คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อนาจาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 355 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฉุดคร่าห์เพื่อแต่งงานโดยความยินยอม: การกระทำไม่ถึงขั้นเป็นความผิดฐานฉุดคร่าห์เพื่ออนาจาร
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าผู้เสียหายสมัครใจแต่งงานกับจำเลย แต่เพื่อปิดบังบิดามารดาจึงนัดหมายให้จำเลยมาฉุดคร่าห์ไปให้พ้นเขตที่จะต้องขอความยินยอมของบิดาผู้เสียหายตามประเพณี ดังนี้การที่จำเลยฉุดแขนผู้เสียหายไปนั้นจึงไม่เป็นผิดฐานฉุดคร่าห์เพื่อการอนาจารตาม ม.276.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉุดคร่าเพื่ออนาจาร: การกระทำที่เป็นพิธีแต่งงานตามประเพณี ไม่เข้าข่ายความผิด
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าผู้เสียหายสมัครใจแต่งงานกับจำเลยแต่เพื่อปิดบังบิดาจึงนัดหมายให้จำเลยมาฉุดคร่าไปให้พ้นเขตที่จะต้องขอความยินยอมของบิดาผู้เสียหายตามประเพณีดังนี้การที่จำเลยฉุดแขนผู้เสียหายไปนั้นจึงไม่เป็นผิดฐานฉุดคร่าเพื่อการอนาจาร มาตรา 276

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 693/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้อุบายหลอกลวงเพื่ออนาจารเข้าข่ายความผิดตาม ม.276 อาญา
การที่จำเลยเอาความเท็จมากล่าวอ้างกับหญิงมีชื่อว่าตนเป็นตำรวจจะพาญิงมีชื่อไปส่งบ้านเพราะเป็นผู้หญิงจะไปคนเดียวในเวลาดึกเช่นนั้นไม่ได้ แล้วจำเลยพาหญิงมีชื่อเดินไปถึงสวนลุมพีนีและพาเข้าไปในส่วนลุมพีนีและให้นั่งลงบนสนามหญ้าและพูดจาชักชวนให้หญิงมีชื่อไปบ้านจำเลยแต่หญิงมีชื่อไม่ยอมไปแล้วจำเลยก็รั้งตัวหญิงมีชื่อมากอดจูบ หญิงมีชื่อดิ้นเช่นนี้วินิจฉัยว่าเป็นการใช้อุบายทุจริตล่อลวงพาหญิงมีชื่อไปเพื่อการอนาจาร การกระทำเป็นความผิดต้องด้วยบท ก.ม.อาญา ม.276 แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 693/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การล่อลวงเพื่ออนาจาร: จำเลยใช้อุบายหลอกลวงพาผู้เสียหายไปเพื่อประสงค์ต่อการอนาจาร เป็นความผิดตาม ม.276
การที่จำเลยเอาความเท็จมากล่าวอ้างกับหญิงมีชื่อว่าตนเป็นตำรวจจะพาหญิงมีชื่อไปส่งบ้านเพราะเป็นผู้หญิงจะไปคนเดียวในเวลาดึกเช่นนั้นไม่ได้แล้วจำเลยพาหญิงมีชื่อเดินไปถึงสวนลุมพินีและพาเข้าไปในสวนลุมพินีและให้นั่งลงบนสนามหญ้าและพูดจาชักชวนให้หญิงมีชื่อไปบ้านจำเลยแต่หญิงมีชื่อไม่ยอมไปแล้วจำเลยก็รั้งตัวหญิงมีชื่อมากอดจูบหญิงมีชื่อดิ้นเช่นนี้วินิจฉัยว่าเป็นการใช้อุบายทุจริตล่อลวงพาหญิงมีชื่อไปเพื่อการอนาจาร การกระทำเป็นความผิดต้องด้วยบท กฎหมายอาญา มาตรา 276 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1972/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำอนาจาร แม้เพียงสัมผัสด้วยเจตนา ก็เป็นความผิดฐานอนาจาร
จำเลยล่อเด็กหญิงเข้ามาหาแล้วคว้าตัวกอดรัดอุ้มกอดไว้ที่อกแล้วพาอุ้มเข้าป่าโดยจำเลยมีเจตนาทำอนาจารแก่หญิง แม้แต่เพียงการกอดรัดสัมผัสด้วยเจตนาอนาจารก็เป็นอนาจาร การกระทำซึ่งประกอบด้วยกายและใจพร้อมโดยประสงค์มุ่งตรงต่อสิ่งที่ ก.ม. ห้ามก็ย่อมเป็นความผิด รูปเรื่องของคดีนี้ควรใช้บทมาตรา 276 แต่คดีนี้โจทก์มิได้อ้าง ม.276 หากแต่อ้าง ม.245 จำเลยจึงมีความผิดตาม ม.245 ที่โจทก์ขอ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1972/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำอนาจาร แม้เพียงกอดรัดอุ้มเด็กก็เป็นความผิด แม้จะมิได้ใช้กำลังฉุดคร่า
