คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กระบวนพิจารณา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 344 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1995/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหลังจำเลยเสียชีวิต: ศาลต้องจัดให้มีคู่ความแทนที่ก่อนพิจารณาต่อ
ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้ว แต่โจทก์ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 26 กันยายน2522 ขอให้ศาลชั้นต้นแก้คำบังคับโดยให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาลที่โจทก์ต้องเสียเพิ่มด้วย ซึ่งต่อมาได้มีอุทธรณ์ฎีกาคำร้องดังกล่าวโดยทนายจำเลยเป็นผู้ฎีกาและปรากฏข้อเท็จจริงในชั้นฎีกาว่าจำเลยถึงแก่กรรมไปแล้วเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2522โดยทนายจำเลยก็ทราบแต่ยังไม่มีผู้เข้าเป็นคู่ความแทนที่ ซึ่งเมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์คดีก็กลับมีกรณีที่จะต้องตั้งต้นพิจารณาในชั้นอุทธรณ์ขึ้นใหม่ โดยต้องจัดให้มีผู้เข้ามาเป็นคู่ความเสียก่อนเช่นนี้ การดำเนินกระบวนพิจารณาตั้งแต่ชั้นสั่งรับอุทธรณ์เป็นต้นมา จึงยังไม่ถูกต้องและทนายจำเลยย่อมหมดสภาพเป็นทนายจำเลยที่จะยื่นฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียก/สำเนาฟ้องโดยมิชอบ โจทก์มีเจตนาทุจริต ศาลต้องดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่
โจทก์บรรยายฟ้องภูมิลำเนาจำเลยไม่ถูกต้อง ความจริงจำเลยอยู่แขวงบางจากแต่บรรยายว่าแขวงบางนาและโจทก์มิได้นำเจ้าพนักงานไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องยังภูมิลำเนาของจำเลยโดยที่โจทก์รู้จักบ้านหรือภูมิลำเนาของจำเลยดีอยู่แล้ว แต่กลับแถลงขอให้ศาลประกาศทางหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลยแทนการส่งโดยวิธีธรรมดาการดำเนินกระบวนพิจารณาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 และถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่โดยศาลอุทธรณ์ ต้องเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบ
การที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น เพื่อให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่นั้น จะต้องเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่ชอบ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 คดีนี้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นและพิพากษาคดีไปตามประเด็นที่ได้ชี้สองสถานไว้แล้ว โดยมิได้ดำเนินคดีโดยมิชอบด้วยกระบวนพิจารณาแต่อย่างใด เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องหรือคลาดเคลื่อนอย่างไร ก็ชอบที่จะพิพากษาแก้ หรือกลับ ไม่มีเหตุที่จะบังคับให้ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีใหม่
ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วให้พิพากษาใหม่นั้นจึงมิชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วให้พิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจศาลอุทธรณ์ในการพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ต้องเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบ
การที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น เพื่อให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่นั้น จะต้องเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่ชอบ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 คดีนี้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นและพิพากษาคดีไปตามประเด็นที่ได้ชี้สองสถานไว้แล้ว. โดยมิได้ดำเนินคดีโดยมิชอบด้วยกระบวนพิจารณาแต่อย่างใด เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องหรือคลาดเคลื่อนอย่างไร ก็ชอบที่จะพิพากษาแก้ หรือกลับ ไม่มีเหตุที่จะบังคับให้ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีใหม่
ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วให้พิพากษาใหม่นั้นจึงมิชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วให้พิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: การไม่นำพยานหลักฐานมาตามนัด ไม่ถือเป็นการขาดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้บัญญัติกระบวนพิจารณาไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 โดยเฉพาะ ไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เรื่องการขาดนัดพิจารณามาอนุโลมใช้ในเรื่องนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาคดี: อุทธรณ์ต้องห้ามเมื่อศาลดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปแล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ขออนุญาตยื่นคำให้การ เพราะมิได้จงใจขาดนัด แล้วดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งก่อนที่ศาลได้มีคำพิพากษา จึงต้องห้ามอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2864/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความดำเนินกระบวนพิจารณาแทนจำเลย และการขอขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียม
จำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ทนายความย่อมมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนจำเลยได้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 การที่ศาลชั้นต้นออกหมายนัดโจทก์จำเลยมาฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นกระบวนพิจารณาตามมาตรา 1 (7) และเพื่อประโยชน์แห่งการดำเนินกระบวนพิจารณาดังกล่าว ทนายจำเลยย่อมอยู่ในฐานะเป็นจำเลยตามมาตรา 1 (11) ฉะนั้นเมื่อทนายจำเลยรับหมายนัดของศาลแล้วก็ถือเสมือนหนึ่งว่าจำเลยรับเช่นกันจำเลยจะอ้างว่าไม่ทราบวันนัดเพราะจำเลยกับทนายความมิใช่บุคคลคนเดียวกันหาได้ไม่
การขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 นั้น กฎหมายให้กระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลาตามที่ศาลกำหนด เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย จำเลยมีคำขอเมื่อระยะเวลาตามที่ศาลกำหนดได้ล่วงพ้นไปแล้ว และไม่ปรากฏพฤติการณ์พิเศษและเหตุสุดวิสัย จึงขยายระยะเวลาให้จำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2171/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การและการดำเนินการตามกฎหมาย โดยศาลไม่ต้องไต่สวนคำร้องเพิ่มเติมหากจงใจขาดนัด
จำเลยยังคงมีสำนักงานทำการค้าขายอยู่ที่ตึกแถวพิพาทการส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้องก็ส่งให้จำเลย ณ ตึกแถวพิพาททั้งก็เป็นการส่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อจำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนด จึงถือได้ว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสองมิได้บังคับว่าศาลจะต้องทำการไต่สวนคำร้องของจำเลยก่อนเมื่อจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว จึงไม่จำต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยอีก ไม่ขัดกับกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถามติงพยานต้องคัดค้านทันที หากศาลไม่ชี้ขาด ไม่มีเหตุยกฎีกา
โจทก์ไม่ได้โต้แย้งคัดค้านให้ศาลจดคำถามและข้อคัดค้านไว้ในทันทีที่ศาลมิให้ถามติงพยาน ศาลจึงมิได้ชี้ขาดว่าควรให้ใช้คำถามนั้นหรือไม่ดังนี้ ไม่มีเหตุที่จะยกเป็นข้อฎีกาให้ยกคำพิพากษาและให้พิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกหมายจับและอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีจำเลยย้ายที่อยู่และยังติดต่อกับนายประกัน
ปรากฏตามรายงานการเดินหมายของพนักงานเดินหมายตลอดมาว่า จำเลยไม่ได้มีภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงาน ณ สถานที่ซึ่งระบุไว้ในฟ้อง แต่ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว จึงไม่ใช่กรณีที่ส่งหมายให้จำเลยไม่ได้เพราะหาที่อยู่ไม่พบ ทั้งจำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกัน และยังติดต่อกับนายประกันอยู่ เมื่อส่งหมายให้จำเลยไม่ได้ศาลก็ชอบที่จะส่งหมายถึงนายประกันให้ส่งตัวจำเลยมาศาลตามนัด ไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจำเลยจะหลบหนี ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยและอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ
of 35