คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขาดนัด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 616 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5444/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาขัดกับข้อจำกัดเรื่องทุนทรัพย์คดีแพ่งและการฟังข้อเท็จจริงเรื่องการขาดนัด
ในชั้นขอให้พิจารณาใหม่ เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า จำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ก็ต้องถือตามทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในคดีเป็นหลักในการพิจารณาว่าเป็นคดีที่ฎีกาได้หรือไม่ เมื่อทุนทรัพย์ในคดีเป็นเงินไม่เกินห้าหมื่นบาท จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จำเลยฎีกาว่าไม่ได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาอันเป็นข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5040/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ: ความประมาทเลินเล่อของทนาย และผลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 183
ในวันนัดชี้สองสถานทนายจำเลยมาศาลเมื่อศาลนัดสืบพยานโจทก์ไปแล้ว จำเลยเพียงแต่สอบถามวันนัดจากเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ ไม่ได้ตรวจดู สำนวนว่าศาลนัดสืบพยานโจทก์วันเวลาใดให้แน่ชัด จึงเป็นความประมาทเลินเล่อของทนายจำเลย และตามป.วิ.พ. มาตรา 183 วรรคสอง บัญญัติให้คู่ความมาศาลในวันชี้สองสถานถ้า คู่ความฝ่ายใดไม่มาศาลให้ถือว่าทราบกระบวนพิจารณาของศาลในวันนั้นแล้ว ดังนั้น การที่จำเลยไม่มาศาลตามกำหนดนัดสืบพยานโจทก์จำเลยจึงขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ จำเลยจะอ้างว่าฟังเวลาจากเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ ผิดไปหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4574/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การและการประวิงคดี ศาลชอบที่จะไม่อนุญาตให้เลื่อนการสืบพยาน
การส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 1 ณ ภูมิลำเนาตามฟ้องมี ว. อายุประมาณ 23 ปี เต็มใจรับหมายไว้แทนเพราะอยู่บ้านเดียวกัน จำเลยที่ 1 กับ ว. นามสกุลเดียวกัน และไม่ปรากฎว่า ว. ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานผู้ส่งหมายเรียกให้บันทึกเหตุผลที่รับหมายเรียกสำเนาคำฟ้องแทนว่าเพราะจำเลยที่ 1 ได้เดินทางไปติดต่อธุรกิจกับลูกค้าที่ต่างจังหวัดจึงถือว่าได้มีการส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 1ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว และไม่มีเหตุผลที่จะให้เชื่อว่าจำเลยที่ 1เดินทางไปติดต่อธุรกิจกับลูกค้าที่ต่างจังหวัดในวันที่มีการส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้อง จำเลยที่ 1 อ้างว่า ไปต่างจังหวัดระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ถึง 10 มีนาคม 2528 เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงทราบว่าถูกฟ้องแต่จำเลยที่ 1 หาได้ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การในเวลาอันสมควรไม่ เพิ่งมายื่นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2528 อันเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ พฤติการณ์เช่นนี้ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานจำเลยที่ 1ไปครั้งหนึ่งแล้ว ทั้ง ๆ ที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าป่วยและไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อศาล ครั้นถึงวันนัดถัดมาจำเลยที่ 1ขอเลื่อนอีกอ้างว่าได้เดินทางไปประเทศอินเดียยังไม่กลับทั้งทนายโจทก์ก็คัดค้านว่าไม่ควรให้เลื่อน ดังนี้ พฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 เป็นการไม่นำพาต่อกำหนดนัดของศาลและเป็นการประวิงคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3467/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุขาดนัดพิจารณาคดี: ความล่าช้าจากการต่อรองค่าเสียหายอุบัติเหตุรถยนต์ไม่ถือเป็นเหตุสมควร
