พบผลลัพธ์ทั้งหมด 497 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1452/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีและการขาดนัดพิจารณา: จำเป็นต้องมีคำร้องขอเลื่อนคดีก่อน หากไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชอบที่จะพิจารณาต่อไปได้
คำร้องขอเลื่อนคดีของจำเลยอ้างว่าจำเลยติดธุระสำคัญ ไม่อาจมาศาลได้เพราะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหลายวัน แต่ไม่ปรากฏว่าทนายจำเลยติดธุระอะไร สำคัญเพียงใดจนไม่อาจมาศาลได้และจำเป็นอย่างไรต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหลายวัน รวมทั้งไปจังหวัดไหน ห่างไกลศาลเท่าไร เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีเหตุผลสมควรจะสั่งให้เลื่อนคดี ถึงวันนัดพิจารณาจำเลยก็ไม่มาศาลดังนี้เห็นได้ว่าจำเลยประวิงคดี ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและให้สืบพยานโจทก์ไปในนัดนั้นได้
การดำเนินกระบวนพิจารณาที่ศาลจะมีคำสั่งว่าคู่ความฝ่ายใดขาดนัดพิจารณา ย่อมจะมีได้เพียงกรณีเดียวดังที่บัญญัติไว้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197 วรรคสอง เมื่อปรากฏว่าในวันสืบพยานฝ่ายจำเลยไม่มาศาล แต่ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไว้ก่อนวันสืบพยานแล้ว จึงถือได้ว่าคู่ความซึ่งเป็นฝ่ายจำเลยได้ร้องขอเลื่อนคดี หรือได้แจ้งเหตุขัดข้องที่มาศาลไม่ได้ให้ศาลทราบก่อนลงมือสืบพยานแล้ว ไม่ใช่กรณีที่จำเลยไม่มาศาลและไม่แจ้งเหตุขัดข้องอันจะถือว่าเป็นการขาดนัดพิจารณา การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี และมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาโดยสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว และพิพากษาให้จำเลยรับผิด เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบศาลฎีกามีอำนาจยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณา โดยสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษาใหม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
การดำเนินกระบวนพิจารณาที่ศาลจะมีคำสั่งว่าคู่ความฝ่ายใดขาดนัดพิจารณา ย่อมจะมีได้เพียงกรณีเดียวดังที่บัญญัติไว้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197 วรรคสอง เมื่อปรากฏว่าในวันสืบพยานฝ่ายจำเลยไม่มาศาล แต่ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไว้ก่อนวันสืบพยานแล้ว จึงถือได้ว่าคู่ความซึ่งเป็นฝ่ายจำเลยได้ร้องขอเลื่อนคดี หรือได้แจ้งเหตุขัดข้องที่มาศาลไม่ได้ให้ศาลทราบก่อนลงมือสืบพยานแล้ว ไม่ใช่กรณีที่จำเลยไม่มาศาลและไม่แจ้งเหตุขัดข้องอันจะถือว่าเป็นการขาดนัดพิจารณา การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี และมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาโดยสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว และพิพากษาให้จำเลยรับผิด เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบศาลฎีกามีอำนาจยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณา โดยสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษาใหม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4209/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งยกคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การพ้นกำหนด ไม่เป็นคำสั่งไม่รับคำคู่ความ ไม่อุทธรณ์ได้
จำเลยที่ 5 ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งรับคำให้การอ้างเหตุว่าตนมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การพร้อมกับยื่นคำให้การมาด้วย โดยยื่นมาก่อนที่ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า "ขยายระยะเวลาไม่ได้เพราะการขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การต้องขอก่อนสิ้นระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 จำเลยมายื่นวันนี้พ้นกำหนด 8 วันแล้ว ทั้งไม่ปรากฏเหตุสุดวิสัย ให้ยกคำร้อง' คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งยกคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การ มิใช่คำสั่งไม่รับคำให้การอันถือเป็นคำสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 จึงเป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณาก่อนที่ศาลชั้นต้นจะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวในระหว่างพิจารณาคดี ตามมาตรา 226 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3551/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคำร้องแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การก่อนมีคำพิพากษา ศาลต้องวินิจฉัยก่อนพิพากษา
ศาลแรงงานกลางซึ่งพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดสกลนครมีคำสั่งให้งดสืบพยานและนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 14 เมษายน 2529 จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การต่อศาลจังหวัดสกลนครเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2529 ศาลจังหวัดสกลนครส่งคำร้องดังกล่าวไปยังศาลแรงงานกลางเพื่อพิจารณาสั่ง ศาลแรงงานกลางได้รับคำร้องเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2529 จึงสั่งว่า 'ศาลพิพากษาคดีแล้ว รวม' ดังนี้ คดีไม่มีการชี้สองสถานหรือสืบพยาน แม้ศาลแรงงานกลางจะมีคำสั่งงดสืบพยานและนัดฟังคำพิพากษาแล้วก็ตาม แต่เมื่อศาลแรงงานกลางยังมิได้พิพากษา ย่อมถือว่าอยู่ในระยะเวลาที่จำเลยอาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การได้ จึงชอบที่จะได้วินิจฉัยสั่งคำร้องดังกล่าวว่าสมควรอนุญาตให้จำเลยแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การหรือไม่ ศาลแรงงานกลางพิพากษาคดีไปโดยมิได้วินิจฉัยสั่งคำร้องของจำเลย จึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาสั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลย แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3050/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องถอนผู้จัดการมรดก: ผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิยื่นคำร้องในคดีเดิม
