คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชดใช้ค่าเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 321 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1483/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตัดต้นไม้ในที่ดินผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย
การที่จำเลยตัดฟันต้นเตยซึ่งโจทก์ปลูกไว้ตามทางน้ำโดยไม่มีอำนาจจะทำได้ จำเลยต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าต้นเตยให้แก่โจทก์ โดยไม่ต้องวินิจฉัยว่าทางน้ำจะเป็นทางสาธารณะหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามคำพิพากษา และผลของการทุเลาการบังคับคดีต่อการชดใช้ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่ดินของผู้อื่น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่ดินให้โจทก์ กับให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เพราะทำนาใน พ.ศ.2494 ไม่ได้ เป็นเงิน 1,440 บาท กับปีต่อๆ ไปปีละ 1,440 บาท จนกว่าจำเลยจะออกจากที่ดินของโจทก์ ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ศาลสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับตามคำร้องของจำเลย เมื่อศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในปี พ.ศ.2497 จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นรายปีมาจนถึงปี พ.ศ.2497 ด้วย จำเลยจะได้ทำประโยชน์ในที่พิพาทหรือไม่ไม่สำคัญ เพราะจำเลยได้รับทุเลาการบังคับคดีไว้ เรียกได้ว่าจำเลยยังมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยยังไม่ยอมออกจากที่พิพาทตามคำพิพากษา
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้แก่โจทก์ และห้ามจำเลยกับบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์แล้ว ในระหว่างอุทธรณ์จำเลยยังเข้าเกี่ยวข้องตัดฟันไม้ในที่ของโจทก์ๆ จึงขอให้ศาลห้ามจำเลย แม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามจำเลย และบริวารไม่ให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทก็ดี ก็ถือได้ว่าเป็นคำสั่งชั่วคราว เมื่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีตามที่จำเลยร้องขอแล้ว ก็เป็นการถอนคำสั่งชั่วคราวที่ศาลชั้นต้นสั่งไปแล้วด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานที่ดินประมาทเลินเล่อในการดำเนินการอายัดที่ดิน ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้รับซื้อฝาก ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย
มีผู้ลักโฉนดที่ดินเขาไป เจ้าของจึงไปแจ้งอายัดไว้ แต่เจ้าพนักงานที่ดินผู้ได้รับคำสั่งอายัดมาดำเนินการต่อไปนั้นลืมเอาไปให้เจ้าหน้าที่ลงบัญชีอายัดไว้จึงได้มีการขายฝากที่ดินนั้นแก่ผู้อ่นไปเจ้าของเดิมจึงฟ้องขอให้เพิกถอนทำลายนิติกรรม เจ้าพนักงานที่ดินก็รัองต่อศาลขอให้เพิกถอนรายการจดทะเบียนสัญญาขายฝากเสียตาม พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดินฉะบับที่ 2 มาตรา 7 จนศาลมีคำสั่งและพิพากษาให้เพิกถอน ดังนี้ เจ้าพนักงานที่ดินผู้รับคำสั่งอายัดแล้ว บกพร่องประมาทเลินเล่อลืมลงบัญชีอายัดนั้น ต้องรับผิดใช่ค่าเสียหายแก่ผู้รับซื้อฝาก และกรมที่ดินก็ต้องรับผิดร่วมด้วยตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 76

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับรองการเช่าเป็นสัญญาผูกพัน หากไม่เป็นไปตามที่รับรอง ถือเป็นความผิดสัญญาและต้องชดใช้ค่าเสียหาย
ผู้เช่าเดิมได้เซ้งหรือโอนสิทธิการเช่าห้องให้แก่บุคคลอื่น โดยให้คำรับรองว่าจะเช่าอยู่ได้ 5 ปี อันเป็นวัตถุประสงค์สำคัญสำหรับการรับเซ้งและรับโอนการเช่านี้ เมื่อผู้รับโอนไม่ได้อยู่ในห้องตามระยะเวลาที่ผู้เช่าเดิมรับรองไว้ โดยถูกฟ้องขับไล่ ดังนี้ถือได้ว่าผู้เช่าเดิมผิดคำรับรองอันต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้รับโอน และกรณีไม่เข้าอยู่ในบทมาตรา 119 แห่ง ป.พ.พ.เพราะไม่ใช่เรื่องแสดงเจตนาอันทำด้วยสำคัญผิดแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้น้ำสาธารณะ การปิดกั้นทางน้ำถือเป็นการละเมิดต้องชดใช้ค่าเสียหาย แม้ผู้ใช้ยังไม่ได้รับอนุญาต
