พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,012 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: ไม่อุทธรณ์วิธีบังคับคดี ย่อมไม่อุทธรณ์ผลการขายทอดตลาด
คำร้องของจำเลยมิได้อ้างว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีดังกล่าวแต่ประการใด กรณีไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง จำเลยจะมาขอยกเลิกการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี หรือรื้อฟื้นให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ โดยอ้างว่าขายได้ราคาต่ำกว่าราคาที่จำเลยจำนองทรัพย์สินดังกล่าวหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการขายทอดตลาดต้องพิสูจน์การฝ่าฝืนกฎหมายลักษณะการบังคับคดี การอ้างราคาต่ำกว่าจำนองไม่เพียงพอ
คำร้องของจำเลยมิได้อ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีดังกล่าวแต่ประการใดกรณีไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296วรรคสองจำเลยจะมาขอยกเลิกการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือรื้อฟื้นให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่โดยอ้างว่าขายได้ราคาต่ำกว่าราคาที่จำเลยจำนองทรัพย์สินดังกล่าวหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์สินรวมที่ดิน: หากแบ่งตามความยาวแล้วเกิดความเสียหายมาก ศาลมีอำนาจสั่งประมูลหรือขายทอดตลาดเพื่อแบ่งเงิน
การแบ่งที่ดินกรรมสิทธิ์รวม ถ้าแบ่งตามคำขอของโจทก์ทั้งสองแล้ว ที่ดินที่แบ่งออกแต่ละแปลงจะมีความกว้างไม่ถึง 10 เมตร และจะเกิดความเสียหายแก่จำเลยมากถึงขนาดต้องรื้อบ้านของจำเลย เมื่อโจทก์ทั้งสองและจำเลยยังมิได้แบ่งแยกที่ดินพิพาทออกครอบครองเป็นส่วนสัดจึงไม่ชอบที่จะแบ่งแยกที่ดินพิพาทตามความยาวของรูปที่ดินดังที่โจทก์ทั้งสองขอ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อโจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินพิพาท และต่างฝ่ายต่างโต้เถียงกันเกี่ยวกับวิธีการแบ่งกรรมสิทธิ์รวม แสดงว่าในระหว่างโจทก์ทั้งสองและจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของไม่สามารถตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพย์สินอย่างไรกรณีจึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364ศาลฎีกาให้นำที่ดินพิพาทประมูลราคาระหว่างกัน หากประมูลไม่ได้ให้นำออกขายทอดตลาดนำเงินที่ขายได้แบ่งให้แก่โจทก์ทั้งสองและจำเลยตามส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งที่ดินกรรมสิทธิ์รวมที่ตกลงกันไม่ได้ ศาลสั่งประมูลหรือขายทอดตลาดเพื่อแบ่งทรัพย์สินตามส่วน
การแบ่งที่ดินกรรมสิทธิ์รวมถ้าแบ่งตามคำขอของโจทก์ทั้งสองแล้วที่ดินที่แบ่งออกแต่ละแปลงจะมีความกว้างไม่ถึง10เมตรและจะเกิดความเสียหายแก่จำเลยมากถึงขนาดต้องรื้อบ้านของจำเลยเมื่อโจทก์ทั้งสองและจำเลยยังมิได้แบ่งแยกที่ดินพิพาทออกครอบครองเป็นส่วนสัดจึงไม่ชอบที่จะแบ่งแยกที่ดินพิพาทตามความยาวของรูปที่ดินดังที่โจทก์ทั้งสองขอแต่อย่างไรก็ตามเมื่อโจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินพิพาทและต่างฝ่ายต่างโต้เถียงกันเกี่ยวกับวิธีการแบ่งกรรมสิทธิ์รวมแสดงว่าในระหว่างโจทก์ทั้งสองและจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของรวมไม่สามารถตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพย์สินอย่างไรกรณีจึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1364ศาลฎีกาให้นำที่ดินพิพาทประมูลราคาระหว่างกันหากประมูลไม่ได้ให้นำออกขายทอดตลาดนำเงินที่ขายได้แบ่งให้แก่โจทก์ทั้งสองและจำเลยตามส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการยกเลิกการขายทอดตลาด: การแจ้งการยึดทรัพย์, ราคาประเมิน, และสิทธิของผู้ถูกบังคับคดี
