คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิ่งปลูกสร้าง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 323 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้จากสิ่งปลูกสร้างรื้อถอน ไม่ถือเป็นไม้แปรรูปตามกฎหมาย
ไม้กระดานที่ได้เคยประกอบเป็นสิ่งปลูกสร้างคือเป็นเรือนมาแล้วเมื่อรื้อออกมาเป็นแผ่นไม้กระดานอีกก็ไม่ถือว่าเป็นไม้แปรรูปตามความหมายของ พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2077/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินด้วยสิ่งปลูกสร้าง ไม่ถือเป็นการครอบครองปรปักษ์
การที่สิ่งก่อสร้างในที่ดินแปลงหนึ่งเอนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินอีกแปลงหนึ่งนั้น ไม่ใช่เป็นการครอบครองที่ดินของผู้อื่น ฉะนั้นเจ้าของที่ดินที่สิ่งปลูกสร้างของตนรุกล้ำเข้าไปจะอ้างการครอบครองปรปักษ์เอาที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2077/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินด้วยสิ่งปลูกสร้างไม่ใช่การครอบครองปรปักษ์ เจ้าของที่ดินไม่สามารถอ้างกรรมสิทธิ์ได้
การที่สิ่งก่อสร้างในที่ดินแปลงหนึ่ง เอนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินอีกแปลงหนึ่งนั้น ไม่ใช่เป็นการครอบครองที่ดินของผู้อื่น ฉะนั้นเจ้าของที่ดินที่สิ่งปลูกสร้างของตนรุกล้ำเข้าไปจะอ้างการครอบครองปรปักษ์เอาที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2031/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและการรุกล้ำต่อเนื่อง แม้ไม่มีคำขอเฉพาะเจาะจงในคำฟ้องเดิม ก็สามารถบังคับได้หากเชื่อมโยงกับการปฏิบัติตามคำพิพากษา
เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยซื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหมายเลข 5-6 และ 7 ออกจากที่พิพาท โจทก์จึงมาขอให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ฉะเพาะห้องหมายเลข 5 เมื่อปรากฎว่าจำเลยรื้อไปเพียง 3 ด้าน เหลือด้านที่ติดต่อกับที่ดินของจำเลยไว้หนึ่งด้าน แล้วจำเลยกลับทำต่อเติมติดต่อกับเรือนของจำเลยเป็นเหตุให้ชายคาน้ำตกที่ต่อเติมล้ำเข้าไปในที่พิพาทของโจทก์ ดังนี้แม้ในคำพิพากษาจะมิได้วินิจฉัยเกี่ยวถึงเรื่องการรุกล้ำชายคาน้ำตกซึ่งมีอยู่ก่อนนั้นก็ตาม โจทก์ก็มีสิทธิ์ขอให้ศาลสั่งจำเลยรื้อชายคาน้ำตกส่วนที่รุกล้ำเข้าไปในที่ของโจทก์ได้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องเป็นคดีใหม่ และไม่เป็นการสั่งเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2031/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและการขยายขอบเขตการบังคับคดีเมื่อมีการต่อเติมจนล้ำเขต
เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหมายเลข 5-6 และ 7 ออกจากที่พิพาท โจทก์จึงมาขอให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้เฉพาะห้องหมายเลข 5 เมื่อปรากฏว่าจำเลยรื้อไปเพียง 3 ด้าน เหลือด้านที่ติดต่อกับที่ดินของจำเลยไว้หนึ่งด้าน แล้วจำเลยกลับทำต่อเติมติดต่อกับเรือนของจำเลยเป็นเหตุให้ชายคาน้ำตกที่ต่อเติมล้ำเข้าไปในที่พิพาทของโจทก์ดังนี้แม้ในคำพิพากษาจะมิได้วินิจฉัยเกี่ยวถึงเรื่องการรุกล้ำชายคาน้ำตกซึ่งมีอยู่ก่อนนั้นก็ตาม โจทก์ก็มีสิทธิ์ขอให้ศาลสั่งจำเลยรื้อชายคาน้ำตกส่วนที่รุกล้ำเข้าไปในที่ของโจทก์ได้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องเป็นคดีใหม่ และไม่เป็นการสั่งเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588-1589/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ชายเลนเป็นสาธารณสมบัติ แม้ครอบครองนานก็ไม่เกิดสิทธิ แต่หากมีสิ่งปลูกสร้างขัดขวางเจ้าของที่ดินติดต่อกัน ย่อมมีสิทธิเรียกร้อง
