คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชอบด้วยกฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตรายต่อเนื่อง
จำเลยกับ ส. ผู้ตายเป็นตำรวจประจำสถานีตำรวจเดียวกันจำเลยมีบาดแผลที่เข่าเป็นเหตุให้เดินไม่ถนัดต้องนุ่งกางเกงขาสั้น ผู้ตายก่อเหตุขึ้นด้วยการเข้ามาตบแผลที่เข่าจำเลย แล้วด่าจำเลยหาว่าจำเลยเอาเรื่องไปฟ้องผู้บังคับบัญชา และชกหน้าจำเลย 1 ที ต่อจากนั้นก็เอากรรไกรตัดหญ้าง้างออกจะหนีบคอจำเลย จำเลยหลบและปัดป้องทำให้หนีบคอไม่ได้ ผู้ตายก็รวบกรรไกรจ้วงแทงศีรษะจำเลย เมื่อจำเลยหลบ กรรไกรปักลงที่ม้านั่ง ผู้ตายยังใช้กรรไกรพุ่งแทงจำเลยในระดับลูกตาหรือหน้าผากอีก จำเลยหลย กรรไกรไปถูกคานยึดขาม้านั่งที่กองไว้ด้านหลัง กรรไกรหลุดจากมือผู้ตาย ผู้ตายบีบคอจำเลยอีก จำเลยดิ้นรนจนตกจากม้านั่งลงไปที่พื้น มือผู้ตายหลุดจากคอ ผู้ตายตามไปชกจำเลยอีกพฤติการณ์ของผู้ตายเป็นการแสดงเจตนาที่จะฆ่าจำเลยให้ตาย และติดตามทำร้ายจำเลยด้วยวิธีต่างๆ ติดต่อกัน จำเลยจึงชักปืนพกออกมาและยิงผู้ตายไปติดๆกัน 2 นัดทันทีโดยมิได้เล็ง (กระสุนปืนถูกผู้ตาย 1 นัด) ในเวลาฉุกละหุกเช่นนั้นจำเลยย่อมไม่มีโอกาสจะหลบหนีได้พ้น เพราะจำเลยมีแผลที่เข่าเดินไม่ถนัดกรรไกรตัดหญ้าก็ตกอยู่ใกล้ๆ ผู้ตาย ผู้ตายอาจนำมาใช้ทำร้ายจำเลยถึงตายได้จำเลยยิงผู้ตายเพื่อป้องกันเช่นนั้น เป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายจากเหตุทำร้ายด้วยอาวุธอันตรายต่อเนื่อง
จำเลยกับส.ผู้ตายเป็นตำรวจประจำสถานีตำรวจเดียวกันจำเลยมีบาดแผลที่เข่าเป็นเหตุให้เดินไม่ถนัดต้องนุ่งกางเกงขาสั้นผู้ตายก่อเหตุขึ้นด้วยการเข้ามาตบแผลที่เข่าจำเลยแล้วด่าจำเลยหาว่าจำเลยเอาเรื่องไปฟ้องผู้บังคับบัญชาและชกหน้าจำเลย1ทีต่อจากนั้นก็เอากรรไกรตัดหญ้าง้างออกจะหนีบคอจำเลยจำเลยหลบและปัดป้องทำให้หนีบคอไม่ได้ผู้ตายก็รวบกรรไกรจ้วงแทงศีรษะจำเลยเมื่อจำเลยหลบกรรไกรปักลงที่ม้านั่งผู้ตายยังใช้กรรไกรพุ่งแทงจำเลยในระดับลูกตาหรือหน้าผากอีกจำเลยหลยกรรไกรไปถูกคานยึดขาม้านั่งที่กองไว้ด้านหลังกรรไกรหลุดจากมือผู้ตายผู้ตายบีบคอจำเลยอีกจำเลยดิ้นรนจนตกจากม้านั่งลงไปที่พื้นมือผู้ตายหลุดจากคอผู้ตายตามไปชกจำเลยอีกพฤติการณ์ของผู้ตายเป็นการแสดงเจตนาที่จะฆ่าจำเลยให้ตายและติดตามทำร้ายจำเลยด้วยวิธีต่างๆติดต่อกันจำเลยจึงชักปืนพกออกมาและยิงผู้ตายไปติดๆกัน2นัดทันทีโดยมิได้เล็ง(กระสุนปืนถูกผู้ตาย1นัด)ในเวลาฉุกละหุกเช่นนั้นจำเลยย่อมไม่มีโอกาสจะหลบหนีได้พ้นเพราะจำเลยมีแผลที่เข่าเดินไม่ถนัดกรรไกรตัดหญ้าก็ตกอยู่ใกล้ๆผู้ตายผู้ตายอาจนำมาใช้ทำร้ายจำเลยถึงตายได้จำเลยยิงผู้ตายเพื่อป้องกันเช่นนั้นเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4246/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายนัดผ่านทนายความ: การส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงทนายจำเลยโดยบุคคลอื่นที่สำนักงานเดียวกัน ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
พนักงานเดินหมายได้นำหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปส่งให้ทนายจำเลย ณ สำนักงานของทนายจำเลยแล้วไม่พบตัว บุคคลอายุเกิน20 ปีซึ่งอยู่ในสำนักงานเดียวกันนั้นเต็มใจรับหมายไว้แทนต้องถือว่าได้มีการส่งหมายนัดแก่ทนายจำเลยโดยถูกต้องและชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 75,76 แล้ว จำเลยอ้างว่าทนายจำเลยไม่ทราบหมายนัดหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3396/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดรถยนต์ของพนักงานสอบสวนเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีอาญา: การกระทำตามอำนาจหน้าที่โดยชอบ
