คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ศาลในการส่งเรื่องขอรับรองอุทธรณ์ไปยังอธิบดีอัยการ และรูปแบบคำวินิจฉัยของศาล
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่.ไม่ส่งสำนวนและอุทธรณ์ไปให้อธิบดีกรมอัยการพิจารณารับรองตามคำร้องของโจทก์ร่วมนั้น. ผู้อุทธรณ์ต้องทำเป็นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193. และชอบที่ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยโดยทำเป็นคำพิพากษามิใช่ทำเป็นคำสั่ง. แต่โดยที่ศาลอุทธรณ์ได้ทำคำสั่งโดยผู้พิพากษาสองนาย เพียงแต่ผิดแบบเฉพาะการทำเป็นคำพิพากษาหรือคำสั่ง.จึง.ไม่จำเป็นที่จะให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่(อ้างฎีกาที่ 1244/2503).
การที่จะให้อธิบดีกรมอัยการรับรองอุทธรณ์นั้น กฎหมายมิได้บัญญัติให้ศาลชั้นต้นมีหน้าที่ต้องส่งอุทธรณ์ไปให้อธิบดีกรมอัยการรับรอง. การรับรองอุทธรณ์เป็นประโยชน์แก่ผู้อุทธรณ์เอง. ผู้อุทธรณ์จึงต้องขวนขวายขอร้องไปยังอธิบดีกรมอัยการเอง. หาใช่อาศัยศาลเป็นเครื่องมือส่งต่อไปยังอธิบดีกรมอัยการไม่.(อ้างฎีกาที่ 656/2506).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 77/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม: การที่โจทก์มิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นในประเด็นฟ้องเคลือบคลุมในชั้นอุทธรณ์ ทำให้ฎีกาต้องห้ามตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์นั้นเคลือบคลุมขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรค 2 แต่คำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์มิได้อุทธรณ์โต้แย้งว่า คำฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุมเพราะเหตุใด เพิ่งจะมายกขึ้นกล่าวในชั้นฎีกา ดังนี้ จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 77/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม การอุทธรณ์และฎีกาที่ไม่โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้น ทำให้ต้องห้ามตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์นั้นเคลือบคลุมขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง แต่คำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์มิได้อุทธรณ์โต้แย้งว่าคำฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุมเพราะเหตุใด. เพิ่งจะมายกขึ้นกล่าวในชั้นฎีกา. ดังนี้ จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ สิทธิผู้เช่าถูกจำกัด คดีขับไล่ผู้ละเมิดอุทธรณ์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือผู้ให้เช่า ผู้เช่าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่
คดีฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์ ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเพราะมิใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือผู้อาศัย
คดีฟ้องขับไล่เป็นคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้มิใช่คดีมีทุนทรัพย์ จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ & สิทธิอุทธรณ์ฎีกาในคดีขับไล่ผู้ละเมิด
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือผู้ให้เช่าผู้เช่าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่
คดีฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเพราะมิใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือผู้อาศัย
คดีฟ้องขับไล่เป็นคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้มิใช่คดีมีทุนทรัพย์จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ สิทธิในการอ้างเงื่อนเวลาทำไม่ได้ คดีขับไล่ผู้ละเมิดอุทธรณ์ฎีกาได้
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือผู้ให้เช่า. ผู้เช่าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่.
คดีฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์. ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเพราะมิใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือผู้อาศัย.
คดีฟ้องขับไล่เป็นคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้มิใช่คดีมีทุนทรัพย์. จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์ฐานะคนอนาถา และสิทธิร้องขอพิจารณาคำขอใหม่
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นไปยังศาลอุทธรณ์ได้ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันมีคำสั่ง โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น
แม้ผู้ขอจะไม่อุทธรณ์คำสั่งนั้น ก็ยังอาจยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนได้ (อ้างฎีกาที่ 1416/2506)
หากศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องดังกล่าวโดยไม่อนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติม ย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า คำสั่งศาลชั้นต้นเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในกรณีนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่ผู้ขอร้องว่าเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียม จึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในฐานะคนยากจน และการพิจารณาคำร้องขอพิจารณาคำขอใหม่
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นไปยังศาลอุทธรณ์ได้ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันมีคำสั่ง โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น
แม้ผู้ขอจะไม่อุทธรณ์คำสั่งนั้น. ก็ยังอาจยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนได้ (อ้างฎีกาที่ 1416/2506)
หากศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องดังกล่าวโดยไม่อนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า คำสั่งศาลชั้นต้นเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในกรณีนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่ผู้ขอร้องว่าเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมจึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในฐานะคนยากจน และสิทธิในการขอพิจารณาคำขอใหม่
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา. ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นไปยังศาลอุทธรณ์ได้ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันมีคำสั่ง โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น.
แม้ผู้ขอจะไม่อุทธรณ์คำสั่งนั้น. ก็ยังอาจยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนได้ (อ้างฎีกาที่ 1416/2506).
หากศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องดังกล่าวโดยไม่อนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติม. ย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า คำสั่งศาลชั้นต้นเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด.
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในกรณีนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่ผู้ขอร้องว่าเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียม. จึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คดีปรับที่ศาลแขวง: ข้อจำกัดการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงและขอบเขตการอุทธรณ์เกี่ยวกับดุลพินิจ
จำเลยต้องคำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับ 50 บาท กระทงหนึ่ง 500 บาท อีกกระทงหนึ่ง ซึ่งแต่ละกระทงไม่เกิน 500 บาท คดีของจำเลยจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2503 มาตรา 10
อุทธรณ์เกี่ยวกับดุลพินิจของศาลชั้นต้นในเรื่องชั่งน้ำหนักคำพยานโจทก์มิใช่เป็นอุทธรณ์เกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย
of 349