ที่พิพาทเป็นที่ชายเลนเพิ่งดอนเวลาน้ำขึ้นยังท่วมถึง จึงเป็นที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้ผู้ใดจะครอบครองนานสักเท่าใดก็หาได้กรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองไม่ แต่ถ้าหากบุคคลอื่นเข้ามาปลูกสร้างทำการใดๆ เป็นการขัดขวางต่อเจ้าของที่ดินที่ติดต่อกับที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ย่อมถือว่าเจ้าของที่ดินนั้นเป็นผู้เสียหายพิเศษ และเป็นโจทก์ฟ้องเรียกร้องให้ผู้ที่ขัดขวางสิทธิของตนระงับการขัดขวางหรือชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดินที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นโมฆะ และสิทธิในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินของผู้อื่น
บิดาเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกับบุตร แล้วบิดาได้ทำสัญญากู้เงินจากผู้อื่นโดยนำที่ดินให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้ และกล่าวว่าถ้าไม่นำต้นเงินมาส่งภายในกำหนดเวลายอมยกที่ดินให้เป็นสิทธิตลอดไปซึ่งในกรณีนี้มีเพียง 3 เดือน ดังนี้ย่อมเป็นการทำสัญญาซื้อขาย เมื่อคู่สัญญามิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว สัญญาย่อมเป็นโมฆะ ผู้ให้กู้จะอ้างสิทธิอย่างใดในที่ดินนั้นไม่ได้ บุตรย่อมเรียกร้องเอาที่ดินคืนได้
เมื่อผู้ครอบครองที่ดินของผู้อื่นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิในที่ดินนั้นแล้วปลูกโรงเรือนและสิ่งเพาะปลูกโรงเรือนและสิ่งเพาะปลูกลงในที่ดินโดยอ้างว่าปลูกทำลงโดยสุจริตไม่ได้ รูปคดีต้องด้วย ม.1311 และเมื่อเจ้าของที่ดินแสดงได้ว่าตนมิได้ประมาทเลิ่นเล่อ เจ้าของที่ดินย่อมมีสิทธิบังคับให้ผู้ปลูกรื้อถอนไปได้ตาม ม.1310

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงระงับข้อพิพาท (สัญญาประนีประนอมยอมความ) กรณีเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินของคนไทยมีกำหนด 5 ปี เช่าแล้วได้ปลูกอาคารโรงเรือนขึ้นบนที่เช่า ต่อมาผู้เช่าตกเป็น
บุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบ คุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส. จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500
บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไป สิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส. แต่ขอร้องให้ ก.ท.ส. ให้โอกาศรับซื้อก่อนคนอื่น
เมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตาม ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา 850 แล้ว ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: การระงับข้อพิพาทสัญญาสร้างบนที่เช่า และผลผูกพันตามสัญญา
ชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินของคนไทยมีกำหนด 5 ปีเช่าแล้วได้ปลูกอาคารโรงเรือนขึ้นบนที่เช่าต่อมาผู้เช่าตกเป็นบุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พระราชบัญญัติว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบคุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส.จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500 บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไปสิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส.แต่ขอร้องให้ก.ท.ส.ให้โอกาสรับซื้อก่อนคนอื่นเมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากันดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 แล้วถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขับไล่หมดความจำเป็นเมื่อจำเลยและบริวารออกจากที่ดินและรื้อสิ่งปลูกสร้างแล้ว
ในคดีที่ศาลพิพากษาให้จำเลยกับบริวารออกจากสถานที่เช่าของโจทก์ โจทก์ได้ขอบังคับคดี ขอให้ศาลขับไล่บุคคลที่อยู่ในสถานที่เช่าอ้างว่าเป็นบริวารของจำเลย บุคคลในจำนวนนั้นบางคนยื่นคำร้องคัดค้านว่า ไม่ใช่บริวารของจำเลย แต่เป็นผู้เช่าช่วงได้โต้เถียงกันขึ้นมาจนถึงศาลฎีกา จึงปรากฏว่าจำเลยและบริวารทั้งหลายได้ออกไปจากที่ดินของโจทก์และสิ่งก่อสร้างทั้งหลายโจทก์ก็ได้รื้อออกหมดแล้ว ดังนี้ ศาลไม่จำต้องออกหมายบังคับให้เพราะการบังคับคดีเรื่องขับไล่ออกจากสิ่งก่อสร้างหมดความจำเป็นที่จะต้องสั่งอย่างใดแล้ว
of 33