คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การครอบครอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583-584/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำพินัยกรรมต้องพิจารณาว่าทรัพย์สินเป็นของเจ้ามรดกจริงหรือไม่ การยกทรัพย์ก่อนเสียชีวิตมีผลต่อพินัยกรรม
การที่เจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้ผู้ใด โดยอ้างว่า เป็นทรัพย์ของเจ้ามรดกนั้น มิใช่จะถือว่าทรัพย์ที่ระบุในพินัยกรรม เป็นของเจ้ามรดกเสมอไป ต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานต่าง ๆ ว่าเป็น ทรัพย์ของเจ้ามรดกหรือไม่ เมื่อคดีฟังได้ว่าเจ้ามรดกได้ยกทรัพย์ บางส่วนให้จำเลยทั้งสองก่อนตาย ทรัพย์ส่วนที่ยกให้ย่อมไม่เป็น ของเจ้ามรดกที่จะทำพินัยกรรมยกให้โจทก์ทั้งสองได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: การเปลี่ยนลักษณะการยึดถือต้องมีการต่อสู้คดีก่อน มิเช่นนั้นถือเป็นการครอบครองแทนเจ้าของเดิม
ย.และส. รวมทั้งจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์มาก่อน จำเลยให้การเพียงว่า ที่ดินพิพาทเดิมเป็นของย.และ ส.ซึ่งได้บุกเบิกมาย.และส. ตายเมื่อ พ.ศ. 2527ก่อนตายได้ยกที่ดินพิพาทให้จำเลย จำเลยครอบครองตลอดมา และได้ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) โดยชอบ จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ว่า ย.และส. หรือจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่ดินพิพาท จึงอ้างประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375ไม่ได้ ดังนั้นศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยเองว่าจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่ดินพิพาทเป็นการโต้แย้งสิทธิครอบครองของโจทก์หาได้ไม่ เพราะว่าเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้ และไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือและการโต้แย้งสิทธิครอบครอง
ย.และส. รวมทั้งจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์มาก่อน จำเลยให้การเพียงว่า ที่ดินพิพาทเดิมเป็นของย.และส.ซึ่งได้บุกเบิกมาย.และส. ตายเมื่อ พ.ศ. 2527ก่อนตายได้ยกที่ดินพิพาทให้จำเลย จำเลยครอบครองตลอดมาและได้ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) โดยชอบ จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ว่า ย.และส. หรือจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่ดินพิพาท จึงอ้างประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1375 ไม่ได้ ดังนั้นศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยเองว่า จำเลยได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่ดินพิพาทเป็นการโต้แย้งสิทธิครอบครองของโจทก์หาได้ไม่ เพราะว่าเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้ และไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองแทนฝ่ายชนะคดีและการไม่ขาดอายุความฟ้องเรียกคืนการครอบครอง
โจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทให้จำเลยลงแรงทำไร่อ้อยแบ่งผลกำไรกัน จำเลยจึงยึดถือที่พิพาทแทนโจทก์ ต่อมาคดีอาญาที่จำเลยฟ้องภริยาโจทก์ ในข้อหาบุกรุกที่พิพาทนั้น ศาลยกฟ้องโดยฟังว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ การครอบครองที่พิพาทของจำเลยในระหว่างดำเนินคดีอาญาต้องถือว่า เป็นการครอบครองแทนฝ่ายโจทก์ผู้ชนะคดี จำเลยจะอ้างเป็นการครอบครอง โดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนและอ้างกำหนดเวลาฟ้องเรียกคืนการครอบครอง ขึ้นยันโจทก์ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์สิ้นสุดลงหากมีการทอดทิ้งทรัพย์สินเป็นเวลานาน แม้ถูกหลอกลวงก็ไม่ถือเป็นเหตุขัดข้องชั่วคราว
จำเลยที่ 2 อพยพออกจากที่ดินพิพาทไปเป็นเวลา 10 ปีเศษโดยไม่ได้ใช้สิทธิเหนือที่ดินพิพาทเลย เป็นการทอดทิ้งทรัพย์ที่ครอบครองไป แม้จะถูกบุคคลอื่นหลอกลวงว่าทางราชการต้องการที่ดินคืน ก็หาใช่เป็นเหตุขัดข้องชั่วคราวมาขัดขวางการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 วรรคสองไม่ ที่จำเลยที่ 2 เข้ายึดถือครอบครองที่ดินพิพาทครั้งหลังก็ถูกโจทก์โต้แย้งการครอบครองของจำเลยที่ 2 จึงสิ้นสุดลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดิน: ความผิดสำเร็จเมื่อเริ่มกระทำ การครอบครองต่อเนื่องไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง สงสัยยกประโยชน์ให้จำเลย
