พบผลลัพธ์ทั้งหมด 423 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์โดยบิดา และการบังคับตามสัญญาซื้อขายที่ดินที่มีภาระจำยอม
บิดาย่อมเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองและเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ ฉะนั้น ฟ้องโจทก์ที่ใช้คำว่า บิดาผู้ปกครองโดยชอบธรรม ย่อมหมายถึงบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมนั่นเอง
เอกสารหมาย จ.1 สืบเนื่องมาจากสัญญาซื้อขายที่ดิน โดยจำเลยสัญญาว่าจำเลยจะไปจดทะเบียนภารจำยอมที่ดินให้โจทก์ เอกสารดังกล่าวจึงไม่ใช่สัญญาให้โจทก์ฟัองบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาได้.
เอกสารหมาย จ.1 สืบเนื่องมาจากสัญญาซื้อขายที่ดิน โดยจำเลยสัญญาว่าจำเลยจะไปจดทะเบียนภารจำยอมที่ดินให้โจทก์ เอกสารดังกล่าวจึงไม่ใช่สัญญาให้โจทก์ฟัองบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการวางท่อระบายน้ำผ่านที่ดินของผู้อื่นต้องมีค่าทดแทนและที่ดินติดต่อกัน หากไม่มีสิทธิไม่สมบูรณ์
จำเลยวางท่อระบายน้ำจากโรงงานในที่ดินของจำเลยผ่านเข้าไปในที่ดินของโจทก์ เมื่อได้ความว่าจำเลยมิได้ให้ค่าทดแทนแก่โจทก์ ทั้งที่ดินของจำเลยก็มิได้ติดต่อกับที่ดินของโจทก์ด้วย จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะล่วงแดนเข้าไปวางท่อระบายน้ำในที่ดินของโจทก์โดยอาศัยมาตรา 1352 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และการที่โจทก์ยินยอมด้วยวาจาให้จำเลยฝังท่อระบายน้ำในที่ดินของโจทก์ ก็มีผลเพียงให้จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้นเท่านั้น แต่จำเลยไม่มีสิทธิที่จะยกเอาความยินยอมนั้นขึ้นผูกพันโจทก์อยู่ตลอดไปเมื่อโจทก์บอกเลิกคำอนุญาต ให้จำเลยขนย้ายท่อระบายน้ำออกไป จำเลยไม่ปฏิบัติตาม ก็เป็นการละเมิดล่วงแดนกรรมสิทธิ์ในที่ดินของโจทก์ ฉะนั้น การที่โจทก์ขอให้จำเลยรื้อถอนออกไปนั้นจึงทำได้โดยชอบ ไม่ใช่การใช้สิทธิโดยไม่สุจริต มีแต่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
อนึ่ง ความตกลงยินยอมของโจทก์ดังกล่าวนั้นได้ก่อให้เกิดภาระในที่ดินของโจทก์จัดอยู่ในลักษณะที่ว่าด้วยภารจำยอม และภารจำยอมก็เป็นทรัพย์สิทธิอย่างหนึ่ง เมื่อการได้มาโดยนิติกรรมซึ่งทรัพย์สิทธิของจำเลยนี้ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน นิติกรรมนี้ก็ไม่บริบูรณ์
อนึ่ง ความตกลงยินยอมของโจทก์ดังกล่าวนั้นได้ก่อให้เกิดภาระในที่ดินของโจทก์จัดอยู่ในลักษณะที่ว่าด้วยภารจำยอม และภารจำยอมก็เป็นทรัพย์สิทธิอย่างหนึ่ง เมื่อการได้มาโดยนิติกรรมซึ่งทรัพย์สิทธิของจำเลยนี้ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน นิติกรรมนี้ก็ไม่บริบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมสิ้นสุดลงเมื่อมีการหยุดใช้ทางเป็นระยะเวลานาน และขนาดทางไม่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์เดิม