จำเลยล่อเด็กหญิงเข้ามาหาแล้วคว้าตัวกอดรัดอุ้มกอดไว้ที่อกแล้วพาอุ้มเข้าป่าโดยจำเลยมีเจตนาทำอนาจารแก่หญิง แม้แต่เพียงการกอดรัดสัมผัสด้วยเจตนาอนาจารก็เป็นอนาจาร การกระทำซึ่งประกอบด้วยกายและใจพร้อมโดยประสงค์มุ่งตรงต่อสิ่งที่ กฎหมายห้ามก็ย่อมเป็นความผิด รูปเรื่องของคดีนี้ควรใช้บทมาตรา 276 แต่คดีนี้โจทก์มิได้อ้าง มาตรา 276 หากแต่อ้าง มาตรา 245 จำเลยจึงมีความผิดตาม มาตรา 245 ที่โจทก์ขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมกระทงโทษในคดีอนาจารและลักทรัพย์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการรวมโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วเข้ากับกระทงลักทรัพย์ไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำอนาจารและลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยก โจทก์แต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ดังนี้ข้อหาฐานอนาจารจึงถึงที่สุดแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์อีกกระทงหนึ่งก็ตามศาลอุทธรณ์จะพิพากษารวมกระทงลงโทษจำเลยโดยเอาโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วมารวมเข้าด้วย(โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 288 กระทงหนึ่งและ มาตรา 246 อีกกระทงหนึ่ง รวมกระทงลงโทษจำเลยให้จำคุกจำเลย 1 ปี ฯลฯ) ดังนี้หาเป็นการชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉุดคร่าอนาจาร-หน่วงเหนี่ยวกักขัง: การกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ ศาลรวมโทษได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและเมื่อพาไปถึงบ้านผู้อื่นแล้ว จำเลยยังได้บังอาจหน่วงเหนึ่ยวกักขังผู้เสียหายไว้อีกดังนี้ เป็นการกระทำผิด 2 ตอน ต่างกรรมต่างวาระกัน จำเลยย่อมมีผิดฐานฉุดคร่าห์อนาจารและฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 276,270 เป็นสองกะทง และศาลมีอำนาจให้รวมกะลงลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉุดคร่าอนาจาร-หน่วงเหนี่ยวกักขัง: การกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ รวมกระทงลงโทษได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและเมื่อพาไปถึงบ้านผู้อื่นแล้วจำเลยยังได้บังอาจหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายไว้อีกดังนี้เป็นการกระทำผิด 2 ตอนต่างกรรมต่างวาระกัน จำเลยย่อมมีผิดฐานฉุดคร่าอนาจารและฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 276,270 เป็นสองกระทง และศาลมีอำนาจให้รวมกระทงลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพาผู้อื่นเพื่ออนาจาร ความผิดตาม ม.276 แม้ไม่มีการชำเราเกิดขึ้น
ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยสมคบกันใช้อุบายทุจริตล่อลวงพานางสุมล (อายุ 17 ปี 6 เดือน) ไปเพื่ออนาจารฉนั้นความผิดของจำเลยจึงต้องด้วย ม. 276 เท่านั้น ไม่ผิด ม. 275 ด้วยเพราะมิใช่เป็นเรื่องเกลี้ยกล่อมพาเด็กไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้มีอำนาจคุ้มครองโดยเจตนาหากำไรหรือเพื่อการอนาจารถึงเด็กจะเต็มใจไปด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม ม.276 แล้วไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
of 36