คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลายื่นฎีกาและการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับคำร้อง
ศาลชั้นต้นยกคำร้องโจทก์ซึ่งขอขยายเวลายื่นฎีกา ไม่ใช่คำสั่งไม่รับฎีกา โจทก์จะยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลฎีกา ตลอดจนยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลายื่นฎีกาและการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับคำร้อง
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องโจทก์ซึ่งขอขยายเวลายื่นฎีกา ไม่ใช่คำสั่งไม่รับฎีกา โจทก์จะยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลฎีกา ตลอดจนยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คดีอาญา: ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงเป็นหลัก การพิจารณาว่ามีมูลคดีหรือไม่เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานนำสืบพาดพิงว่าจำเลยที่ 3 ได้เกี่ยวข้องกับการยักยอกตั๋วสัญญาใช้เงินที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ เท่ากับฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 3 ไม่ได้กระทำการตามที่โจทก์ฟ้อง มิได้ฟังว่าจำเลยที่ 3 กระทำการตามที่โจทก์ฟ้องแล้ว แต่เห็นว่าการกระทำนั้นไม่เป็นผิดกฎหมาย ดังนั้น อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่าศาลชั้นต้นก็ได้สั่งว่าคดีมีมูลสำหรับจำเลยที่ 1 - 2 ฉะนั้นมูลคดีที่โจทก์กล่าวหาในฟ้องเป็นฐานความผิดเดียวกัน การกระทำของจำเลยทั้ง 3 เป็นกรณีเดียวกันซึ่งเข้าข้อกฎหมายเข้าในเหตุลักษณะคดี คดีของโจทก์ต้องมีมูลทั้ง 3 คนนั้น จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
ข้อที่ว่าตั๋วสัญญาใช้เงินไม่ใช่ตั๋วใช้เงินธรรมดาแต่เป็นตั๋วมีเงื่อนไขให้หักเงินค่าจ้างจากผลงานชดใช้เงินตามตั๋วได้ ซึ่งจำเลยก็ทราบดี เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
ข้อที่ว่า เท่าที่โจทก์นำพยานบุคคลและพยานเอกสารเข้าสืบต่อศาล พอฟังได้ว่าในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่าคดีโจทก์มีมูล ก็เป็นการเถียงข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานนอกกำหนด: การโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นถือเป็นการอุทธรณ์ได้
การที่ศาลไม่รับบัญชีระบุพยานของจำเลย เพราะมิได้ยื่นภายในกำหนด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 นั้น เมื่อศาลสั่งแล้ว จำเลยได้ยื่นคำร้องแถลงถึงความจำเป็นที่มิได้ยื่นภายในกำหนด และขอให้ยื่นบัญชีระบุพยานได้ ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ยื่นคำโต้แย้งคัดค้านตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) แล้ว จำเลยจึงยกขึ้นอุทธรณ์ฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีการค้าของห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียนการค้า แม้ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล โจทก์ต้องอุทธรณ์ก่อนฟ้อง
ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่ได้จดทะเบียน แต่ได้จดทะเบียนการค้าประเภทขายอสังหาริมทรัพย์ไว้แล้ว มีสถานการค้าที่แน่นอนเป็นหลักฐานประกอบกันแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ประกอบการค้าจึงต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร
เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญดังกล่าวมีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าจำเลยก็มีอำนาจใช้สิทธิประเมินเรียกเก็บตามประมวลรัษฎากรได้ โจทก์จะอ้างว่าเรียกคืนในฐานลาภมิควรได้ไม่ได้ เพราะการเรียกเก็บของจำเลยมีมูลที่จะอ้างได้ตามกฎหมาย เมื่อโจทก์เห็นว่าไม่มีหน้าที่ต้องเสีย หรือการประเมินเรียกไม่ถูกต้องอย่างไร ก็ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์การประเมินเรียกเก็บนั้นตามบทบัญญัติในประมวลรัษฎากรเสียก่อน แต่โจทก์มิได้อุทธรณ์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 1895/2493,519/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977-978/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นการแบ่งแยกที่ดินต้องยกขึ้นอุทธรณ์หรือฎีกาเท่านั้น การร้องขอในคำแก้ไม่ถือเป็นประเด็น
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่า ที่ดินเฉพาะส่วนเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ และขอให้บังคับจำเลยแบ่งแยกให้โจทก์ด้วยเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาเพียงว่า ที่เฉพาะส่วนนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แล้วโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ฎีกา โจทก์คงเพียงแต่ร้องขอมาในคำแก้อุทธรณ์และคำแก้ฎีกาขอให้ศาลพิพากษาแบ่งแยกให้ด้วยเท่านั้น ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจะวินิจฉัยให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977-978/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การที่โจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาในประเด็นแบ่งแยกที่ดิน ทำให้ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาไม่มีอำนาจวินิจฉัย แม้จะมีการร้องขอในคำแก้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่า ที่ดินเฉพาะส่วนเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ และขอให้บังคับจำเลยแบ่งแยกให้โจทก์ด้วย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาเพียงว่า ที่เฉพาะส่วนนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แล้วโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ฎีกา โจทก์คงเพียงแต่ร้องขอมาในคำแก้อุทธรณ์และคำแก้ฎีกาขอให้ศาลพิพากษาแบ่งแยกให้ด้วยเท่านั้น ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจะวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้าม ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้วโต้แย้งอีกไม่ได้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าศาลชั้นต้นพิจารณาพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยและไปเผชิญสืบห้องพิพาทด้วยแล้วจึงวินิจฉัยว่า จำเลยทำการค้าเป็นส่วนใหญ่ เช่นนี้ จำเลยจะอุทธรณ์หรือฎีกาว่าทำการค้าเป็นส่วนน้อยไม่ได้ถือว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 654/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งเลื่อนการพิจารณาคดีรอผลคดีอื่นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์ตามกฎหมาย
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้เลื่อนการพิจารณาคดีไป รอฟังผลของคดีอื่น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495-500/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามในคดีเช่า เคหะควบคุม การวินิจฉัยเจตนาเช่าเป็นข้อเท็จจริง
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่าอันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละสองพันบาท ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง นั้น เมื่อคู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง แต่ศาลชั้นต้นสั่งรับโดยเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ในข้อกฎหมาย และศาลอุทธรณ์ก็วินิจฉัยให้ ดังนี้ เมื่อคู่ความนั้นฎีกาต่อมาอีกศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้ เพราะเมื่อเป็นอุทธรณ์ที่ต้องห้ามแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์
of 349