พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1886/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอการลงโทษคดีพนันเล็กน้อย พิจารณาจากพฤติการณ์และโอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี
แม้จะมีผู้เข้าร่วมเล่นการพนันเป็นจำนวนมาก แต่ เงินของกลางมีเพียง 23 บาท แสดงว่าเป็นการเล่นพนันกันครั้งละเล็ก ๆ น้อย ๆและยังมีเหตุน่าเชื่อว่าการเล่นการพนันกันดังกล่าวเป็นการเล่นพนันกันในระหว่างบรรดาผู้ที่ไปช่วย งานฌาปนกิจ ศพมารดาของจำเลยที่ 1ทั้งจำเลยที่ 1 และที่ 15 ต่าง มีการงานทำเป็นหลักแหล่ง และไม่ ปรากฏว่าเคยต้อง โทษจำคุกมาก่อนอยู่ในวิสัยที่จะกลับตน เป็นพลเมือง ดีได้ เป็นเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษจำเลยทั้งสองดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สลากกินแบ่งปลอมเพื่อหวังผลประโยชน์ แม้จะเป็นเงินจำนวนน้อย ศาลพิจารณาโทษโดยคำนึงถึงอายุและสถานะนักศึกษา
จำเลยนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการแก้ไขหมายเลขหลักร้อยจากหมายเลข "8" เป็นหมายเลข "0" มาขอรับรางวัลจากผู้เสียหายโดย สลากกินแบ่งดังกล่าวมีร่องรอยการแก้ไขสามารถมองเห็นได้ ด้วยตาเปล่า เป็นการกระทำความผิดฐาน ใช้ เอกสารสิทธิปลอม แต่ เนื่องจากการกระทำของจำเลยเป็นเพียงเพื่อต้องการจะได้ เงินรางวัลเลขท้ายซึ่ง เป็นเงินจำนวนเล็กน้อย มิได้เป็นเรื่องร้ายแรงนัก ทั้ง จำเลยกระทำผิดในขณะที่อายุเพียง 22 ปี เป็นครั้งแรกและขณะ ยังเป็นนักศึกษาอยู่สมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัว ประพฤติตน เป็นพลเมืองดี ต่อไป โดย ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญาและการรอการลงโทษจำคุกจากพฤติการณ์ผู้กระทำผิด
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยมีเครื่องชั่งที่ผิดอัตราไว้เพื่อใช้เอาเปรียบในการค้า โดยชั่งสินค้าจำหน่ายแก่ผู้ซื้อ กับได้ ใช้เครื่องชั่งที่ผิดอัตรานั้นทำการชั่งสินค้าจำหน่ายแก่ลูกค้าผู้ซื้อเพื่อเอาเปรียบในการค้า ฟ้องของโจทก์จึงชัดแจ้งแล้วว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิดต่อ พ.ร.บ. มาตราชั่ง ตวง วัดฯ และ ป.อ.มาตรา 270 ตามที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลย ส่วน บุคคลที่เสียหายจะเป็นใครนั้น หาใช่สาระสำคัญที่โจทก์จำต้องกล่าวมาในฟ้องด้วยไม่เพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์อาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องของโจทก์ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158(5) แล้ว จำเลยรับจ้าง ศ. ซึ่งเป็นญาติขายอาหารสำเร็จรูปประเภทขนมปังกรอบในที่เกิดเหตุ โดยจำเลยเป็นผู้ครอบครองเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเท่านั้น หาใช่เจ้าของกิจการพาณิชย์ ตามฟ้องไม่ และจำเลยมีภาระต้องเลี้ยงดูภริยา และให้ความอุปการะบุตรที่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเล่าเรียนอีก 3 คน ทั้งระหว่างถูกคุมความประพฤติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยก็ได้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติตามกำหนดนัดอีกด้วย เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนจึงสมควรให้โอกาสจำเลยประพฤติตนเป็นคนดีต่อไป โดยรอการลงโทษจำคุกให้และคุมความประพฤติจำเลยไว้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครอง พฤติการณ์นั่งรถคันเดียวกับผู้กระทำผิด ไม่ถือเป็นหลักฐานการร่วมกระทำผิด
การที่จะฟังว่า จำเลยทั้งสามเป็นคนร้ายกระทำความผิดด้วยหรือไม่ต้อง อาศัยจากพฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามเท่านั้นว่าเป็นพิรุธเพียงไร มีส่วนเกี่ยวข้องกับกัญชาของกลางอย่างไร และข้อเท็จจริงเป็นดัง ที่โจทก์นำสืบหรือไม่ ทั้งนี้เพราะโดย เหตุผลตาม ธรรมดาแล้ว การที่บุคคลใด บุคคลหนึ่งนั่งไปในรถยนต์ คันเดียวกันกับผู้ที่กระทำความผิด โดยเฉพาะ ความผิดเกี่ยวกับการมีสิ่งของผิดกฎหมายไว้ในครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาตนั้น ไม่เป็นเหตุผลที่จะให้ฟังเป็นยุติว่าจะต้อง ร่วมกระทำความผิดในความผิดฐาน นั้นไปด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1365/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจำเลยในคดีฆ่าเนื่องจากพฤติการณ์ที่ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา
จำเลยกับ ส. ฝ่ายหนึ่ง และผู้ตาย โจทก์ร่วม กับ ม.อีกฝ่ายหนึ่งได้ ชกต่อยกัน สาเหตุที่ทั้งสองฝ่ายชกต่อยกันเป็นการสมัครใจวิวาทกัน การที่จำเลยให้การยอมรับว่าได้ ใช้ อาวุธปืนยิงผู้ตายจริง และนำสืบว่าจำเลยเรียก ส. ซึ่ง เป็นหลานของจำเลยให้ออกมาชกต่อยกับโจทก์ร่วม นับว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาและมิได้เกิดจากการจำนนต่อ พยานหลักฐาน จึงมีเหตุสมควรที่จะลดโทษให้จำเลยตาม ป.อ. มาตรา 78.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและไตร่ตรองไว้ก่อน: พิจารณาจากพฤติการณ์และสภาพแวดล้อม
บ้านผู้ตายชั้นบนด้านหน้าเปิดโล่ง ไม่มีฝาผนัง รอบบ้านไม่มีรั้ว สามารถมองเห็นภายในบ้านได้ จากระยะไกล หากจำเลยต้องการทราบเพียงว่าโจทก์อยู่ในบ้านหรือไม่ ย่อมไม่จำเป็นต้อง ทำทีไปขอยาจาก อ. เมื่อ อ. เอายาให้จำเลย จำเลยขอน้ำดื่มกับยาด้วย กรณีอาจเป็นได้ ว่า ขณะที่จำเลยไปขอยานั้น จำเลยป่วยจริงและยังมิได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่ เมื่อพบผู้ตายอยู่ในบ้าน ความแค้นที่เคยมีต่อ ผู้ตายก็เกิดขึ้นมาอีกในทันทีทันใด จึงกลับไปเอาอาวุธปืนมายิงผู้ตาย พฤติการณ์ดังกล่าวยังถือ ไม่ได้ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดย ไตร่ตรอง ไว้ก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1313/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมข่มขืนกระทำชำเราโทรมหญิง: พฤติการณ์นั่งขวางประตูและไม่ห้ามปรามบ่งชี้ความร่วมมือ
จำเลยบอกผู้เสียหายว่า ป. กับ ย. ต้องการร่วม ประเวณีกับผู้เสียหาย ผู้เสียหายไม่ยินยอม จำเลยจึงลุกขึ้นไปนั่งตรงประตูห้องไว้ไม่ให้คนเปิดประตูมาเห็นเพื่อให้ ป. กับ ย.ข่มขืนกระทำชำเรา ผู้เสียหาย โดย จำเลยมิได้ห้ามปรามคนทั้งสอง พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำเลยร่วมมือกับ ป.และ ย. เพื่อให้คนทั้งสองข่มขืนกระทำชำเรา ผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงดังนี้ จำเลยเป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1221/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจรต้องพิสูจน์เจตนา 'รู้' ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมา การซื้อขายในราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ถือเป็นพฤติการณ์บ่งชี้เจตนา
คดีรับของโจรแม้จะฟังได้ว่าจำเลยรับซื้อทรัพย์ของกลางของผู้เสียหายไว้ โจทก์ก็จะต้องนำสืบให้ได้ความว่า จำเลยรับซื้อทรัพย์ของกลางไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมา การที่โจทก์เพียงแต่นำสืบว่า อ. ลักรถจักรยานของผู้เสียหายไปขายให้แก่จำเลยและรถจักรยานของกลางของผู้เสียหายมีราคา 1,900 บาท จำเลยรับซื้อไว้ในราคา 370 บาท แต่ก็ไม่ได้ความว่ารถจักรยานของผู้เสียหายซื้อมานานเท่าใด และมีสภาพเก่าใหม่อย่างไร ที่จำเลยรับซื้อในราคา370 บาทนั้น เป็นราคาที่สมควรหรือไม่อย่างใด ทั้งไม่ได้ความว่าได้พบรถจักรยานที่จำเลยรับซื้อไว้ในลักษณะมีการปิดบังซ่อนเร้นหรือไม่อย่างไร จึงไม่มีพฤติการณ์ใดที่แสดงว่า จำเลยรับซื้อรถจักรยานไว้โดยรู้ว่าเป็นรถจักรยานที่ถูกลักมา พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบยังรับฟังลงโทษจำเลยฐานรับของโจรไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานปล้นทรัพย์: การพิจารณาจากคำฟ้องและพฤติการณ์ที่กระทำความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยกับพวกร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย โดยใช้มือรัดคอผู้เสียหายแล้วใช้อาวุธปืนขู่เข็ญจ่อจี้ บังคับผู้เสียหายว่าในทันใดนั้นจะใช้อาวุธปืนยิงประทุษร้ายผู้เสียหาย โดยมิได้บรรยายว่าในการปล้นทรัพย์ได้กระทำโดยใช้ปืนยิง ดังนั้นแม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าในการปล้นทรัพย์นั้นพวกจำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายด้วย จำเลยก็คงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีซ้ำซ้อนและข้อหาไม่ตรงกับพฤติการณ์ การขนส่งส่วนบุคคลไม่ใช่การขนส่งไม่ประจำทาง
เมื่อข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอุทธรณ์ ไม่มีผลทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลจากพยานหลักฐานที่โจทก์จำเลยนำสืบกันมาเปลี่ยนแปลงเป็นประการอื่นแล้วศาลอุทธรณ์ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าวให้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดี แม้คดีนี้กับคดีก่อนจะเป็นการกระทำอันเดียวกันและข้อหาอย่างเดียวกัน และศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยในคดีก่อนเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว แต่เมื่อมิใช่จำเลยคนเดียวกัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษฐานประกอบการขนส่งไม่ประจำทางข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยประกอบการขนส่งส่วนบุคคล ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหานี้ตามที่โจทก์ฟ้องได้.