ทางน้ำหรือสายน้ำอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินนั้นทุกคนย่อมมีสิทธิใช้ได้ร่วมกันแต่ผู้หนึ่งผู้ใดก็หามีสิทธิที่จะทำทำนบปิดกั้นทางน้ำนั้นเสียไม่ถ้าไปปิดกั้นเข้าทำให้ผู้ใช้คนอื่นเสียหายก็ย่อมถือว่าเป็นการละเมิดต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายนั้น
จำเลยทำทำนบปิดกั้นสายน้ำในห้วยสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ชักน้ำมาใช้ในเหมืองของจำเลย เป็นเหตุให้น้ำในห้วยนั้นซึ่งไหลตามธรรมชาติไปสู่เหมืองโจทก์ลดน้อยลงทำให้โจทก์เสียหายทำเหมืองไม่ได้ตามปรกตินั้น จำเลยจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้นให้โจทก์ และแม้โจทก์จะไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานโลหกิจให้ใช้สายน้ำนี้ในการทำเหมืองแร่อันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติเหมืองแร่ก็เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับรัฐบาลหาเป็นการตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยผู้ละเมิด ทำให้โจทก์เสียหายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและเก็บผลประโยชน์ที่ดินพิพาทช่วงระหว่างเป็นความคดีก่อน ผู้ครอบครองต้องชดใช้ค่าเสียหาย
โจทก์เคยฟ้องจำเลยขอให่ศาลแสดงว่าที่ดินที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์และห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทต่อไปแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายในระหว่างที่เป็นความกันในคดีก่อนว่า จำเลยได้ครอบครองและเก็บผลประโยชน์จากที่ดินพิพาท ซึ่งเป็นของโจทก์ไปอีก ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงเพื่อเอาเงินโดยอ้างหนี้สินที่ไม่เป็นความจริง เป็นกรณีละเมิดต้องชดใช้ค่าเสียหาย
เอาความเท็จไปพูดหลอกลวงเขาว่า เจ้าหนี้ของตนเร่งรัดหนี้สินจึงขอเอาเงินจากเขาไปชำระแก่เจ้าหนี้เพื่อรับเอาโฉนดที่ดินคืนมาแล้วจะมาทำจำนองไว้แก่เขา เขาหลงเชื่อมอบเงินให้ไป ชำระหนี้สินจนได้รับโฉนดคืนมามอบไว้แก่เขาแล้ว แต่ไม่ยอมไปทำสัญญาจำนองให้เขาตามที่พูดไว้ ดังนี้ เป็นเรื่องกรณีละเมิด ต้องใช้สินไหมทดแทนให้แก่เขาตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 420

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางแพ่งแยกจากความผิดทางอาญา แม้ไม่มีความผิดอาญา ก็ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายได้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษทางอาญา และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ด้วยนั้นแม้ศาลจะฟังว่า จำเลยเอาทรัพย์ไปจริงแต่มิได้เจตนาลักยังไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ก็ดี ศาลก็พิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่จำเลยเอาไปให้แก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในความเสียหายจากละเมิด ผู้กระทำละเมิดต้องชดใช้ค่าเสียหายและดอกเบี้ย
ทำละเมิดเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นนั้น ผู้ทำละเมิดต้องใช้ค่าเสียหายและดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 440 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดินโดยผู้ไม่เป็นเจ้าของ & ผิดสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย
บิดามารดาทำสัญญาจะขายที่ดินของบุตร 2 คน คนหนึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ อีกคนหนึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแก่บุคคลภายนอก โดยทำสัญญาเป็นหนังสือและรับเงินมัดจำไว้แล้ว ภายหลังเพิกเฉยไม่ดำเนินการจัดการอย่างใดเพื่อปฏิบัติตามสัญญา ดังนี้ ย่อมถือว่าบิดามารดาผิดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้จะซื้อ ส่วนบุตรเป็นคนนอกสัญญาและไม่ปรากฎว่าบิดาเป็นตัวแทน จึงไม่ผูกมัดตามสัญญาและจะบังคับให้บิดามารดาโอนขายที่ดินตามสัญญาไม่ได้เพราะมิใช่ที่ดินของบิดามารดา
of 33