การที่จำเลยเข้าไปสร้างรั้ว ห้องครัว ห้องน้ำในที่ดินของโจทก์เพื่อถือการครอบครองเป็นของตนนั้น ความผิดฐานบุกรุกเกิดขึ้นและสำเร็จเมื่อจำเลยเข้าไป กระทำการดังกล่าว ส่วนการที่จำเลยครอบครองที่ดินต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุกเท่านั้น หาเป็นความผิด ต่อเนื่องไม่ โจทก์นำสืบได้ความแต่เพียงว่า ก่อนวันที่โจทก์ซื้อที่ดินเป็น เวลาเดือนเศษยังไม่มีการรุกล้ำที่ดินกันหลังจากโจทก์ซื้อแล้วก็ ไม่เคยเข้าไปครอบครองที่ดินเลยเป็นเวลาสองปีเศษจึงทราบว่าจำเลย บุกรุกโจทก์ไม่มีพยานมายืนยันว่าจำเลยบุกรุกที่ดินเมื่อใดในระหว่างที่เจ้าของเดิมหรือโจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน ประกอบกับ จำเลยนำสืบต่อสู้ว่าเข้าไปกระทำการในที่ดินดังกล่าวตั้งแต่ก่อนโจทก์ ซื้อที่ดินพิพาท กรณีจึงมีเหตุอันควรสงสัยว่าจำเลยอาจบุกรุก เข้ามาก่อนที่โจทก์ซื้อที่ดินมาก็ได้ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัย ให้จำเลย ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 227วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดิน: ความผิดสำเร็จเมื่อเริ่มกระทำ การครอบครองต่อเนื่องไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง
จำเลยทั้งสองเข้าไปสร้างรั้วไม้รวก ห้องครัวและห้องน้ำรุกล้ำเข้าไปในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินของโจทก์เพื่อถือการครอบครองที่ดินของโจทก์ ความผิดฐานบุกรุกจึงเกิดขึ้นและสำเร็จเมื่อจำเลยทั้งสองเข้าไปกระทำการดังกล่าว ส่วนการที่จำเลยทั้งสองยังคงครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุกเท่านั้น ไม่เป็นความผิดต่อเนื่องเมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบยืนยันว่า จำเลยทั้งสองได้บุกรุกที่ดินพิพาท เมื่อใดกันแน่ก่อนหรือหลังวันที่โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมา และจำเลยทั้งสองนำสืบต่อสู้ว่าจำเลยทั้งสองได้กระทำการดังกล่าวมาก่อนโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทซึ่งหากเป็นดังที่จำเลยทั้งสองต่อสู้ การกระทำของจำเลยทั้งสองก็ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามฟ้อง ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้แก่จำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4155/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืน: การยึดถือแทนบุคคลอื่นไม่ถือเป็นการครอบครองเอง
อาวุธปืนของกลางที่จำเลยที่ 1 ใช้ยิงโจทก์ร่วม เป็นอาวุธปืนมีหมายเลขทะเบียนเป็นของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรของจำเลยที่ 1จำเลยทั้งสองพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน สถานที่เกิดเหตุก็อยู่ในบริเวณหน้าบ้านของจำเลยที่ 1 อีกทั้งขณะที่จำเลยที่ 1 นำอาวุธปืนออกจากบ้านมาที่เกิดเหตุนั้น จำเลยที่ 2 ก็ออกมาด้วยและอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยกัน เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นานนัก หลังเกิดเหตุจำเลยทั้งสองก็เข้าบ้านด้วยกันพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ยึดถืออาวุธปืนไว้แทนจำเลยที่ 2 เท่านั้น มิได้มีเจตนายึดถือเพื่อตน ความครอบครองในอาวุธปืนของกลางยังคงอยู่ที่จำเลยที่ 2 หาได้เปลี่ยนมาอยู่ที่จำเลยที่ 1 ไม่ จำเลยที่ 1 จึงมิใช่ผู้มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3882/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองรถยนต์ที่ถูกลักมา การยินยอมมอบรถโดยสุจริต ไม่ถือเป็นการละเมิด
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่ารถยนต์นั้นถูกคนร้ายลักมาจึงได้ยึดรถยนต์ดังกล่าวแล้วส่งไปให้พนักงานสอบสวนแห่งท้องที่เกิดเหตุเพื่อประกอบการดำเนินคดีตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย จำเลยไม่ได้เป็นผู้มอบรถยนต์ไปเองการที่จำเลยไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ก็เพราะเชื่อโดยสุจริตว่ารถยนต์ถูกคนร้ายลักมาตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดิน: การครอบครองแทน การซื้อขาย การแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงาน และอายุความครอบครอง
โจทก์และสามีโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมาจาก น. แล้วสามีโจทก์มอบที่ดินให้ ส.ครอบครองทำกินแทนแม้ต่อมาน.กับส.จะสมคบกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานที่ดินว่า น.เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทบางส่วนจนเจ้าพนักงานที่ดินหลงเชื่อออก น.ส.3 ให้ ก็เป็นการกระทำภายหลังที่ น. ได้ขายที่ดินให้โจทก์และสามีโจทก์ หาทำให้ น. กลับเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทอีกไม่ น. จดทะเบียนโอนขายที่ดินพิพาทให้ ส.หาทำให้ ส. มีสิทธิดีไปกว่า น. ผู้โอนไม่ และถือไม่ได้ว่าส. แย่งการครอบครองโดยเปลี่ยนลักษณะการยึดถือไปจากโจทก์และสามีโจทก์ ที่ดินพิพาทยังคงเป็นของโจทก์และสามีโจทก์ โดยมี ส.เป็นผู้ครอบครองแทน จำเลยครอบครองที่พิพาทต่อจาก ส. เป็นการสืบสิทธิของ ส. จำเลยจะครอบครองนานเท่าใดก็ไม่ได้สิทธิครอบครองจำเลยจะอ้าง ป.พ.พ. มาตรา 1375 หาได้ไม่ โจทก์ขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แต่ศาลพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมการจดทะเบียนการขายที่ดินบางส่วนระหว่างน. กับ ส. นั้นเป็นการเกินคำขอ และเป็นการกระทบสิทธิของ น.ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดี โจทก์ต้องไปดำเนินการเอง.
of 89