คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อตกลง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,178 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3553/2539 เวอร์ชัน 5 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงอัตราดอกเบี้ยในสัญญากู้เงินที่ไม่ใช่เบี้ยปรับ
ข้อตกลงในสัญญากู้เงินที่ผู้กู้ยอมให้ผู้ให้กู้มีสิทธิขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ตามที่เห็นสมควรแต่ไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด แม้ผู้กู้จะมิได้ผิดนัดชำระหนี้ ไม่ใช่ข้อตกลงที่เป็นเบี้ยปรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3553/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงขึ้นดอกเบี้ยในสัญญากู้ มิใช่เบี้ยปรับ แม้ลูกหนี้ไม่ผิดนัด
ข้อตกลงในสัญญากู้เงินที่ผู้กู้ยอมให้กู้มีสิทธิขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ตามที่เห็นสมควรแต่ไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนดแม้ผู้กู้จะมิได้ผิดนัดชำระหนี้ไม่ใช่ข้อตกลงที่เป็นเบี้ยปรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3553/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัญญากู้ ไม่ใช่เบี้ยปรับ ศาลฎีกายืนตามสัญญาเดิม
ข้อตกลงในสัญญากู้เงินที่ผู้กู้ยอมให้ผู้ให้กู้มีสิทธิขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ตามที่เห็นสมควรแต่ไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนดแม้ผู้กู้จะมิได้ผิดนัดชำระหนี้ไม่ใช่ข้อตกลงที่เป็นเบี้ยปรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2411/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทหลังมอบอำนาจและข้อตกลงกับทายาท ความจำเป็นในการสืบพยานเพื่อพิสูจน์สิทธิ
จำเลยให้การว่า เดิมที่ดินพิพาทเป็นของ ล.มารดา ม. เมื่อปี 2505 ล.ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งจึงได้มอบอำนาจให้ ม.ใส่ชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน ล.โดยกำชับไว้ว่าเมื่อ ล.ถึงแก่กรรมให้จัดแบ่งที่ดินพิพาทให้แก่ทายาททั้ง 8 คนของ ล. ต่อมาเมื่อ ล.ถึงแก่กรรมที่ดินพิพาทจึงเป็นทรัพย์มรดกของ ล.ตกได้แก่ทายาททั้ง 8 คน หาใช่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ ม.แต่เพียงผู้เดียวไม่ จำเลยได้รับอนุญาตจากทายาททั้ง 8 คน รวมทั้ง ม.ให้ปลูกบ้านพักอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทได้ตลอดชีวิตของจำเลยโดยไม่ต้องเสียค่าตอบแทน แม้สิทธิของจำเลยตามที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ซึ่งการได้มานั้นไม่บริบูรณ์ เพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1299 วรรคหนึ่ง แต่บทบัญญัติดังกล่าวหาได้กำหนดให้ตกเป็นโมฆะไม่คงเป็นบุคคลสิทธิที่มีผลผูกพันคู่สัญญา และแม้ตามคำให้การของจำเลยจะมิได้ปรากฏว่าโจทก์ผู้จัดการมรดกของ ม.รู้เห็นยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงนั้นด้วยแต่หากฟังได้ว่าเป็นความจริงก็เป็นเรื่องเจ้าของรวมจัดการทรัพย์สินในเรื่องอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งตาม ป.พ.พ.มาตรา 1358 วรรคสาม ให้ตกลงกันโดยคะแนนข้างมากแห่งเจ้าของรวม จำเลยจึงอาจมีสิทธิอยู่ในที่ดินพิพาทได้ คดีจึงมีความจำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าวต่อไป ไม่ชอบที่ศาลชั้นต้นจะด่วนสั่งให้งดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยแล้วพิพากษาขับไล่จำเลยตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2385/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์นอกกรอบข้อตกลงเดิม: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์อันเป็นการให้โจทก์แพ้คดีไปตามคำท้าชอบแล้ว โจทก์จะอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ดำเนินกระบวนพิจารณาผิดไปจากข้อตกลงตามคำท้าอื่นมีผลอยู่ดังกล่าวแล้วไม่ได้ ถือว่าเป็นชื่อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นการมิชอบโจทก์ฎีกาปัญหาเดิม ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 190/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องคดีนายหน้าชัดเจนถึงนิติสัมพันธ์และข้อตกลงมอบอำนาจ แม้ไม่มีเอกสารแสดงใบมอบอำนาจก็ไม่ถือว่าฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงนิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยชัดแจ้งแล้วว่าจำเลยได้มอบอำนาจให้อ. เป็นตัวแทนในการขายที่ดินของจำเลยและอ.ในฐานะตัวแทนของจำเลยได้ตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้าเป็นการชัดเจนเพียงพอแก่การที่จำเลยจะต่อสู้คดีโจทก์ได้แล้วการที่โจทก์ไม่ได้เสนอใบมอบอำนาจมาด้วยก็หาทำให้จำเลยไม่เข้าใจสภาพแห่งข้อหาเพราะจำเลยสามารถให้การต่อสู้คดีได้ว่าตนมอบอำนาจให้อ.ทำการได้เพียงใดซึ่งอาจนำสืบรายละเอียดได้ชั้นพิจารณาไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝาก: ผลของการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงและขอบเขตกรรมสิทธิ์ในส่วนควบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีโดยฟังข้อเท็จจริงว่า สัญญาขายฝากเอกสารหมาย จ.1 ไม่เป็นนิติกรรมอำพราง เมื่อโจทก์อุทธรณ์ จำเลยมิได้แก้อุทธรณ์ในเรื่องนี้ไว้ ข้อเท็จจริงจึงต้องถือเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นดังกล่าว
สัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีกฎหมายบังคับให้ต้องมีเอกสารมาแสดง ระบุกำหนดเวลาไถ่ 1 ปี การที่จำเลยให้การต่อสู้และนำสืบพยานว่าได้มีข้อตกลงให้จำเลยไถ่ 2 ปี จึงเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94 (ข)
แม้สัญญาขายฝากระบุว่าขายฝากที่ดินพิพาทและสิ่งปลูกสร้างลงในที่ดินภายหลังวันขายฝาก โดยมิได้ระบุว่าตกลงขายฝากบ้านพิพาทไว้ในสัญญาด้วยก็ตามแต่บ้านพิพาทเป็นส่วนควบของที่ดิน บ้านพิพาทย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ทันทีที่ได้ทำสัญญาขายฝากตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้โดยผลของกฎหมายตาม ป.พ.พ. มาตรา144 วรรคสอง จึงถือได้ว่าสัญญาขายฝากดังกล่าวเป็นการขายฝากบ้านพิพาทด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเปลี่ยนแปลงมัดจำและการคืนเงินกรณีไม่ชำระราคาที่ดินตามสัญญา
โจทก์และ น.กับจำเลยได้ทำบันทึกข้อตกลงกันว่า ในวันทำสัญญาโจทก์มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท และ น.ออกเช็คสั่งจ่ายเงินจำนวน 5,000,000 บาท ให้จำเลยเป็นมัดจำ และมีข้อตกลงข้อ 4 ว่า หากธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยยินดีคืนเงินจำนวน1,000,000 บาท ตามข้อ 1 ให้แก่โจทก์ และสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำขึ้นตามข้อ 3 เป็นอันยกเลิก แต่เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คจำเลยก็ไม่ได้คืนเงินจำนวน 1,000,000 บาทแก่โจทก์ และกลับมีการเพิ่มข้อตกลงเป็นข้อ 6 ว่า จำเลยได้รับเงินจำนวน 500,000 บาท จากโจทก์เพื่อเป็นการวางเงินเพิ่มตามข้อ 1 และตกลงขยายระยะเวลาตามข้อ 5 ออกไปเป็นวันที่ 27 กันยายน 2534 แสดงว่าโจทก์จำเลยได้ทำความตกลงเปลี่ยนแปลงเฉพาะเรื่องเพิ่มวงเงินที่โจทก์ได้วางตามข้อ 1 จาก 1,000,000 บาท เป็น1,500,000 บาท และขยายระยะเวลาจ่ายเงินร้อยละ 50 ของราคาที่ดินออกไปเป็นวันที่ 27 กันยายน 2534 เท่านั้น ส่วนข้อความอื่น ๆ ถือได้ว่าโจทก์จำเลยมีเจตนาให้มีผลผูกพันตามเดิม เมื่อถึงวันที่ 27 กันยายน 2534 โจทก์ไม่นำเงินอีกร้อยละ 50 ของราคาที่ดินที่ยังขาดอยู่มาชำระให้จำเลย จำเลยก็จะต้องคืนเงินจำนวน 1,000,000 บาท ที่ะบุไว้ในข้อ 4 และกรณีเช่นนี้เป็นเรื่องที่โจทก์เรียกทรัพย์คืนตามข้อตกลง มิใช่โจทก์เรียกให้จำเลยคืนทรัพย์ในลักษณะลาภมิควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงดอกเบี้ยบัตรเครดิต: ไม่เข้าข่ายดอกเบี้ยเกินกฎหมาย
เงินที่ธนาคารโจทก์ได้ผ่อนผันจ่ายไปก่อนตามสัญญาบัญชี-เดินสะพัดและคำขอสินเชื่อบัตรเครดิตที่จำเลยขอสินเชื่อบัตรเครดิตจากโจทก์เพื่อนำไปใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ ตลอดจนเบิกเงินสดจากเครื่องบริการนั้นไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าให้จำเลยจะต้องจ่ายคืนให้แก่โจทก์เมื่อใด เป็นแต่เพียงว่า จำเลยยอมผูกพันตนที่จะจ่ายคืนให้พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะเศรษฐกิจ สังคมและนโยบายการเงินของประเทศ เป็นการกำหนดดอกเบี้ยกันไว้ล่วงหน้า ถือว่าจำเลยตกลงให้โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นแล้ว และไม่อยู่ในบังคับของ ป.พ.พ.มาตรา 654 ซึ่งห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละสิบห้าต่อปีเพราะมิใช่เป็นเรื่องกู้ยืมและโจทก์เป็นธนาคารพาณิชย์เป็นสถาบันการเงิน ข้อตกลงดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย จำเลยต้องเสียดอกเบี้ยไปตามข้อตกลงนั้น จึงไม่มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 379

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงดอกเบี้ยบัตรเครดิตชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นเบี้ยปรับ ศาลแก้เป็นดอกเบี้ย 18.5%
ตามสัญญาบัญชีเดินสะพัดและคำขอสินเชื่อบัตรเครดิตได้กำหนดไว้ว่า ในกรณีที่ธนาคารผ่อนผันการจ่ายเงินไปก่อนทั้งที่เงินฝากคงเหลือในบัญชีของผู้ฝากมีไม่พอจ่ายผู้ฝากยอมผูกพันตนที่จะจ่ายเงินนั้นคืน และยินยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์คิดจากผู้กู้ยืม เงินที่ธนาคารโจทก์ได้ผ่อนผันจ่ายไปก่อนนั้นไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654เพราะมิใช่เป็นเรื่องกู้ยืมและโจทก์เป็นธนาคารพาณิชย์เป็นสถาบันการเงิน ข้อตกลงดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายจำเลยต้องเสียดอกเบี้ยไปตามนั้นไม่มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับที่จะลดได้
of 118