จำเลยที่3เป็นพนักงานสอบสวนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการสอบสวนกรณีมีผู้ร้องทุกข์ว่ารถยนต์คันพิพาทถูกยักยอกจำเลยที่3จึงมีหน้าที่ตามกฎหมายในการแสวงหาข้อเท็จจริงรวบรวมหลักฐานและดำเนินการทั้งหลายเกี่ยวกับความผิดเพื่อทราบข้อเท็จจริงพิสูจน์ความผิดและเอาตัวผู้กระทำผิดมาฟ้องลงโทษการที่จำเลยที่3สืบสวนทราบว่ารถยนต์คันพิพาทอยู่ในความครอบครองของโจทก์แล้วจำเลยที่3ยึดรถยนต์ดังกล่าวจากโจทก์ไปเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีจึงเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายจำเลยที่3จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2665/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายใกล้ถึงและตอบโต้พอสมควรแก่เหตุ
การที่ผู้ตายกับจำเลยเคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนและในวันเกิดเหตุผู้ตายกับพวกตามมาพบจำเลยที่สยามฟุตบอลเข้าไปหาอย่างประสงค์ร้าย จำเลยเดินหลบหนีไปแล้ว ผู้ตายกับพวกยังติดตามจำเลยไปอีก เมื่อจำเลยหลบหนีไปถึงใต้ถุนอาคารโรงเรียนติดกับกำแพงซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีไปทางใดได้อีก ผู้ตายกับพวกจึงตามไปทัน และเมื่อเข้าใกล้ประมาณ 2 วา ผู้ตายก็ชัดมีดยาวคืบเศษจะแทงจำเลย โดยที่พวกของผู้ตายอีกคนหนึ่งก็ยืนคุมเชิงอยู่ พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยได้ชักปืนยิงผู้ตายไปสองนัด เมื่อผู้ตายถูกกระสุนปืนทรุดตัวลง จำเลยก็ไม่ได้ยิงซ้ำอีก เป็นการกระทำเพียงพอกับความจำเป็นในการป้องกันผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นแก่จำเลย เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2665/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายใกล้ถึงและการใช้กำลังพอสมควร
การที่ผู้ตายกับจำเลยเคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนและในวันเกิดเหตุผู้ตายกับพวกตามมาพบจำเลยที่สยามฟุตบอลเข้าไปหาอย่างประสงค์ร้าย จำเลยเดินหลบหนีไปแล้ว ผู้ตายกับพวกยังติดตามจำเลยไปอีก เมื่อจำเลยหลบหนีไปถึงใต้ถุนอาคารโรงเรียนติดกับกำแพงซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีไปทางใดได้อีก ผู้ตายกับพวกจึงตามไปทัน และเมื่อเข้าใกล้ประมาณ2 วา ผู้ตายก็ชัดมีดยาวคืบเศษจะแทงจำเลย โดยที่พวกของผู้ตายอีกคนหนึ่งก็ยืนคุมเชิงอยู่ พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยได้ชักปืนยิงผู้ตายไปสองนัด เมื่อผู้ตายถูกกระสุนปืนทรุดตัวลง จำเลยก็ไม่ได้ยิงซ้ำอีก เป็นการกระทำเพียงพอกับความจำเป็นในการป้องกันผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นแก่จำเลย เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2665/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายใกล้ถึงและการใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุ
การที่ผู้ตายกับจำเลยเคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนและในวันเกิดเหตุผู้ตายกับพวกตามมาพบจำเลยที่สยามฟุตบอลเข้าไปหาอย่างประสงค์ร้ายจำเลยเดินหลบหนีไปแล้วผู้ตายกับพวกยังติดตามจำเลยไปอีกเมื่อจำเลยหลบหนีไปถึงใต้ถุนอาคารโรงเรียนติดกับกำแพงซึ่งไม่อาจหลีเลี่ยงหรือหลบหนีไปทางใดได้อีกผู้ตายกับพวกจึงตามไปทันและเมื่อเข้าใกล้ประมาณ2วาผู้ตายก็ชัดมีดยาวคืบเศษจะแทงจำเลยโดยที่พวกของผู้ตายอีกคนหนึ่งก็ยืนคุมเชิงอยู่พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงจำเลยได้ชักปืนยิงผู้ตายไปสองนัดเมื่อผู้ตายถูกกระสุนปืนทรุดตัวลงจำเลยก็ไม่ได้ยิงซ้ำอีกเป็นการกระทำเพียงพอกับความจำเป็นในการป้องกันผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นแก่จำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีถูกกลุ่มผู้มีอาวุธเข้าทำร้าย
ขณะที่จำเลยกับเพื่อนคนหนึ่งกำลังยืนคุยกัน ถูก ต. กับพวก3 - 4 คนวิ่งเข้ามาทำร้ายแล้วพากันวิ่งหนีไป จำเลยถือปืนวิ่งไล่ตาม แต่เมื่อไล่ไม่ทัน จำเลยก็วิ่งกลับมาที่เดิม นำเพื่อนขึ้นไปนั่งบนรถยนต์สองแถวเพื่อจะกลับบ้าน แสดงว่าจำเลยไม่สมัครใจที่จะวิวาทกับ ต. และพวกต่อไปแล้ว ต. กับพวกแจ้งให้ผู้เสียหายซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุทราบ ผู้เสียหายพร้อมด้วย ต. กับพวกรวม 7 - 8 คน มีมีดเป็นอาวุธพากันวิ่งไปหาจำเลยซึ่งยืนอยู่ท้ายรถยนต์สองแถว จำเลยร้องห้ามไม่ให้ผู้เสียหายกับพวกเข้ามาผู้เสียหายกับพวกไม่ฟังเสียง พวกผู้เสียหายกลับพูดว่าลุยเข้าไปเลยกระสุนปืนหมดแล้วจำเลยชักปืนออกมาถือจ้องไว้ ผู้เสียหายกับพวกก็ยังวิ่งเข้ามา จำเลยจึงยิงปืนออกไป 1 นัด ในขณะที่ผู้เสียหายอยู่ห่างจำเลย 10 เมตร และ ต. อยู่ห่าง 5 เมตร ดังนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงเพื่อป้องกันภัยอันตรายใกล้ถึงจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีด
ต. กับพวกเข้าชกต่อยทำร้ายจำเลยกับเพื่อนแล้ววิ่งหนีไปจำเลยกับเพื่อนวิ่งไล่ตามโดยจำเลยถือปืนไปด้วยแต่เมื่อไล่ไม่ทันจำเลยก็วิ่งกลับนำเพื่อนขึ้นนั่งบนรถยนต์สองแถวเพื่อจะกลับบ้านแสดงว่าจำเลยไม่สมัครใจที่จะวิวาททำร้ายกับต. และพวกต่อไปแล้วเมื่อต. ไปตามผู้เสียหายกับพวก7-8คนซึ่งมีมีดเป็นอาวุธติดตัวทุกคนวิ่งกรูกันกลับมายังจำเลยซึ่งกำลังอยู่บนรถสองแถวจำเลยพูดห้ามไม่ให้เข้ามาแต่ผู้เสียหายกับพวกไม่ฟังเสียงกลับถือมีดเข้ามาจะทำร้ายจำเลยจำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้เสียหายกับพวกในขณะที่จำเลยอยู่ห่างผู้เสียหายประมาณ10เมตรและอยู่ห่างต. ประมาณ5เมตรเท่านั้นหากผู้เสียหายกับพวกวิ่งเข้ามาถึงตัวอาจทำร้ายจำเลยถึงตายได้นับเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้จึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุจำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าและฐานยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ปืนและมีดในสถานการณ์คับขัน
ขณะที่จำเลยกับเพื่อนคนหนึ่งกำลังยืนคุยกันถูกต.กับพวก3-4คนวิ่งเข้ามาทำร้ายแล้วพากันวิ่งหนีไปจำเลยถือปืนวิ่งไล่ตามแต่เมื่อไล่ไม่ทันจำเลยก็วิ่งกลับมาที่เดิมนำเพื่อนขึ้นไปนั่งบนรถยนต์สองแถวเพื่อจะกลับบ้านแสดงว่าจำเลยไม่สมัครใจที่จะวิวาทกับต.และพวกต่อไปแล้วต.กับพวกแจ้งให้ผู้เสียหายซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุทราบผู้เสียหายพร้อมด้วยต.กับพวกรวม7-8คนมีมีดเป็นอาวุธพากันวิ่งไปหาจำเลยซึ่งยืนอยู่ท้ายรถยนต์สองแถวจำเลยร้องห้ามไม่ให้ผู้เสียหายกับพวกเข้ามาผู้เสียหายกับพวกไม่ฟังเสียงพวกผู้เสียหายกลับพูดว่าลุยเข้าไปเลยกระสุนปืนหมดแล้วจำเลยชักปืนออกมาถือจ้องไว้ผู้เสียหายกับพวกก็ยังวิ่งเข้ามาจำเลยจึงยิงปืนออกไป1นัดในขณะที่ผู้เสียหายอยู่ห่างจำเลย10เมตรและต.อยู่ห่าง5เมตรดังนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.
of 51