คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กำหนดเวลา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 990 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาฟ้องคดีเวนคืน และผลของประกาศ คสช. ต่อการฟ้องคดีที่เสร็จเด็ดขาดแล้ว
เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับอุทธรณ์ของโจทก์แล้วมีหน้าที่ที่จะต้องวินิจฉัยอุทธรณ์โจทก์ให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ คือภายในวันที่ 28 กรกฎาคม 2532 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 มาตรา 25 วรรคสอง ดังนั้น โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่พ้นกำหนดเวลา 60 วันดังกล่าวคือภายในวันที่28 กรกฎาคม 2533 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง แต่โจทก์ไม่ฟ้องคดีภายในกำหนดเวลาดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้ แม้ต่อมาจะมีประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติฉบับที่ 44 ข้อ 2 ให้เพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 มาตรา 10 ทวิ ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2534 แต่ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 44 ข้อ 2 หามีผลบังคับให้เป็นคุณแก่โจทก์ไม่ เพราะประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 44 ข้อ 5กำหนดให้การเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530มาตรา 10 ทวิ มีผลใช้บังคับแก่การฟ้องคดียังไม่เสร็จเด็ดขาดในวันที่ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติฉบับนี้ใช้บังคับด้วยเท่านั้น แต่การฟ้องคดีของโจทก์ได้เสร็จเด็ดขาดแล้วในปี 2533

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 746/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาอุทธรณ์และฟ้องคดีเวนคืน: หากพ้นกำหนด 1 ปี โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530มาตรา 25 วรรคสอง บัญญัติให้รัฐมนตรีวินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์และมาตรา 26 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี หรือนับแต่วันที่พ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วแต่กรณี ดังนี้เมื่อโจทก์อุทธรณ์ต่อจำเลยที่ 1 วันที่ 20 กรกฎาคม 2535จำเลยที่ 1 จะต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสร็จสิ้นใน 60 วัน นับแต่วันดังกล่าว การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 1 มิถุนายน 2537 จึงฟ้องหลังจากพ้นกำหนดเวลา 1 ปี นับแต่วันพ้นกำหนดเวลาที่รัฐมนตรีต้องวินิจฉัยให้เสร็จสิ้นตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 746/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีเวนคืน: ฟ้องเกิน 1 ปีนับแต่วันพ้นกำหนดวินิจฉัยอุทธรณ์ ทำให้ไม่มีสิทธิฟ้อง
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 มาตรา 25 วรรคสอง บัญญัติให้รัฐมนตรีวินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์และมาตรา 26 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้ภายใน1 ปี นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี หรือนับแต่วันที่พ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วแต่กรณี ดังนี้เมื่อโจทก์อุทธรณ์ต่อจำเลยที่ 1 วันที่ 20 กรกฎาคม 2535 จำเลยที่ 1จะต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสร็จสิ้นใน 60 วัน นับแต่วันดังกล่าว การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 1 มิถุนายน 2537 จึงฟ้องหลังจากพ้นกำหนดเวลา 1 ปี นับแต่วันพ้นกำหนดเวลาที่รัฐมนตรีต้องวินิจฉัยให้เสร็จสิ้นตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 745/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดระยะเวลาฟ้องคดีเวนคืน: ผลของการไม่วินิจฉัยอุทธรณ์ตามเวลา
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง โจทก์จะต้องยื่นคำฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี ซึ่งตามมาตรา 25 วรรคสอง ให้รัฐมนตรีวินิจฉัยให้เสร็จสิ้นภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ แต่หากรัฐมนตรีมิได้วินิจฉัยให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ก็ให้โจทก์ยื่นคำฟ้องเสียภายใน 1 ปีนับแต่วันพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่รัฐมนตรีได้รับคำอุทธรณ์ คดีนี้รัฐมนตรีมิได้วินิจฉัยคำอุทธรณ์ของโจทก์ให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 25 วรรคสองโจทก์ต้องยื่นคำฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2533 อันเป็นวันพ้นกำหนดเวลาวินิจฉัยอุทธรณ์ตามมาตรา 25 วรรคสอง โจทก์ยื่นคำฟ้องคดีนี้วันที่ 24มกราคม 2535 อำนาจในการฟ้องคดีของโจทก์จึงเป็นอันสิ้นไปตามมาตรา 26แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาฟ้องคดีเวนคืน: นับจากวันพ้น 60 วันหลังอุทธรณ์ แม้แจ้งรับเงินค่าทดแทนแล้ว
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง หมายความว่า ในกรณีที่รัฐมนตรีได้วินิจฉัยอุทธรณ์เสร็จสิ้นภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ ตามมาตรา 25 วรรคสอง ผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนยังไม่พอใจ ให้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี กรณีหนึ่ง และในกรณีที่รัฐมนตรีมิได้วินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสร็จสิ้นภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ตามมาตรา 25 วรรคสองผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พ้นหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ดังกล่าวอีกกรณีหนึ่ง กรณีของโจทก์เป็นกรณีหลังคือกรณีที่รัฐมนตรีมิได้วินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสร็จสิ้นภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้ภายในหนึ่งปีคือภายในวันที่ 15 เมษายน 2534 แม้โจทก์ได้รับแจ้งให้ไปรับเงินค่าทดแทนเพิ่มตามคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24ธันวาคม 2533 ก็ไม่ทำให้กำหนดระยะเวลาฟ้องคดีหนึ่งปีเริ่มนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี ดังนั้น เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องวันที่ 24 ธันวาคม 2534จึงพ้นกำหนดเวลาหนึ่งปี โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาฟ้องคดีค่าทดแทนเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตาม พ.ร.บ.เวนคืน
พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 มาตรา26 ได้วางหลักเกณฑ์ในการนำคดีมาฟ้องศาลเมื่อผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนยังไม่พอใจคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีไว้ 2 กรณี คือ กรณีแรกเป็นกรณีที่รัฐมนตรีได้วินิจฉัยอุทธรณ์เสร็จสิ้นใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ เมื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนยังไม่พอใจคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีก็มีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลภายใน 1 ปี นับแต่ที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยนั้น กรณีที่สองเป็นกรณีที่รัฐมนตรีวินิจฉัยอุทธรณ์ไม่เสร็จสิ้นภายใน60 วัน นับแต่วันรับอุทธรณ์ กรณีเช่นนี้ผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนมีสิทธินำคดีมาฟ้องศาลภายใน 1 ปี นับแต่พ้นกำหนด 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7223/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาอุทธรณ์ต้องโดยคู่ความที่ถูกต้อง ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกันไม่มีสิทธิ
ศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ผู้ประกันประกันตัวจำเลยไปในระหว่างอุทธรณ์ วันสุดท้ายที่จำเลยอาจยื่นอุทธรณ์ได้ ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกันได้มายื่นคำร้องต่อศาลเมื่อเวลา 16.25 นาฬิกา ขอเลื่อนส่งตัวจำเลยและขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปเป็นเวลา 7 วัน ศาลชั้นต้นอนุญาต และจำเลยได้นำอุทธรณ์มายื่นภายในกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นอนุญาต แต่ผู้ประกันจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์คดีนี้เพราะมิใช่คู่ความในคดี จึงไม่มีสิทธิร้องขอหรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ดังนั้น คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์จึงไม่ชอบ ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิยื่นอุทธรณ์เกินกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.อ.มาตรา 198 เมื่อฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมิได้ยื่นในกำหนด ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยและพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยจึงชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 210 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7032/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาฎีกาต้องกระทำก่อนหมดกำหนด เหตุหลงลืมวันนัดฟังคำพิพากษาไม่ใช่เหตุสุดวิสัย
ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา เมื่อล่วงเลยเวลากำหนด 1 เดือน ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 247 โดยอ้างว่าหลงลืมวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกา ต่อมาโจทก์ได้ยื่นฎีกาในกำหนดที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายดังกล่าว ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ ดังนี้ การที่โจทก์จะขอขยายระเวลายื่นฎีกาตาม ป.วิ.พ.มาตรา 23 นั้นจะต้องกระทำเสียก่อนระยะเวลายื่นฎีกาสิ้นสุดลงเว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย แต่เหตุที่ทนายโจทก์อ้างว่าหลงลืมวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงมิได้ได้ยื่นฎีกาในกำหนดอายุฎีกานั้นมิใช่เหตุสุดวิสัยแต่อย่างใด กรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้โจทก์ได้ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาจึงไม่ชอบ ฎีกาของโจทก์ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับมาจึงเป็นฎีกาที่ยื่นเกินกำหนดอายุฎีกาจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7032/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากขยายเวลาเกินกำหนดและเหตุผลไม่เข้าข่ายเหตุสุดวิสัย
ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาเมื่อล่วงเลยเวลากำหนด1เดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา247โดยอ้างว่าหลงลืมวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาต่อมาโจทก์ได้ยื่นฎีกาในกำหนดที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายดังกล่าวศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ดังนี้การที่โจทก์จะขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา23นั้นจะต้องกระทำเสียก่อนระยะเวลายื่นฎีกาสิ้นสุดลงเว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยแต่เหตุที่ทนายโจทก์อ้างว่าหลงลืมวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงมิได้ได้ยื่นฎีกาในกำหนดอายุฎีกานั้นมิใช่เหตุสุดวิสัยแต่อย่างใดกรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้โจทก์ได้คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาจึงไม่ชอบฎีกาของโจทก์ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับมาจึงเป็นฎีกาที่ยื่นเกินกำหนดอายุฎีกาจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกันศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6605/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาบังคับคดีและการฟ้องล้มละลาย: เมื่อโจทก์ไม่ดำเนินการบังคับคดีภายใน 10 ปี ย่อมหมดสิทธิฟ้องล้มละลาย
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271 แม้ว่าโจทก์ได้ร้องขอให้บังคับคดีและยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 ออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้บางส่วนแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงขั้นตอนของการดำเนินการบังคับคดี เมื่อทรัพย์ดังกล่าวไม่พอชำระหนี้และหนี้ที่เหลืออยู่โจทก์ก็มิได้ดำเนินการบังคับคดีเสียภายใน 10 ปี นับแต่ศาลมีคำพิพากษา โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะบังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 แล้ว จึงไม่อาจนำหนี้ที่พ้นกำหนดเวลาบังคับคดีดังกล่าวมาฟ้องจำเลยที่ 2 ให้ล้มละลายได้
of 99