คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เพิ่มโทษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 491 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและลดโทษสำหรับผู้กระทำผิดอายุไม่เกิน 20 ปี มาตรา 58 ทวิ และ 72 ใช้หักกลบลบกันไม่ได้
มาตรา 58 ทวิแห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา เป็นองคโทษอย่างเดียวกับมาตรา 60 จะนำมาหักกลบลบกับโทษที่เพิ่มตามมาตรา 72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและลดโทษสำหรับผู้กระทำผิดอายุไม่เกิน 20 ปี มาตรา 58 ทวิ และ 72 ไม่สามารถหักกลบลบกันได้
มาตรา 58 ทวิ แห่งกฎหมายลักษณะอาญา เป็นองค์โทษอย่างเดียวกับมาตรา 60 จะนำมาหักกลบลบกับโทษที่เพิ่มตามมาตรา 72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและการงดกักกันในคดีลักทรัพย์: ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษกักกันได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ฐานลักทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294 เพิ่มโทษและลดโทษ มีส่วนเท่ากันให้หักกลบลบกันไปคงจำคุก 1 ปี พ้นโทษแล้วให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันมีกำหนด 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ แม้คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ดี แต่เมื่อจำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อ ก.ม.ขึ้นมาศาลฎีกาแล้ว และศาลฎีกาเห็นในข้อ ก.ม.ตามศาลอุทธรณ์ก็ตาม ศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้งดส่งตัวจำเลยไปกักกันเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและงดกักกันในคดีลักทรัพย์: ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษกักกันโดยคำนึงถึงปัจจัยจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ฐานลักทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 294. เพิ่มโทษและลดโทษ มีส่วนเท่ากันให้หักกลบลบกันไปคงจำคุก 1 ปี พ้นโทษแล้วให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันมีกำหนด 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนดังนี้ แม้คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ดีแต่เมื่อจำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายขึ้นมาศาลฎีกาแล้วและศาลฎีกาเห็นในข้อกฎหมายตามศาลอุทธรณ์ก็ตามศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้งดส่งตัวจำเลยไปกักกันเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายจากประวัติอาชญากรรมซ้ำ
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาคดีอาญาฐานลักทรัพย์มา 3 ครั้งแต่เวลานั้นจำเลยมีอายุน้อย ศาลเรียกประกันทัณฑ์บนบ้างต้องขังมาพอแก่โทษบ้าง ส่งโรงเรียนดัดสันดานบ้าง ต่อมาจำเลยมากระทำผิดฐานลักทรัพย์ต้องจำคุก 4 เดือน ครั้ง 1 และต้องโทษฐานรับของโจรจำคุก 2 เดือนอีกครั้งหนึ่ง และในครั้งหลังจำเลยมากระทำผิดฐานชิงทรัพย์อีก ดังนี้ ย่อมเป็นการแสดงโดยชัดแจ้งว่า จำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ต้องเพิ่มโทษกักกันตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย 2479

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 870/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ ต้องพิจารณาโทษของความผิดฐานลหุโทษที่เคยกระทำ หากโทษสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด จะไม่สามารถเพิ่มโทษได้
ความผิดที่จะสงเคราะห์เป็นลหุโทษ อันจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้นั้น ต้องเป็นความผิดที่มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 100 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษกักกันผู้ต้องโทษจำคุกซ้ำ แม้พ้นโทษมานาน และการพิจารณาโทษกักกันตาม พ.ร.บ.กักกันฯ
การที่จำเลยเคยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้ว ไม่น้อยกว่า 2 ครั้งนั้น ตาม พ.ร.บ.กักกันฯ พ.ศ.2479 หาได้
บัญญัติไว้ว่ากระทำแต่เมื่อใด และพ้นโทษมาแล้วนานเท่าใด แต่ได้ถือเอาความผิดที่จำเลยกระทำครั้งที่ฟ้องเป็น
หลักสำคัญ ส่วนความผิดในครั้งก่อน ๆ เพียงแต่เป็นเหตุเพื่อเพิ่มโทษกักกันอีกโสดหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นแม้จำเลยจะ
พ้นโทษครั้งสุดท้ายมาถึง 20 ปีแล้ว ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ศาลอาจจะเพิ่มโทษกักกันได้.
โทษกักกัน แม้จะมีถึง 10 ปี ก็ไม่ใช่เป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป, จึงไม่เข้าอยู่ตาม ป.ม.วิ.อาญา
มาตาา 176.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษกักกันจากประวัติอาชญากรรมเดิม แม้พ้นโทษมานาน และโทษกักกันไม่เข้าข่ายคดีอัตราโทษสูง
การที่จำเลยเคยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้งนั้นตามพ.ร.บ.กักกันฯ พ.ศ.2479หาได้บัญญัติไว้ว่ากระทำแต่เมื่อใด และพ้นโทษมาแล้วนานเท่าใด แต่ได้ถือเอาความผิดที่จำเลยกระทำครั้งที่ฟ้องเป็นหลักสำคัญส่วนความผิดในครั้งก่อนๆเพียงแต่เป็นเหตุเพื่อเพิ่มโทษกักกันอีกโสดหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นแม้จำเลยจะพ้นโทษครั้งสุดท้ายมาถึง 20 ปีแล้วก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ศาลอาจจะเพิ่มโทษกักกันได้
โทษกักกัน แม้จะมีถึง 10 ปีก็ไม่ใช่เป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปจึงไม่เข้าอยู่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพนันสลากกินรวบ: ความผิดสำเร็จเมื่อขายสลาก และการเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำ
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยลักเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกัน ขอให้ลงโทษดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะการเล่นการพนันสลากกินรวบนั้น เป็นการพนันประเภท 1 ที่ได้ระบุไว้ในพ.ร.บ.การพนันแล้ว ส่วนที่ว่าการพนันสลากกินรวบเล่นกันอย่างใดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะนำสืบในเวลาพิจารณาได้ ไม่จำต้องบรรยายมาในฟ้อง
ในฟ้องโจทก์บรรยายมาด้วยว่า จำเลยเคยต้องโทษฐานเล่นการพนันมาแล้ว พ้นโทษไปยังไม่เกิน 3 ปีและอ้าง พ.ร.บ.การพนัน(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2485 มาตรา3 ซึ่งเป็นบทเพิ่มโทษมาด้วยแม้จะไม่มีคำขอให้เพิ่มโทษจำเลยก็ถือได้ว่าโจทก์ฟ้องขอให้เพิ่มโทษจำเลยมาด้วยแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้เพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายที่กล่าวได้
โจทก์นำสืบวิธีเล่นได้ว่า จำเลยขายสลากให้แก่ผู้ซื้อโดยถือเอาเลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดที่จะออกต่อไปเป็นหลักแพ้ชนะถ้าเลขสลากที่ผู้ซื้อตรงกับเลขท้าย 3 ตัวที่ออก ผู้ขายก็จะต้องใช้เงินให้ผู้ซื้อดังนี้ ฟังได้ว่า จำเลยเป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบแล้วและแม้ว่า จำเลยจะถูกจับเสียก่อนวันที่สลากกินแบ่งในงวดนั้นจะออกก็ดีก็ถือได้ว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว ตั้งแต่เมื่อจำเลยขายสลากให้แก่ผู้ซื้อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 547/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษอาญา: หน้าที่การสืบพยานเมื่อจำเลยอ้างได้รับการนิรโทษกรรม
โจทก์ฟ้องว่าขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญาและขอให้เพิ่มโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 72 จำเลยให้การรับว่าข้อเคยต้องโทษตามฟ้องนั้น จำเลยได้รับนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ.ศ. 2489 แล้ว ดังนี้เท่ากับเถียงว่าเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ โจทก์จึงต้องมีหน้าที่นำสืบ เมื่อโจทก์จำเลยต่างไม่สืบพยาน ศาลก็เพิ่มโทษจำเลยไม่ได้
of 50