผลเสียโฉม ดังนี้ เมื่อตามสำนวนไม่ปรากฏเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือว่าบาดแผลเสียโฉมติดตัวอันเป็นบาดแผลสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในคดีค้ากำไรเกินควรและการจ่ายเงินรางวัลผู้จับ คดีนี้ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้คืนของกลางบางส่วนและจ่ายรางวัล
คดีที่หาว่า จำเลยกระทำผิดฐานไม่ปิดป้ายแสดงราคาฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการฯ และหาว่า จำเลยขายของเกินราคาควบคุม ซึ่งเจ้าพนักงานจับของกลางรวมกันมานั้น ศาลต้องแยกพิเคราะห์ดูว่า ของกลางสิ่งใดจำเลยได้ขายเกินราคาควบคุม และศาลคงริบได้เฉพาะสิ่งของที่หาว่า จำเลยขายเกินราคาควบคุมอันเป็นการค้ากำไรเกินควรโดยตรงเท่านั้นส่วนสิ่งของที่หาว่าจำเลยกระทำผิดฝ่าฝืนประกาศฯ ไม่เป็นของจะพึงริบให้คืนไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง – ผลต่อการพิจารณาของศาลฎีกา
คดีอาญาที่โจทก์ยื่นฎีกาโดยจำเลยยังมิได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แม้ศาลชั้นต้นจะดำเนินการให้โจทก์ฟังคำ พิพากษาศาลอุทธรณ์ฝ่ายเดียวถูกต้องตาม ม.182 วรรค 3 แล้วก็ไม่ถือว่าได้อ่านให้จำเลยฟังตาม ม.216 ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาฎีกาโจทก์ให้จำหน่ายคดีส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้น เพื่อดำเนินการตามกระบวนพิจารณาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1740/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งและอาญาปนกัน ศาลฎีกาต้องใช้ข้อเท็จจริงเดิมจากคดีอาญาที่ยุติแล้วในการพิจารณาคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ ขอให้ลงโทษทางอาญาและเรียกทรัพย์คืนมีราคาเกิน 2,000 บาท ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยผิดสัญญาทางแพ่งไม่ผิดฐานยักยอก จึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้คดีส่วนอาญาย่อมถือว่ายุติ คู่ความคงฎีกาได้เฉพาะคดีส่วนทางแพ่งเท่านั้น และในการพิจารณาคดีส่วนแพ่งในชั้นฎีกานี้ ศาลฎีกาย่อมต้องฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลล่างที่ได้ฟังไว้ในคดีส่วนอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1740/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอาญาและแพ่งปนกัน ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงสอดคล้องกับศาลล่างในส่วนอาญา แม้ฎีกาเฉพาะแพ่ง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยยักยอกทรัพย์ ขอให้ลงโทษทางอาญาและเรียกทรัพย์คืนมีราคา เกิน 2,000 บาท ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยผิดสัญญาทางแพ่งไม่ผิดฐานยักยอก จึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้คดีส่วนอาญาย่อมถือว่ายุติ คู่ความคงฎีกาได้เฉพาะคดีส่วนทางแพ่งเท่านั้น และในการพิจารณาคดีส่วนแพ่งในชั้นฎีกานี้ ศาลฎีกาย่อมต้องฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลล่างที่ได้ฟังไว้ในคดีส่วนอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1736/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษอาญาโดยศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาในคดีเจ้าพนักงานยักยอกและปลอมแปลงเอกสาร
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131 ถึง 4 กะทง จำคุก 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 131 เพียงกะทงเดียว จำคุก 2 ปี ดังนี้ถือว่าแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีและใช้แสตมป์สุราปลอมเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา แม้โจทก์มิได้อ้าง พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสั่งให้กรมสรรพสามิตจัดทำแสตมป์สุราขึ้นใช้ในสมัยที่ใช้ พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2486 นั้น หาจำเป็นต้องออกเป็นกฎกระทรวงเสียก่อนดังเช่น พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493บังคับไว้ ก็สมบูรณ์และย่อมถือว่าแสตมป์สุรานั้นเป็นบัตรตาม กฎหมายแล้ว ผู้ใดมีไว้หรือใช้แสตมป์สุราปลอม ย่อมมีผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 216
ฟ้องหาว่าจำเลยมีและใช้แสตมป์สุราปลอม ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 216 นั้น ย่อมหมายถึงแสตมป์สุราตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นในนั่นเอง แม้โจทก์ไม่อ้างพ.ร.บ.ภาษีชั้นในมาก็หาทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
การมีแสตมป์สุราปลอมไว้จำหน่ายนั้นเป็นผิดมาตรา 216
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้ชี้ขาดข้อเท็จจริงนั้นกฎหมายบัญญัติให้ศาลอุทธรณ์ ฎีกามีอำนาจสั่งย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นชี้ขาดข้อเท็จจริงได้ แต่เมื่อศาลอุทธรณ์ฎีกาเห็นไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจนั้น ก็ชี้ขาดข้อเท็จจริงไปได้โดยไม่ต้องใช้อำนาจที่ กฎหมายให้ไว้ดังกล่าว
of 344