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณาเพราะในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการขับรถยนต์ชนกับรถยนต์ของผู้มีชื่อระหว่างทางมาศาล ต้องเสียเวลาตกลงกันเกือบ 2 ชั่วโมง ทำให้มาศาลไม่ทันตามกำหนดเวลานัด แต่ข้อเท็จจริงส่อแสดงว่าเหตุที่รถยนต์ชนกันเป็นความผิดของจำเลยที่ 2 และความล่าช้าในการตกลงเรื่องค่าเสียหายกับผู้มีชื่อเกิดจากการที่จำเลยที่ 2 พยายามต่อรองราคาค่าเสียหาย ทั้ง ๆ ที่จำเลยที่ 2 สามารถจ่ายหรือทำความตกลงกับผู้มีชื่อได้โดยไม่ชักช้า นอกจากนั้นจำเลยที่ 2 ยังจะต้องให้ผู้มีชื่อซึ่งไม่มีความสันทัดในการเขียนหนังสือเขียนใบรับเงินที่มีข้อความค่อนข้างยืดยาวให้อีก อันเป็นการเพิ่มพูนการเสียเวลาให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งความชักช้าดังกล่าวเป็นเหตุให้จำเลยที่ 2 มาศาลไม่ทันตามกำหนดนัด เช่นนี้ จึงยังฟังไม่ได้ถนัดนักว่ามีเหตุสมควรเชื่อว่าจำเลยที่ 2 มาศาลไม่ได้ ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่อาจอนุญาตให้พิจารณาใหม่ตามที่ขอได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งนัดสืบพยานที่ไม่ชอบด้วยวิธี สั่งให้ดำเนินคดีฝ่ายเดียว ศาลฎีกายกคำพิพากษา ให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การจำเลยและสั่งให้ออกหมายกำหนดวันนัดสืบพยานส่งให้โจทก์ทราบเพียงฝ่ายเดียว ส่วนบันทึกกำหนดวันสืบพยานที่เจ้าหน้าที่ศาลได้ลงไว้ท้ายคำให้การก็ปรากฏหลักฐานลายเซ็นของทนายโจทก์รับทราบกำหนดนัดสืบพยานแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ปรากฏว่าทนายจำเลยได้ลงชื่อรับทราบกำหนดวันนัดสืบพยานดังกล่าวด้วย และลายเซ็นทนายจำเลยที่ลงไว้ข้างท้ายหมายเหตุคำให้การที่มีข้อความว่าข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้วก็คงถือเป็นเพียงหลักฐานการรับทราบคำสั่งศาลในการพิจารณาสั่งเกี่ยวกับคำให้การจำเลยที่ยื่นต่อศาลเท่านั้น ทั้งในการสั่งรับคำให้การของจำเลย ศาลก็มิได้ระบุวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้ประการใด กรณีเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่ศาลอาจลงกำหนดวันนัดสืบพยานหลังจากได้รับเอกสารคำให้การจากทนายจำเลยไว้แล้ว การที่ศาลชั้นต้นมิได้ออกหมายกำหนดวันสืบพยานสั่งให้จำเลยทราบ และมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาโดยให้ดำเนินคดีโจทก์ไปฝ่ายเดียว จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 184, 202

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2133/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จำเลยต้องมีความรับผิดชอบในการติดตามคดีด้วยตนเอง แม้จะเข้าใจผิดเรื่องการมอบหมายทนาย
คำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 1 ที่ว่า การขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาของจำเลยที่ 1 เกิดจากความเข้าใจผิดของจำเลยทั้งสอง โดย จำเลยที่ 1 เข้าใจผิดว่า จำเลยที่ 2 ได้ มอบหมายให้ทนายความประจำตัวของจำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การและ ดำเนินกระบวนพิจารณาต่าง ๆ แทนจำเลยที่ 1 ด้วย และทนายความ ของจำเลยที่ 2 ก็เข้าใจว่า จำเลยที่ 1 ได้ มอบหมายให้ทนายความ ประจำบริษัทของจำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การและดำเนิน กระบวนพิจารณา ของจำเลยที่ 1เอง เหตุผลดังกล่าวแม้จะเป็นความจริงก็ไม่อาจ กล่าวอ้างได้ ว่าจำเลยที่ 1 ไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัด พิจารณา เพราะจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ต้อง เอาใจใส่ในการต่อสู้ คดี ของจำเลยที่ 1 เอง จำเลยที่ 1 จะอ้างความเข้าใจผิดมาเป็น ข้อแก้ตัวว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2133/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดชอบในการดำเนินคดีและการขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ อ้างว่า จำเลยที่ 1ไม่ได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา เพราะจำเลยที่ 1เข้าใจผิดว่า จำเลยที่ 2 ได้มอบหมายให้ทนายความประจำตัวของจำเลยที่ 2 ดำเนินคดีโดยยื่นคำให้การและดำเนินกระบวนพิจารณาต่าง ๆ แทนจำเลยที่ 1 และทนายความของจำเลยที่ 2 ก็เข้าใจว่าจำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้ทนายความของจำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การและดำเนินกระบวนพิจารณาเอง แม้เหตุผลตามคำร้องจะเป็นความจริงก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าจำเลยที่ 1 ไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา เพราะจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ต้องเอาใจใส่ในการต่อสู้คดีของจำเลยที่ 1 เอง จำเลยที่ 1 จะอ้างความเข้าใจผิดมาเป็นข้อแก้ตัวว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2033/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยมีหน้าที่ต้องติดตามคดีด้วยตนเอง ความเข้าใจผิดของทนายความไม่ถือเป็นเหตุจงใจขาดนัด
คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 1 อ้างเหตุว่าจำเลยที่และทนายของจำเลยทั้งสองต่าง เข้าใจผิดว่าต่าง ได้ ดำเนินการยื่นคำให้การและดำเนินการพิจารณาแทนกันไปแล้ว จึงเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาโดย ไม่จงใจนั้นดังนี้แม้หากจะได้ความจริงตาม ข้ออ้างดังกล่าวก็ ไม่อาจกล่าวได้ ว่าจำเลยที่ 1 ไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา เพราะจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ต้อง เอาใจใส่ในการต่อสู้ คดีของจำเลยที่ 1 เอง จะอ้างความเข้าใจผิดมาเป็นข้อแก้ตัวว่ามิได้จงใจหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนกระบวนพิจารณาคดีแพ่งเนื่องจากจำเลยไม่ยื่นคำให้การ ศาลควรให้โอกาสโจทก์ขอคำสั่งขาดนัด
ศาลประกาศวันนัดให้จำเลยยื่นคำให้การและวันนัดสืบพยานโจทก์ทางหนังสือพิมพ์ ครั้นถึงวันนัดโจทก์นำพยานเข้าสืบ 1 ปากและส่งเอกสาร 13 ฉบับ แล้วขอเลื่อนไปสืบพยานโจทก์ที่เหลือ ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ต่อ ศาลชั้นต้นตรวจ สำนวนพบว่า จำเลยยังไม่ได้ยื่นคำให้การ และโจทก์ก็ไม่ได้ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ จึงมีคำสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาในวันนัดสืบพยานครั้งแรกเสีย และให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความกรณีเห็นได้ ว่าโจทก์ได้ มาดำเนิน กระบวนพิจารณาตาม นัดทุกครั้ง แสดงว่าโจทก์ประสงค์จะดำเนิน คดีต่อไป ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาและให้จำหน่ายคดี เป็นการไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การและผลกระทบต่อการดำเนินคดี: ศาลมีดุลพินิจในการจำหน่ายคดี
การที่โจทก์ไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลงเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 198 วรรคสอง ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี ทั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์มิให้โจทก์ปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่กำหนด แต่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีหรือไม่อยู่ในดุลพินิจ เมื่อโจทก์ยื่นคำขอและศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว มาตรา 198วรรคสาม ให้ศาลกำหนดวันสืบพยานส่งให้จำเลยทราบ ศาลได้ประกาศวันนัดให้จำเลยยื่นคำให้การและวันนัดสืบพยานโจทก์ทางหนังสือพิมพ์แล้ว และโจทก์ได้มาดำเนินกระบวนพิจารณาตามนัดทุกครั้ง แสดงว่าโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป เมื่อศาลชั้นต้นได้ดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวนัดหนึ่งแล้วโจทก์ก็อาจมีคำขอต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การได้.
of 62