ทางซึ่งเคยตกเป็นภาระจำยอมขนาดเกวียนเดินผ่านได้แต่เจ้าของที่ปลูกกั้นไม่ให้เกวียนเดินมาช้านานถึง 15-16 ปี ย่อมสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399 คงเหลือแต่ภาระจำยอมเฉพาะคนเดินเท่านั้น เมื่อสภาพแห่งภาระจำยอมที่จะใช้เกวียนสิ้นไปแล้ว แม้จะกลับใช้เกวียนใหม่อีกเพียง 3 ปี ก็ไม่ทำให้ภาระจำยอมกลับมีขึ้นอีก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1400 หรือ 1401
และการวินิจฉัยข้อกฎหมายที่ว่า ภาระจำยอมสิ้นไปแล้วโดยอายุความนี้เป็นอายุความได้สิทธิและเสียสิทธิ ไม่ใช่อายุความฟ้องคดี ศาลจึงยกขึ้นเป็นประเด็นวินิจฉัยเองได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 193
และการวินิจฉัยข้อกฎหมายที่ว่า ภาระจำยอมสิ้นไปแล้วโดยอายุความนี้เป็นอายุความได้สิทธิและเสียสิทธิ ไม่ใช่อายุความฟ้องคดี ศาลจึงยกขึ้นเป็นประเด็นวินิจฉัยเองได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 193
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1554/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีทาง通行 (ทางภาระจำยอม) ที่ศาลไม่เห็นว่าทางพิพาทเป็นทางสาธารณะ แม้มีการใช้ทางต่อเนื่อง
ตามคำฟ้องไม่ปรากฎว่า เหตุใดทางพิพาท จึงเป็นทางสาธารณ และสภาพของทางตามที่ได้ความในทางพิจารณาก็ไม่พอฟังว่าเป็นทางที่มีขึ้นทำขึ้นสำหรับประชาชนใช้ในการจราจรตามกฎหมาย โจทก์ก็จะขอให้บังคับให้เจ้าของที่ดินที่ทางพิพาทผ่านไปนั้น เปิดทางให้ใช้เป็นทางสาธารณต่อไปหาได้ไม่
การที่มีพยานเบิกความว่า คนในตำบลหนึ่งกับอีกตำบลหนึ่งจะไปมาก็ต้องผ่านทางพิพาทการที่ต้องผ่านทางนี้ก็ไม่ทำให้ทางพิพาทเป็นทางที่มีขึ้นทำขึ้นสำหรับประชาชนใช้ในการจราจรตามกฎหมาย
ที่ดินซึ่งทางพิพาทผ่านเข้าไปนั้นเจ้าของไม่ได้กั้น ไม่มีกันเขตรั้ว บุคคลก็อาจหาปศุสัตว์หรือผ่านเข้าไปได้อยู่แล้ว หรือแม้จะมีกันเขตรั้วการผ่านหรือเข้าไปเช่นนี้ก็ไม่ทำให้ทางพิพาทเป็นทางที่มีขึ้นทำขึ้นสำหรับประชาชนใช้ในการจราจรตามกฎหมาย
ตามคำฟ้องแสดงว่าโจทก์ขอให้บังคับจำเลยเปิดทางสาธารณ เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าทางพิพาทเป็นทางสาธารณ ศาลก็บังคับจำเลยให้เปิดทางพิพาทเป็นทางสาธารณไม่ได้ ศาลจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์ได้ใช้ทางพิพากษา 15 ปี แล้วโดยไม่มีใครห้ามจริงดังที่กล่าวอ้างหรือไม่
การที่มีพยานเบิกความว่า คนในตำบลหนึ่งกับอีกตำบลหนึ่งจะไปมาก็ต้องผ่านทางพิพาทการที่ต้องผ่านทางนี้ก็ไม่ทำให้ทางพิพาทเป็นทางที่มีขึ้นทำขึ้นสำหรับประชาชนใช้ในการจราจรตามกฎหมาย
ที่ดินซึ่งทางพิพาทผ่านเข้าไปนั้นเจ้าของไม่ได้กั้น ไม่มีกันเขตรั้ว บุคคลก็อาจหาปศุสัตว์หรือผ่านเข้าไปได้อยู่แล้ว หรือแม้จะมีกันเขตรั้วการผ่านหรือเข้าไปเช่นนี้ก็ไม่ทำให้ทางพิพาทเป็นทางที่มีขึ้นทำขึ้นสำหรับประชาชนใช้ในการจราจรตามกฎหมาย
