คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
องค์ประกอบความผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 388 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา: การบรรยายองค์ประกอบความผิดต้องชัดแจ้งให้จำเลยเข้าใจ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทโดยโฆษณาด้วยเอกสารหนังสือพิมพ์ โดยกล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวภาพ จำเลยสมคบร่วมกันกระทำความผิดหมิ่นประมาทโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ให้ข่าว และกล่าวข้อความหมิ่นประมาทโจทก์แก่ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ข่าวภาพ โดยจำเลยที่ 1 ตั้งใจก่อให้เกิดการลงพิมพ์โฆษณาหมิ่นประมาทโจทก์ โดยให้ผู้สื่อข่าวนำข้อความที่หมิ่นประมาทโจทก์นั้น ไปลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์ข่าวภาพ และหนังสือพิมพ์ข่าวภาพได้ลงพิมพ์โฆษณาข้อความหมิ่นประมาทโจทก์แล้ว ดังนี้ ถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์บรรลุผลสำเร็จ การกระทำครบองค์ประกอบความผิด
จำเลยกับพวกได้ตัดกุญแจตู้ใส่ผ้า และได้เอาผ้าออกจากตู้มาแล้ว ครั้นแบกผ้าลงจากตึกก็ถูกจับเสีย ดังนี้ เป็นการลักทรัพย์ที่บรรลุผลสำเร็จแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1264/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความครบถ้วนของฟ้องอาญาคดีป่าไม้: ไม่จำเป็นต้องบรรยายข้อยกเว้นโทษ หากบรรยายองค์ประกอบความผิดครบถ้วน
โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดไว้ครบถ้วนแล้ว ตามบทมาตราที่โจทก์ฟ้อง คือบรรยายได้ความว่าในเขตควบคุมการแปรรูปไม้จำเลยได้แปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปเกิน 0.20 เมตรลูกบาศก์ โดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งครบถ้วนเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ม.48 แล้ว ดังนี้ โจทก์ไม่จำต้องบรรยายถึง ม.50 อันเป็นข้อยกเว้นไว้ด้วยว่า ไม้แปรรูปนั้นแปรรูปมาจากไม้แปรรูปหรือไม้ซุงไม้ท่อน เพราะมิใช่องค์เกณฑ์ของความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานรับของโจร: ต้องพิสูจน์ได้ว่าของที่รับมาได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย
อันจะเป็นความผิดฐานรับของโจรนั้นต้องประกอบด้วยองค์สำคัญว่าของซึ่งได้รับไว้เป็นของที่ได้มาด้วยการกระทำผิดต่อ ก.ม.เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่ากระบือของกลางเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิด ก.ม.คือถูกลักมาดังฟ้องแล้วก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานรับของโจรหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานรับของโจร ต้องพิสูจน์ว่าของที่รับรู้ว่าเป็นผลจากการกระทำผิด
อันจะเป็นความผิดฐานรับของโจรนั้นต้องประกอบด้วยองค์สำคัญว่าของซึ่งได้รับไว้เป็นของที่ได้มาด้วยการกระทำผิดต่อกฎหมายเมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่ากระบือของกลางเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายคือถูกลักมาดังฟ้องแล้วก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานรับของโจรหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2140/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิด ม.123 ลักษณะอาญา: การแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานเพื่อผลประโยชน์
บุคคลจะพึงรับโทษตาม ก.ม. ลักษณะอาญา ม.123 จะต้องประกอบด้วยองค์ความผิดคือ (1) แสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานและ (2) รับหรือยอมให้เขาสัญญาว่าจะให้ลาภสักการแก่ตัวหรือแก่ผู้อื่น เพื่อที่จะไปวิงวอนว่ากล่าวให้เจ้าพนักงานให้คุณหรือให้โทษแก่ผู้ใด และจะให้และมิให้เจ้าพนักงานทำการในหน้าที่อย่างใด ๆ
ถ้าฟ้องขาดความข้อ (2) ก็เป็นฟ้องที่บรรยายไม่ครบองค์ความผิดลงโทษจำเลยไม่ได้.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฉ้อโกงต้องมีองค์ประกอบการหลงเชื่อจำเลยโดยตรง หากผู้เสียหายหลงเชื่อผู้อื่น การกระทำของจำเลยไม่ถือเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย
เมื่อข้อเท็จจริงในห้องสำนวนปรากฏว่า ผู้เสียหายมอบเงินให้แก่ผู้แทนผู้เสียหายไปรับจำนองแทนผู้เสียหายเพราะเชื่อตามที่ผู้แทนบอกเช่นนี้และศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลยดังนี้เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงไม่ตรงกับความจริง ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยเสียใหม่ให้ตรงความจริงได้
เมื่อผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์ มิได้เสียหายเนื่องจากหลงเชื่อการกระทำของจำเลยแล้วก็ย่อมขาดองค์สำคัญแห่งความผิดฐานฉ้อโกง จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างจำนวนผู้กระทำผิดไม่ถึงเหตุยกฟ้องหากองค์ประกอบความผิดยังคงครบถ้วน
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวก 2 คนทำผิดฐานปล้นทรัพย์ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ร้าย 3 คนดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องที่จะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้
ข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 วรรคสองนั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องเบิกความเท็จเนื่องจากขาดองค์ประกอบสำคัญ
โจทก์บรรยายฟ้องความผิดฐานเบิกความเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 155 โดยไม่ได้กล่าวว่า จำเลยนำความที่รู้อยู่ว่าเป็นความเท็จมาเบิกความ เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1688/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาซ้ำซ้อนและการพิจารณาองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุก ทำร้ายร่างกาย และเสื่อมเสียอิสระภาพ
เดิมโจทก์ผู้เดียวถูกฟ้องฐานวิวาทกับจำเลยในท้องถนนหลวงศาลปรับไปแล้วตามคดีแดงที่ 551/2497
ต่อมาโจทก์มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในคดีนั้นฐานบุกรุกทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพและทำร้ายร่างกาย เมื่อฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยเข้าไปฉุดโจทก์ออกมาจากห้องโดยใช้กำลังทำร้ายและฉุดคร่า ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่บริบูรณ์ตาม มาตรา 329, 254,338(3),268,63 ส่วนกรณีเดิมตามคดีแดงที่ 551/2497 นั้นเป็นข้อหาว่าวิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง แต่ในกรณีบุกรุกทำร้ายและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพในเคหะสถานนั้นยังหาได้มีการฟ้องร้องและพิจารณาพิพากษาไม่ จึงไม่เป็นฟ้องที่ต้องห้าม
of 39