ตามคำร้องของจำเลยคัดค้านว่าจำเลยเพิ่งทราบว่ามีการยึดที่ดินและนำออกขายทอดตลาดโดยเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่เคยแจ้งการยึดและวันขายทอดตลาดให้จำเลยทราบมาก่อนทั้งการขายทอดตลาดก็ต่ำกว่าราคาท้องตลาดทำให้จำเลยได้รับความเสียหายเท่ากับจำเลยอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมายและมีความหมายในเชิงปฏิเสธว่าวันที่18มิถุนายน2535อันเป็นวันขายทอดตลาดซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนนั้นจำเลยไม่ทราบมาก่อนส่วนในข้อที่ว่าจำเลยทราบถึงการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนตั้งแต่เมื่อใดนั้นยังไม่มีข้อเท็จจริงที่ศาลจะรับฟังมาวินิจฉัยข้อกฎหมายในข้อว่าจำเลยได้ยื่นคำร้องล่วงเลยกำหนดเวลาแปดวันนับแต่วันทราบการฝ่าฝืนนั้นหรือไม่ดังบัญญัติไว้ในมาตรา296วรรคท้ายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งทั้งจำเลยฎีกาโต้เถียงอยู่ว่าจำเลยเพิ่งทราบถึงการฝ่าฝืนดังกล่าวในวันยื่นคำร้องและคดีก็ยังมีประเด็นโต้เถียงกันเรื่องราคาแท้จริงตามราคาท้องตลาดแห่งที่ดินพิพาทอีกด้วยสมควรที่ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินการไต่สวนคำร้องของจำเลยต่อไปจนสิ้นกระแสความเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย: คำแถลงก่อนศาลสั่งอนุญาตขายทอดตลาด ไม่ถือเป็นการคัดค้านการบังคับคดี
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสามมิได้ยื่นคำคัดค้านการขายทอดตลาดต่อศาลชั้นต้นภายใน 8 วัน นับแต่ทราบถึงเหตุที่ทำให้การขายทอดตลาดเป็นไปโดยมิชอบ และที่จำเลยที่ 1 ยื่นคำคัดค้านก่อนศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ขายว่าผู้สู้ราคาให้ราคาต่ำ ขอให้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ขายนั้น เป็นคำแถลงเพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจของศาลว่าจะสมควรอนุญาตให้ขายทอดตลาดหรือไม่ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามได้ยื่นคำร้องคัดค้านการบังคับคดีที่ผิดระเบียบหรือฝ่าฝืนต่อกฏหมายว่าด้วยการบังคับคดีตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 27 และมาตรา 296 วรรคสองกำหนดไว้ จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า จำเลยที่ 1 ยื่นคำแถลงต่อศาลก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้ขายทอดตลาดเพราะโจทก์จะพาพวกเข้าประมูลกดราคาให้ต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อให้ศาลระงับการขายไว้ก่อน การที่โจทก์พาพวกมาประมูลกดราคาถือว่าเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทำให้ฝ่ายจำเลยเสียหาย ศาลมีอำนาจเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบได้ และที่ดินที่ขายกันในปัจจุบันราคาสูงเพราะอยู่ในเขตพัฒนา หากศาลฎีกาสั่งยกเลิกการขายแล้วให้ประมูลใหม่ จำเลยทั้งสามหาคนมาประมูลได้ราคาสูงกว่าที่โจทก์ประมูลนั้นฎีกาของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวมิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องหรือผิดพลาดอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการขายทอดตลาดที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนและฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสามมิได้ยื่นคำคัดค้านการขายทอดตลาดต่อศาลชั้นต้นภายใน8วันนับแต่ทราบถึงเหตุที่ทำให้การขายทอดตลาดเป็นไปโดยมิชอบและที่จำเลยที่1ยื่นคำคัดค้านก่อนศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ขายว่าผู้สู้ราคาให้ราคาต่ำขอให้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ขายนั้นเป็นคำแถลงเพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจของศาลว่าจะสมควรอนุญาตให้ขายทอดตลาดหรือไม่จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามได้ยื่นคำร้องคัดค้านการบังคับคดีที่ผิดระเบียบหรือฝ่าฝืนต่อกฎหมายว่าด้วยการบังคับคดีตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา27และมาตรา296วรรคสองกำหนดไว้จำเลยที่1ฎีกาว่าจำเลยที่1ยื่นคำแถลงต่อศาลก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้ขายทอดตลาดเพราะโจทก์จะพาพวกเข้าประมูลกดราคาให้ต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