คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฎีกา

ผู้ชนะคดีในศาลชั้นต้น แต่แพ้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ ถ้ายื่นฎีกาก็ต้องวางค่าธรรมเนียมที่จะต้องเสียแทนอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/85

กรณีที่เป็นการฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้าม.

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย จ. บาดเจ็บสาหัสประกอบด้วยทุกขเวทนากล้าเกินกว่า 20 วัน ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสทำให้ไม่อาจประกอบการอาชีพได้เป็นปกติเกินกว่า 20 วันศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นายหนึ่งมีความเห็นแย้งว่าโจทก์ฟ้องว่าบาดแผล จ. ถึงสาหัสโดยมีอาการประกอบด้วยทุกขเวทนากล้าเกินกว่า 20 วัน ข้อเท็จจริงทางพิจารณาจึงต่างกับฟ้องลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสไม่ได้ ควรลงโทษฐานทำร้ายร่างกายธรรมดาดังนี้ คดีจึงฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีพยานแสดงว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย จ. ถึงสาหัสตามฟ้อง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218

แม้ฎีกาโจทก์จะลงชื่อบรรดาศักดิ์ ก็ไม่ทำให้ฎีกาของโจทก์เสียไป.

เอกชนทำสัญญาแบ่งรายได้จากตลาดให้เทศบาลเพื่อให้เทศบาลงดสร้างตลาด จะเป็นโมฆะหรือไม่นั้นไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

ฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์และเรียกค่าสินไหมทดแทนศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้ในข้อปลดเปลื้องทุกข์ แต่ไม่ให้ค่าสินไหม จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ โดยถือว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์

ศาลเดิมจำคุก 2 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ฉะเพาะกำหนดโทษให้จำคุก 1 ปี 6 เดือนเป็นแก้น้อย

คดีที่ศาลขั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนกันมาลงโทษจำเลยหลายกะทง แต่ละกะทงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
(อ้างถึงฎีกาที่39/2484)

ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานมีสุราไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษฐานกินสุรา แม้จะเป็นการแก้ไขมาก แต่โทษปรับไม่เกินพันบาทฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้.

ประเด็นซึ่งโจทก์กล่าวในฟ้องจำเลยมิได้สู้คัดค้านในศาลชั้นต้นนั้น จะยกขึ้นคัดค้านในชั้นอุทธรณ์และฎีกาไม่ได้
(หมายเหตุ) ประเด็นที่จำเลยฎีกานั้น จำเลยได้กล่าวเป็นข้ออุทธรณ์มาแล้ว