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 ให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกโดยทำเป็นคำร้องขอก่อนการปันมรดกเสร็จสิ้น หมายความว่าผู้ร้องขอมีสิทธิยื่นคำร้องขอเข้ามาในคดีเดิมนั่นเอง ส่วนปัญหาที่ว่าการจัดการมรดกรายนี้เสร็จสิ้นแล้ว ผู้จัดการมรดกมิได้ปฏิบัติผิดหน้าที่และผู้ร้องไม่มีส่วนได้ทรัพย์มรดกรายนี้ จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องนั้นเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นจะไต่สวนแล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาด: กรอบเวลาและวันหยุดราชการ
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอต่อศาล ศาลอนุญาตให้ขายได้จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ อ้างว่าโจทก์กับพวกรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริต และเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติ ซึ่งเป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้น ขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่ 29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่ 29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: การยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดที่เกินกำหนดและวันหยุดราชการ
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอต่อศาล ศาลอนุญาตให้ขายได้จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ อ้างว่าโจทก์กับพวกรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริต และเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติ ซึ่งเป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้น ขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา296 วรรคสอง
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาด: กรอบเวลาและวันหยุดราชการ
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุดเจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอต่อศาลศาลอนุญาตให้ขายได้จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่อ้างว่าโจทก์กับพวกรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริตและเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติซึ่งเป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้วจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้นขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296วรรคสอง จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่21มกราคม2527จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่29มกราคม2527แต่วันที่29มกราคม2527เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา161ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่30มกราคม2527.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2940/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องกันส่วนเงินไม่ใช่การแจ้งความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137
คำร้องขอกันส่วนเงินของจำเลยเป็นคำคู่ความ การยื่นคำร้องดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นการแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 จึงจะนำมาตราดังกล่าวมาใช้แก่กรณีนี้ไม่ได้เพราะมาตรานี้มิได้มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่การยื่นคำคู่ความต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258-259/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ในคดีแรงงาน หากจำเลยไม่ทราบวันนัดเนื่องจากเหตุสุดวิสัย
จำเลยในคดีแรงงานยื่นคำร้องขอพิจารณาใหม่อ้างว่าเจ้าพนักงานศาลปิดสำเนาฟ้องและหมายเรียกจำเลยณที่อื่นซึ่งมิใช่ภูมิลำเนาของจำเลยและในช่วงวันนัดถึงวันชี้ขาดตัดสินคดีผู้แทนของจำเลยเดินทางไปต่างจังหวัดหากข้อเท็จจริงเป็นดังจำเลยอ้างจำเลยย่อมไม่สามารถจะแถลงขอให้ศาลพิจารณาใหม่ภายใน7วันนับแต่วันที่ศาลแรงงานมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯมาตรา41ได้เพื่อยังความยุติธรรมให้เกิดขึ้นโดยแท้จริงสมควรนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา208มาใช้บังคับโดยอนุโลมกล่าวคือศาลแรงงานกลางต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยแล้วมีคำสั่งใหม่.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2109/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินการตามมาตรา 166 วรรคสอง เพื่อขอให้ไต่สวนมูลฟ้องใหม่ ต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นก่อนอุทธรณ์
เมื่อโจทก์ประสงค์ให้ศาลชั้นต้นยกคดีของโจทก์ซึ่งถูกยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่ง ขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ โจทก์จำต้องปฏิบัติตามมาตรา 166 วรรคสองเสียก่อน โดยทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลชั้นต้น เพื่อศาลจะได้ไต่สวนคำร้องให้ปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนว่ามีเหตุสมควรที่โจทก์มาศาลไม่ได้ตามกำหนดนัดดังที่กล่าวอ้างหรือไม่ แล้วจึงจะพิจารณาสั่งได้โดยถูกต้อง การที่โจทก์กลับยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องโดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าข้อกล่าวอ้างของโจทก์ดังกล่าวเป็นความจริงเพียงใดหรือไม่ ศาลอุทธรณ์ย่อมไม่อาจวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ได้เพราะไม่มีข้อเท็จจริงที่จะวินิจฉัยให้ ฉะนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์ของโจทก์โดยวินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นการปฏิบัติข้ามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงชอบแล้ว