ตามคำฟ้องแสดงว่าโจทก์ขอให้บังคับจำเลยเปิดทางสาธารณ เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าทางพิพาทเป็นทางสาธารณ ศาลก็บังคับจำเลยให้เปิดทางพิพาทเป็นทางสาธารณไม่ได้ ศาลจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์ได้ใช้ทางพิพากษา 15 ปี แล้วโดยไม่มีใครห้ามจริงดังที่กล่าวอ้างหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งภาระจำยอมโดยการใช้ทางปรปักษ์ แม้ใช้ไม่ต่อเนื่องตลอดทั้งปีก็ถือเป็นการใช้สิทธิได้
โจทก์ได้ใช้ทางพิพาทของจำเลยเป็นทางเดินผ่านทุกปีเมื่อสิ้นฤดูทำนา เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี ภาระจำยอมย่อมเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ที่ดินของโจทก์แล้ว แม้โจทก์จะมิได้ใช้ทางพิพาทในฤดูทำนาก็ตาม ก็หาทำให้การใช้ทางนั้นขาดตอนไม่ติดต่อกันได้ไม่ จำเลยจะปิดกั้นหรือขุดบ่อทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้ทางดังกล่าวหาได้ไม่
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2506)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอม ทางพิพาท การใช้สิทธิในที่ดินของผู้อื่น ระยะเวลา 10 ปี
การผ่านหรือเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1353 แม้จะเป็นการใช้สิทธิในทรัพย์ของผู้อื่น ก็ทำให้ผู้ที่มิใช่เจ้าของซึ่งผ่านหรือเข้าไปพ้นจากการเป็นผู้ทำละเมิด แต่เจ้าของที่ดินห้ามได้เสมอ เมื่อห้ามแล้วยังฝ่าฝืนก็ต้องตกเป็นผู้ละเมิด ถ้าไม่ห้ามและการผ่านหรือเข้าไปในที่ดินดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจของผู้ผ่านหรือเข้าไปเอง และถ้าเป็นเวลา 10 ปีหรือกว่า 10 ปีขึ้นไป ที่ดินที่ถูกผ่านหรือเข้าไปก็ต้องตกเป็นภาระจำยอม
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอก ฤดุทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมให้ฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอก โจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอก เพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอก ฤดุทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมให้ฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอก โจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอก เพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอม ทางพิพาท การใช้สิทธิในที่ดินของผู้อื่น การห้าม และการครอบครองปรปักษ์
การผ่านหรือเข้าไปในที่ดินของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1353 แม้จะเป็นการใช้สิทธิในทรัพย์ของผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นซึ่งมิใช่เจ้าของซึ่งผ่านหรือเข้าไปพ้นจากการเป็นผู้ทำละเมิด แต่เจ้าของที่ดินห้ามได้เสมอ เมื่อห้ามแล้วยังฝ่าฝืนก็ต้องตกเป็นผู้ละเมิด ถ้าไม่ห้ามและการผ่านหรือเข้าไปในที่ดินดังกล่าวโดยอาศัยอำนาจของตนเอง ถ้าเป็นเวลา 10 ปีหรือกว่า 10 ปีขึ้นไปที่ดินนั้นก็ต้องตกอยู่ในภาระจำยอม
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอกฤดูทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมในฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอกโจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอกเพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอกฤดูทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมในฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอกโจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอกเพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมโดยอายุความ: จำเลยปิดกั้นคูระบายน้ำที่โจทก์ใช้ต่อเนื่องกว่า 10 ปีไม่ได้
เดิมที่ดินของโจทก์จำเลยเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่มาแบ่งแยกภายหลัง มีคูระบายน้ำ และใช้ระบายน้ำโสโครกผ่านที่ดินในส่วนที่ยกมาเป็นของจำเลยมาตั้งแต่เจ้าของเดิม เมื่อที่ดินตกมาเป็นของโจทก์ โจทก์ก็ใช้คูระบายน้ำโสโครกต่อมาอีกกว่า 10 ปีแล้ว ดังนี้ โจทก์ย่อมได้สิทธิในภาระจำยอมโดยอายุความเหนือที่ดินจำเลย ๆ จะปิดคูระบายน้ำเสียไม่ได้
ข้อต่อสู้ของจำเลยว่าจำเลยมีสิทธิกระทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 แต่ไม่ขอสืบพยานนั้นศาลไม่รับฟัง
ข้อต่อสู้ของจำเลยว่าจำเลยมีสิทธิกระทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 แต่ไม่ขอสืบพยานนั้นศาลไม่รับฟัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1754/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมต้องเกิดเมื่อกรรมสิทธิ์แยกขาด การใช้ทางเดินต่อเนื่องหลังแบ่งแยกที่ดินยังไม่ทำให้เกิดภาระจำยอม
ทางเดินพิพาทอยู่ในที่ดินโฉนดแปลงเดียวกัน ซึ่งมีเจ้าของรวม 2 ฝ่ายครอบครองร่วมกันมาโดยมิได้แยกกันครอบครองเป็นส่วนสัด และในระหว่างนั้น ถึงแม้ผู้เช่าห้องแถวของเจ้าของรวมอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ใช้ทางเดินพิพาทนั้นมาเป็นเวลา 20 ปีเศษก็ตาม และภายหลังเมื่อได้แบ่งแยกโฉนดครอบครองกันเป็นส่วนสัดแล้ว แต่ก็ยังใช้ทางเดินพิพาทนั้นไม่ถึง 10 ปี นับแต่ได้แยกกันครอบครองทางเดินพิพาทย่อมไม่เป็นทางภาระจำยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมโดยอายุความและสิทธิในการรักษา/ใช้ประโยชน์ แม้ไม่มีคำพิพากษา
คำพิพากษาที่ให้บุคคลหนึ่งเปิดทางภาระจำยอมผ่านที่ดินนั้น ย่อมไม่ผูกพัน เจ้าของที่ดินข้างเคียงคนอื่นซึ่งเป็นบุคคลภายนอก แม้ขณะทำแผนที่พิพาทจะปรากฎเส้นทางภาระจำยอมผ่านที่ดินของบุคคลนั้น และบุคคลนั้นได้มาอยู่รู้เห็นในการทำแผนที่พิพาทอยู่ด้วยก็ตาม
ผู้ที่ได้ทางภาระจำยอมมาโดยอายุความแล้วนั้น ย่อมมีสิทธิขุดโค่นหัวคันนาซึ่งอยู่ในเส้นทางอันเป็นภาระจำยอมนั้นได้เท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาและใช้ภาระจำยอมนั้น โดยไม่จำเป็นต้องให้มีคำพิพากษาว่าที่ดินนั้นตกเป็นภาระจำยอมเสียก่อน
ผู้ที่ได้ทางภาระจำยอมมาโดยอายุความแล้วนั้น ย่อมมีสิทธิขุดโค่นหัวคันนาซึ่งอยู่ในเส้นทางอันเป็นภาระจำยอมนั้นได้เท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาและใช้ภาระจำยอมนั้น โดยไม่จำเป็นต้องให้มีคำพิพากษาว่าที่ดินนั้นตกเป็นภาระจำยอมเสียก่อน