พบผลลัพธ์ทั้งหมด 532 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างกรณีทุจริตต่อหน้าที่ แม้เป็นการกระทำต่อสมาคมในเครือเดียวกับนายจ้าง
แม้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์การเกษตรจะได้จดทะเบียนเป็นสมาคมเป็นนิติบุคคลต่างหากจากสหกรณ์การเกษตรจำเลยก็ตาม แต่สมาคมนี้นับได้ว่าอยู่ในเครือเดียวกับจำเลยโดยมีกำเนิดสืบเนื่องมาจากวัตถุประสงค์ของกิจการจำเลย ผู้สมัครเป็นสมาชิกสมาคมล้วนเป็นสมาชิกของจำเลย เนื่องด้วยสมาคมไม่มีเจ้าหน้าที่ของตนเองจำเลยจึงมอบหมายให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำของจำเลยดำเนินการรับสมัครสมาชิกตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสมาคมและยังมิได้จดทะเบียนเป็นสมาคม ถือได้ว่าจำเลยมอบให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเพื่อกระทำการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของจำเลยแล้ว ดังนี้ เมื่อโจทก์ยักยอกเงินค่ารับสมัครสมาชิกสมาคมจึงเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ที่จำเลยมอบหมายแก่โจทก์ จำเลยจึงเลิกจ้างหรือไล่โจทก์ออกจากงานได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินบำเหน็จ ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีและค่าชดเชย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างกรณีทุจริตหน้าที่ แม้สมาคมเป็นนิติบุคคลอื่น แต่เชื่อมโยงกับสหกรณ์จำเลย
แม้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์การเกษตรจะได้จดทะเบียนเป็นสมาคมเป็นนิติบุคคลต่างหากจากสหกรณ์การเกษตรจำเลยก็ตามแต่สมาคมนี้นับได้ว่าอยู่ในเครือเดียวกับจำเลยโดยมีกำเนิดสืบเนื่องมาจากวัตถุประสงค์ของกิจการจำเลยผู้สมัครเป็นสมาชิกสมาคมล้วนเป็นสมาชิกของจำเลย เนื่องด้วยสมาคมไม่มีเจ้าหน้าที่ของตนเองจำเลยจึงมอบหมายให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำของจำเลยดำเนินการรับสมัครสมาชิกตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสมาคมและยังมิได้จดทะเบียนเป็นสมาคม ถือได้ว่าจำเลยมอบให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเพื่อกระทำการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของจำเลยแล้ว ดังนี้ เมื่อโจทก์ยักยอกเงินค่ารับสมัคร สมาชิกสมาคมจึงเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ที่จำเลยมอบหมายแก่โจทก์จำเลยจึงเลิกจ้างหรือไล่โจทก์ออกจากงานได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินบำเหน็จ ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีและค่าชดเชย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องค้ำประกันต้องแสดงการทุจริตของลูกหนี้ การบรรยายฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุรายละเอียดทุกรายชื่อ
ฟ้องผู้ค้ำประกันให้รับผิดตามสัญญาค้ำประกันในกรณี ม.ทุจริตต่อหน้าที่ โดยบรรยายฟ้อง ระบุวันเวลาและประเภทของทรัพย์ตลอดจนการกระทำของ ม. ที่รับเงินจากลูกค้าของบริษัทโจทก์ไม่นำมาชำระให้โจทก์ กลับนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวและไม่มาทำงานโจทก์แจ้งความร้องทุกข์และพนักงานสอบสวนออกหมายจับ ม. แล้วไม่ต้องบรรยายรายละเอียดว่า ม. เก็บเงินจากลูกค้าชื่ออะไร กี่รายรายละเท่าใด ก็เป็นฟ้องที่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม แม้มีการฝ่าฝืนข้อบังคับ แต่ไม่มีเจตนาทุจริต
แม้ตามข้อบังคับของนายจ้างจะกำหนดว่า ลูกจ้างจะเบิกเงินค่าทำ หมันได้ก็ต่อเมื่อภริยาของลูกจ้างได้รับการผ่าตัดทำหมัน แล้ว ก็ตามแต่ การ ที่ ก่อน ลูกจ้าง จะ เบิก เงิน ค่า ทำหมันภริยาของลูกจ้าง มีความตั้งใจ ที่จะทำหมันและได้จ่ายเงินค่าทำหมันไปแล้วเหตุที่ ยังไม่ทำหมันในทันที เนื่องจากเจ็บป่วย ต่อมาหลังจากคลอดบุตรแล้ว แพทย์ก็ได้ทำหมันให้โดยถือเอาหลักฐานการชำระค่าทำหมันเดิม ที่ได้ชำระเงินไว้แล้ว ทั้งนายจ้างก็มิได้จ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างเกินไป จากที่ควรจะต้องจ่าย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำที่ทุจริตต่อหน้าที่ และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ดังนี้ เมื่อนายจ้างไล่ลูกจ้างออกจากงาน จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นติชมการทุจริตในการสอบเข้างานเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตและป้องกันส่วนได้เสีย
เมื่อมีพฤติการณ์ที่ทำให้จำเลยเชื่อโดยสุจริตใจว่า ผู้เสียหายทุจริตในขณะเป็นกรรมการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการ จำเลยจึงกล่าวข้อความเช่นนั้นในขณะพูดหาเสียงให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลซึ่งผู้เสียหายเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วย จึงเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (3) และเนื่องจากจำเลยเป็นผู้สมัครสอบในครั้งนั้นด้วย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ตามมาตรา 329 (1) อีกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3677/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีจับกุมแล้วปล่อยตัวผู้ต้องหา
จำเลยรับราชการเป็นตำรวจซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยได้รับแต่งตั้งตามกฎหมาย ย่อมเป็นเจ้าพนักงาน แม้จำเลยจะรับราชการประจำกองกำกับการตำรวจม้า มีหน้าที่ในการถวายอารักขาแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรอบเขตพระราชฐานก็เป็นเพียงหน้าที่เฉพาะตามคำสั่งแต่งตั้งของทางราชการแต่โดยทั่วไปจำเลยยังมีอำนาจสืบสวนคดีอาญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 17 การที่จำเลยจับกุมโจทก์ร่วมหาว่ามีพลอยหนีภาษีและยึดพลอยของกลางไว้จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายเมื่อจำเลยจับกุมโจทก์ร่วมและยึดพลอยของกลางไว้ แล้วกลับปล่อยโจทก์ร่วมไปไม่นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ย่อมเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3677/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยทุจริต ยึดของกลางแต่ไม่ส่งดำเนินคดี
จำเลยรับราชการเป็นตำรวจซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยได้รับแต่งตั้งตามกฎหมาย ย่อมเป็นเจ้าพนักงาน แม้จำเลยจะรับราชการประจำกองกำกับการตำรวจม้า มีหน้าที่ในการถวายอารักขาแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรอบเขตพระราชฐานก็เป็นเพียงหน้าที่เฉพาะตามคำสั่งแต่งตั้งของทางราชการแต่โดยทั่วไปจำเลยยังมีอำนาจสืบสวนคดีอาญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 17 การที่จำเลยจับกุมโจทก์ร่วมหาว่ามีพลอยหนีภาษีและยึดพลอยของกลางไว้จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายเมื่อจำเลยจับกุมโจทก์ร่วมและยึดพลอยของกลางไว้ แล้วกลับปล่อยโจทก์ร่วมไปไม่นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ย่อมเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะลูกจ้างในตำแหน่งกรรมการจัดการ: การจ่ายค่าจ้าง เงินสะสม และการคาดคะเนการทุจริต