อให้ศาลระงับการขายไว้ก่อนการที่โจทก์พาพวกมาประมูลกดราคาถือว่าเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนทำให้ฝ่ายจำเลยเสียหายศาลมีอำนาจเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบได้และที่ดินที่ขายกันในปัจจุบันราคาสูงเพราะอยู่ในเขตพัฒนาหากศาลฎีกาสั่งยกเลิกการขายแล้วให้ประมูลใหม่จำเลยทั้งสามหาคนมาประมูลได้ราคาสูงกว่าที่โจทก์ประมูลนั้นฎีกาของจำเลยที่1ดังกล่าวมิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องหรือผิดพลาดอย่างไรจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคหนึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายแจ้งการขายทอดตลาดไปยังที่ตั้งสำนักงานใหญ่ที่จดทะเบียน แม้มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของแต่ยังมิได้จดทะเบียนแก้ไข ถือเป็นการส่งโดยชอบด้วยกฎหมาย
ก่อนการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งวันนัดขายทอดตลาดให้จำเลยทราบแล้ว โดยส่งประกาศขายทอดตลาดไปยังที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของจำเลยที่จดทะเบียนไว้ในหนังสือรับรองท้ายฟ้องแม้จำเลยจะอ้างว่าสำนักงานใหญ่ได้ขายให้ผู้อื่นไปแล้ว แต่จำเลยไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงแก้ไขที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของจำเลยแต่อย่างใด จึงถือว่าภูมิลำเนาอันเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของจำเลยยังคงอยู่ตามที่ได้จดทะเบียนไว้ในหนังสือรับรองท้ายฟ้องดังนั้น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ส่งหมายต่าง ๆ ให้แก่จำเลยณ ภูมิลำเนาที่จดทะเบียนในหนังสือรับรองท้ายฟ้อง จึงเป็นการส่งโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินคืนไม่ได้ แม้เพิกถอนการขายทอดตลาด เหตุไม่ใช่ความผิดจำเลย
เงินค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการโอนที่ดินเป็นเงินที่รัฐเรียกเก็บจากราษฎรเป็นค่าตอบแทนที่รัฐให้บริการแก่ราษฎรในการให้ราษฎรได้สิทธิหรือกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์โดยบริบูรณ์ทางทะเบียนโดยชอบด้วยกฎหมาย เงินค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินมีโฉนดที่โจทก์ประมูลซื้อได้จากการขายทอดตลาดและจดทะเบียนรับโอนที่ดินตามคำสั่งศาลเป็นเงินค่าธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 103 เป็นเงินที่จำเลยเรียกเก็บจากโจทก์โดยชอบด้วยกฎหมาย แม้ต่อมาศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินที่โจทก์ประมูลซื้อได้ และได้ให้จดทะเบียนใส่ชื่อ ล. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เหมือนเดิม แล้วให้เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดใหม่ การเพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวไม่ใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยซึ่งตามประมวลกฎหมายที่ดินก็ไม่มีบทบัญญัติไว้ให้จำเลยคืนเงินค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินคืนจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการขายทอดตลาดต้องยื่นคำร้องก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้น หากเลยกำหนดสิทธิขาด
การเพิกถอนการขายทอดตลา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ต้องเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดี เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้นลงแต่ต้องไม่ช้ากว่า 8 วันนับแต่วันทราบการฝ่าฝืน ข้อเท็จจริงได้ความว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดถึง 7 ครั้ง ตั้งแต่ปี2528 ถึงปี 2529 จนมีผู้ซื้อทรัพย์ได้ในการประกาศขายครั้งสุดท้ายวันที่ 15 สิงหาคม 2529 ศาลได้แจ้งให้เจ้าพนักงานจดทะเบียนโอนแก่ผู้ซื้อทรัพย์เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2529 ถือว่าการบังคับคดีเสร็จสิ้นลงแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดได้