คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญากู้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 391 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักล้างสัญญากู้ด้วยข้อต่อสู้เรื่องเอกสารปลอมและการใช้เอกสารสัญญากู้เป็นหลักฐานหนี้พนัน
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ตามสัญญากู้ จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธการกู้เงินและปฏิเสธว่าไม่ได้ทำสัญญากู้ให้โจทก์ลายมือชื่อในสัญญากู้เป็นลายมือชื่อที่จำเลยที่ 1 ลงไว้ในแบบพิมพ์สัญญากู้มอบให้จำเลยที่ 2เป็นหลักฐานแห่งหนี้การพนันที่จำเลยที่ 1 เสียแก่จำเลยที่ 2 โดยไม่ได้กรอกข้อความอื่นลงในแบบพิมพ์นั้นสัญญากู้ที่โจทก์อ้างเป็นเอกสารปลอม ดังนี้ จำเลยที่ 1 ย่อมนำสืบหักล้างตามข้อต่อสู้ได้เพราะมิใช่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมบูรณ์ของสัญญากู้และการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้โดยพยาน
เอกสารสัญญากู้มี น. และ ล. ลงชื่อเป็นพยานอยู่ด้วย ซึ่ง น. เป็นผู้รู้เห็นในขณะที่ทำการกู้ยืมเงินกัน อันแสดงว่า ขณะที่ น.รับรองลายพิมพ์นิ้วมือของ พ.ซึ่งเป็นผู้กู้ พ.หาได้โต้แย้งให้เห็นเป็นอย่างอื่นว่าลายพิมพ์นิ้วมือนั้นมิใช่เป็นลายพิมพ์นิ้วมือของ พ.แต่ประการใดไม่ ฉะนั้นแม้ น.จะไม่เห็นตอนที่ พ.ผู้กู้ลงลายพิมพ์นิ้วมือ ก็ถือได้ว่ามีพยานลงลายมือชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้สองคนแล้ว แม้ ผ.จะมาลงชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ภายหลังอีก ก็หาทำให้สัญญากู้รายนี้เสียไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมบูรณ์ของสัญญากู้และการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของพยาน แม้พยานลงชื่อภายหลัง
เอกสารสัญญากู้มี น. และ ล. ลงชื่อเป็นพยานอยู่ด้วย ซึ่ง น. เป็นผู้รู้เห็นในขณะที่ทำการกู้ยืมเงินกัน อันแสดงว่า ขณะที่ น. รับรองลายพิมพ์นิ้วมือของ พ. ซึ่งเป็นผู้กู้ พ. หาได้โต้แย้งให้เห็นเป็นอย่างอื่นว่าลายพิมพ์นิ้วมือนั้นมิใช่เป็นลายพิมพ์นิ้วมือของ พ. แต่ประการใดไม่ฉะนั้นแม้ น. จะไม่เห็นตอนที่ พ. ผู้กู้ลงลายพิมพ์นิ้วมือ ก็ถือได้ว่ามีพยานลงลายมือชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้สองคนแล้ว แม้ ผ. จะมาลงชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ภายหลังอีก ก็หาทำให้สัญญากู้รายนี้เสียไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คชำระหนี้จากการกู้เงิน แม้ไม่มีสัญญากู้ก็อาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็คได้ ศาลต้องสืบพยานจำเลย
จำเลยกู้ยืมเงินจากผู้เสียหาย โดยจำเลยออกเช็คให้ แม้จำเลยจะไม่ได้ทำหนังสือสัญญากู้ แต่ได้ออกเช็คให้แทนโดยมีมูลหนี้จากการกู้เงิน จึงย่อมมีความผูกพันกันในเบื้องต้นอันอาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ได้
คดีที่ผู้เสียหายเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการโจทก์ ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์และจำเลยแล้วพิพากษายกฟ้อง พนักงานอัยการโจทก์ไม่อุทธรณ์ฎีกา แต่โจทก์ร่วมได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ เมื่อพยานโจทก์ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบเป็นพยานของพนักงานอัยการโจทก์ แต่พนักงานอัยการโจทก์ไม่อุทธรณ์ฎีกา และโจทก์ร่วมแถลงไม่สืบพยาน ดังนี้ ศาลฎีกาย่อมสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานเฉพาะพยานจำเลยเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้: พยานเบิกความรับรองการยอมรับของจำเลยต่อหน้าพยาน ถือเป็นหลักฐานการรับรองได้
เมื่อพยานในสัญญากู้คนหนึ่งอ่านสัญญาที่โจทก์และจำเลยนำมาให้อ่านแล้ว เห็นว่าตรงลายพิมพ์นิ้วมือยังไม่ได้เขียนระบุว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือจำเลย พยานคนนั้นจึงให้ผู้เขียนสัญญาเขียนข้อความดังกล่าวกำกับไว้ที่ลายพิมพ์นิ้วมือจำเลยต่อหน้าจำเลย พฤติการณ์ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยได้รับรองแล้วว่าลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญานั้นคือลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย นอกจากนี้เมื่อพยานในสัญญากู้ทั้งสองคนอ่านสัญญาแล้วได้สอบถามโจทก์จำเลยว่าได้อ่านสัญญากันดีแล้วหรือ โจทก์และจำเลยต่างรับรองว่าเข้าใจเรียบร้อยแล้ว พยานทั้งสองคนจึงลงชื่อเป็นพยาน พฤติการณ์เช่นนี้พอถือได้เช่นเดียวกันว่าจำเลยได้รับรองต่อพยานทั้งสองว่าลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือสัญญากู้เป็นลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้: พยานเบิกความรับรองความเข้าใจของจำเลยถือเป็นการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ
เมื่อพยานในสัญญากู้คนหนึ่งอ่านสัญญาที่โจทก์และจำเลยนำมาให้อ่านแล้ว เห็นว่าตรงลายพิมพ์นิ้วมือยังไม่ได้เขียนระบุว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือจำเลยพยานคนนั้นจึงให้ผู้เขียนสัญญาเขียนข้อความดังกล่าวกำกับไว้ที่ลายพิมพ์นิ้วมือจำเลยต่อหน้าจำเลยพฤติการณ์ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยได้รับรองแล้วว่าลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญานั้นคือลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยนอกจากนี้เมื่อพยานในสัญญากู้ทั้งสองคนอ่านสัญญาแล้ว ได้สอบถามโจทก์จำเลยว่าได้อ่านสัญญากันดีแล้วหรือ โจทก์และจำเลยต่างรับรองว่าเข้าใจเรียบร้อยแล้ว พยานทั้งสองคนจึงลงชื่อเป็นพยานพฤติการณ์เช่นนี้พอถือได้เช่นเดียวกันว่าจำเลยได้รับรองต่อพยานทั้งสองว่าลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือสัญญากู้เป็นลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จเพื่อสนับสนุนคดีแพ่ง และการไม่คืนสัญญากู้ ทำให้เกิดการฟ้องร้องโดยใช้เอกสารปลอม
จำเลยที่ 2 เบิกความอันเป็นเท็จเพื่อแสดงว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 และยังได้เบิกความเท็จอีกว่าโจทก์ได้พักอยู่กับจำเลยที่ 2 โจทก์ได้บอกจำเลยที่ 2 ว่าไปบ้านยางสินไชยได้เงินมา 1,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้น่าเชื่อว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 จริง ข้อความที่จำเลยที่ 2 เบิกความต่อศาลในการพิจารณานั้น จึงเป็นข้อสำคัญในคดีที่จำเลยที่ 1 ฟ้องเรียกเงินจากโจทก์ตามสัญญากู้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเกี่ยวกับสัญญากู้เงินเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา และการไม่คืนสัญญาทำให้เกิดการปลอมแปลง
จำเลยที่ 2 เบิกความอันเป็นเท็จเพื่อแสดงว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 และยังได้เบิกความเท็จอีกว่าโจทก์ได้พักอยู่กับจำเลยที่ 2 โจทก์ได้บอกจำเลยที่ 2 ว่าไปบ้านยางสินไชยได้เงินมา 1,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้น่าเชื่อว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 จริงข้อความที่จำเลยที่ 2 เบิกความต่อศาลในการพิจารณานั้นจึงเป็นข้อสำคัญในคดีที่จำเลยที่ 1 ฟ้องเรียกเงินจากโจทก์ตามสัญญากู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ชดใช้ค่าเสียหายจากการทำละเมิด ไม่เป็นโมฆะ แม้มีการลงวันที่ย้อนหลัง หากเจตนาคือการชดใช้ค่าเสียหาย ไม่ใช่ช่วยเหลือจำเลยหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยตามสัญญากู้ซิ่งมีมูลหนี้เดิมจากการทำละเมิดของจำเลย อายุความเรียกร้องต้องเป็นไปตามเรื่องกู้ มิใช่เรื่องมูลละเมิด
จำเลยทำให้เกิดเพลิงไหม้ทรัพย์สินของโจทก์โดยประมาทเลินเล่อ และยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ โดยทำสัญญากู้ให้ไว้และโจทก์ยอมให้ลงวันที่ในสัญญากู้ย้อนหลังไป ไม่ถือว่าสัญญากู้นั้นมีวัตถุประสงค์โดยตรงอันจะมีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากการต้องหาคดีอาญาฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และไม่ใช่เป็นการทำสัญญากู้เพื่อให้โจทก์ช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิดทางอาญาด้วย สัญญากู้จึงไม่เป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสวบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เนื่องจากเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณี เป็นเรื่องจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่กัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยก่อให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทแก่เรือน เรือนครัว ยุ้งข้าว ข้าวเปลือก สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านและต้นผลไม้ ถือว่าโจทก์ได้บรรยายรายละเอียดแห่งทรัพย์สินที่เสียหายไว้ในฟ้องชัดแจ้งแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ชดใช้ค่าเสียหายจากเหตุละเมิด ไม่เป็นโมฆะ แม้ลงวันที่ย้อนหลัง หากเจตนาคือการชดใช้ค่าเสียหาย ไม่ใช่เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยตามสัญญากู้ ซึ่งมีมูลหนี้เดิมจากการทำละเมิดของจำเลย อายุความเรียกร้องต้องเป็นไปตามเรื่องกู้ มิใช่เรื่องมูลละเมิด
จำเลยทำให้เกิดเพลิงไหม้ทรัพย์สินของโจทก์โดยประมาทเลินเล่อและยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์โดยทำสัญญากู้ให้ไว้และโจทก์ยอมให้ลงวันที่ในสัญญากู้ย้อนหลังไปไม่ถือว่าสัญญากู้นั้นมีวัตถุประสงค์โดยตรงอันจะมีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากการต้องหาคดีอาญาฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทและไม่ใช่เป็นการทำสัญญากู้เพื่อให้โจทก์ช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิดทางอาญาด้วยสัญญากู้จึงไม่เป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนเนื่องจากเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณีเป็นเรื่องจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่กัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยก่อให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทแก่เรือน เรือนครัว ยุ้งข้าว ข้าวเปลือก สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านและต้นผลไม้ถือว่าโจทก์ได้บรรยายรายละเอียดแห่งทรัพย์สินที่เสียหายไว้ในฟ้องชัดแจ้งแล้ว
of 40