การที่โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นและมีตำแหน่งเป็นกรรมการจัดการบริษัทจำเลยนั้น แม้โจทก์จะได้รับตำแหน่งด้วยการเลือกจากผู้ถือหุ้น และต้องอยู่ในตำแหน่งตามวาระที่กำหนดไว้ก็ตาม แต่ตำแหน่งของโจทก์คือผู้บริหารงานของบริษัทซึ่งมีรายได้เป็นเงินเดือนหรือที่เรียกว่าค่าตอบแทนรายเดือน และโจทก์ก็ยังมีสิทธิและหน้าที่ในสวัสดิการของบริษัทเช่นเดียวกับพนักงานอื่นอีกด้วย ดังนั้น โจทก์จึงเป็นผู้ที่ได้ตกลงทำงานให้แก่บริษัทเพื่อรับค่าจ้างหรือค่าตอบแทนรายเดือน อันนับได้ว่าเป็นลูกจ้างตามความหมายในกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
การรอการจ่ายเงินประกันหรือเงินสะสมไว้ก่อน โดยคาดคะเนหรือสันนิษฐานว่าโจทก์และภรรยาอาจสมคบกันเบียดบังเงินของจำเลยไปทำให้จำเลยเสียหาย โดยที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นนั้น ไม่เป็นเหตุที่จะยกขึ้นอ้างได้ หากจำเลยเสียหายจริงก็อาจไปว่ากล่าวกันเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก จำเลยจึงต้องคืนเงินดังกล่าวให้โจทก์
การรอการจ่ายเงินประกันหรือเงินสะสมไว้ก่อน โดยคาดคะเนหรือสันนิษฐานว่าโจทก์และภรรยาอาจสมคบกันเบียดบังเงินของจำเลยไปทำให้จำเลยเสียหาย โดยที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นนั้น ไม่เป็นเหตุที่จะยกขึ้นอ้างได้ หากจำเลยเสียหายจริงก็อาจไปว่ากล่าวกันเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก จำเลยจึงต้องคืนเงินดังกล่าวให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3214/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของจังหวัด: กรมป่าไม้เป็นผู้เสียหายจากการทุจริตยักยอกเงินของสำนักงานป่าไม้จังหวัด
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 เป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบบริหารราชการและกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการส่วนจังหวัดหาได้ให้อำนาจแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะเป็นผู้ดำเนินการแทนหน่วยราชการในส่วนกลางที่เป็นผู้เสียหายไม่ดังนั้นเมื่อมีผู้ทุจริตยักยอกเงินค่าไฟฟ้า ค่าเช่าบ้านค่าภาคหลวงและเงินมัดจำเพื่อตรวจวัดตีตราค่าภาคหลวงของสำนักงานป่าไม้จังหวัดลำพูน เงินค่าไฟฟ้า ค่าเช่าบ้านและค่าภาคหลวงเป็นเงินในงบประมาณของกรมป่าไม้ส่วนเงินวางมัดจำแม้จะเป็นเงินนอกงบประมาณ แต่ก็เป็นเงินที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานในสังกัดของกรมป่าไม้ กรมป่าไม้จึงเป็นผู้เสียหายที่จะฟ้องเรียกเงินคืนจังหวัดลำพูนโดยผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3214/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของจังหวัด: กรมป่าไม้เป็นผู้เสียหายจากการทุจริตยักยอกเงินของสำนักงานป่าไม้จังหวัด
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน2515 เป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบบริหารราชการและกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการส่วนจังหวัดหาได้ให้อำนาจแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะเป็นผู้ดำเนินการแทนหน่วยราชการในส่วนกลางที่เป็นผู้เสียหายไม่ดังนั้นเมื่อมีผู้ทุจริตยักยอกเงินค่าไฟฟ้า ค่าเช่าบ้านค่าภาคหลวงและเงินมัดจำเพื่อตรวจวัดตีตราค่าภาคหลวงของสำนักงานป่าไม้จังหวัดลำพูน เงินค่าไฟฟ้า ค่าเช่าบ้านและค่าภาคหลวงเป็นเงินในงบประมาณของกรมป่าไม้ส่วนเงินวางมัดจำแม้จะเป็นเงินนอกงบประมาณ แต่ก็เป็นเงินที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานในสังกัดของกรมป่าไม้ กรมป่าไม้จึงเป็นผู้เสียหายที่จะฟ้องเรียกเงินคืนจังหวัดลำพูนโดยผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง