พบผลลัพธ์ทั้งหมด 787 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกพื้นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินด้วยการไถพูนดินและปลูกต้นมะพร้าว การลงโทษตามกฎหมายที่ดิน
จำเลยเข้าไปไถพูนดินและปลูกต้นมะพร้าวในบริเวณที่น้ำท่วมถึงอันเป็นหนองน้ำสาธารณะซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และยังคงอยู่ในที่ไม่ยอมรื้อถอนต้นมะพร้าวเมื่อนายอำเภอแจ้งให้ออกเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ทวิ วรรคสองประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 11 แต่จะลงโทษจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362,365 หาได้ไม่เพราะบทบัญญัติดังกล่าวมุ่งประสงค์ลงโทษผู้บุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น ไม่ใช่ลงโทษผู้บุกรุกที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินทั้งการกระทำของจำเลยเป็นเพียงเข้าไปถือเอาประโยชน์ในที่สาธารณประโยชน์ ไม่ได้ประสงค์จะเข้าไปทำให้ที่นั้นเสื่อมค่าหรือไร้ประโยชน์ จึงลงโทษจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 360 ไม่ได้อีกเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน และขอบเขตความผิดทางอาญา
จำเลยเข้าไปไถพูนดินปลูกมะพร้าวในที่สาะารณสมบัติของแผ่นดินย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 108 ทวิ วรรคสองแต่ไม่มีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362,365เพราะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาดังกล่าว กฎหมายมุ่งประสงค์จะลงโทษผู้บุกรุกอสังหาริมทรัพย์ที่เอกชนเป็นเจ้าของเท่านั้นไม่ใช่บทบัญญัติที่จะลงโทษผู้บุกรุกสาธารณสมบัติของแผ่นดินแต่อย่างใด จึงลงโทษจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา362,365 ไม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานด้วยอาวุธและการข่มขู่ แม้เจ้าของบ้านไม่ได้ห้ามปราม ก็ถือไม่ได้ว่ายินยอม
จำเลยถือมีดโต้เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย แล้วเงื้อมีดโต้ขู่เข็ญจะทำร้ายผู้เสียหายกับพวกซึ่งอยู่ในบ้านผู้เสียหายในขณะนั้น แม้ผู้เสียหายจะอนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปดูโทรทัศน์ในบ้านตนได้ ก็ไม่อาจถือได้ว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรหรือได้รับอนุญาตจากผู้เสียหายให้เข้าไปได้ เพราะจำเลยมิได้เข้าไปดูโทรทัศน์ ที่ผู้เสียหายมิได้กล่าวห้ามปรามหรือกล่าวคำขับไล่จำเลยก็หาได้แสดงว่า ผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 ทุกอนุมาตราประกอบด้วยมาตรา 364
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกโดยมีอาวุธและข่มขู่ แม้เจ้าของบ้านไม่ได้ห้าม ถือไม่เป็นการยินยอม
จำเลยถือมีดโต้เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย แล้วเงื้อมีดโต้ขู่เข็ญจะทำร้าย ผู้เสียหายกับพวกซึ่งอยู่ในบ้านผู้เสียหายในขณะนั้น แม้ผู้เสียหายจะอนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปดูโทรทัศน์ในบ้านตนได้ ก็ไม่อาจถือได้ว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรหรือได้รับอนุญาตจากผู้เสียหายให้เข้าไปได้ เพราะจำเลยมิได้เข้าไปดูโทรทัศน์ ที่ผู้เสียหายมิได้กล่าวห้ามปรามหรือกล่าวคำขับไล่จำเลยก็หาได้แสดงว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 ทุกอนุมาตรา ประกอบด้วยมาตรา 364
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุก: การเข้าไปในบ้านผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือการยินยอม
จำเลยถือ มีดโต้เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย แล้วเงื้อมีดโต้ขู่เข็ญจะทำร้ายผู้เสียหายกับพวกซึ่ง อยู่ในบ้านผู้เสียหายในขณะนั้นแม้ผู้เสียหายจะอนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปดู โทรทัศน์ในบ้านตน ได้ก็ไม่อาจถือได้ว่าจำเลยเข้าไปโดย มีเหตุอันสมควรหรือได้รับอนุญาตจากผู้เสียหายให้เข้าไปได้ เพราะจำเลยมิได้เข้าไปดู โทรทัศน์ที่ผู้เสียหายมิได้กล่าวห้ามปรามหรือกล่าวคำขับไล่จำเลยก็หาได้แสดงว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายไม่การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐาน บุกรุกตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365 ทุกอนุมาตราประกอบด้วย มาตรา 364.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 155/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกและทำให้เสียหายซึ่งอสังหาริมทรัพย์: การปรับบทมาตรา 362 เพื่อใช้กับมาตรา 365
จำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2)(3) ประกอบด้วยมาตรา 362 เช่นนี้ ศาลจะพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 โดยมิได้ปรับบทมาตรา 362 มาด้วยย่อมไม่ถูกต้องเพราะมาตรา 365 มิได้บัญญัติความผิดไว้ชัดแจ้งในตัว.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1338/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ต้องมีผู้เสียหายโดยตรง และการบุกรุกอสังหาริมทรัพย์
แม้ปูนซีเมนต์ที่จำเลยทำให้เสียหายจะอยู่ในบริเวณโรงเรียนซึ่ง อยู่ในความครอบครองดูแลของ ส. ครูใหญ่ แต่ปูนซีเมนต์ดังกล่าวเป็นของ ล. ซึ่งรับเหมาก่อสร้างให้โรงเรียน และมีคนงานของ ล. พักอาศัยอยู่ในบริเวณโรงเรียนด้วย แสดงว่า ล. มอบปูนซีเมนต์ดังกล่าวให้อยู่ในความครอบครองดูแลของคนงานของตน ส. จึงมิใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เป็นความผิดต่อส่วนตัว เมื่อผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวน การสอบสวนไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 121 วรรคสอง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่จำเลยเดินเข้าไปในบริเวณโรงเรียนในเวลากลางคืนจนไปถึงอาคาร 2 ซึ่งไม่ใช่ทางผ่านและฉีกถุงปูนซีเมนต์ที่เก็บไว้หน้าอาคาร 2 แสดงว่าจำเลยมีเจตนาเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของ ส. ครูใหญ่ของโรงเรียนดังกล่าวโดยปกติสุขจำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุก
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เป็นความผิดต่อส่วนตัว เมื่อผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวน การสอบสวนไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 121 วรรคสอง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่จำเลยเดินเข้าไปในบริเวณโรงเรียนในเวลากลางคืนจนไปถึงอาคาร 2 ซึ่งไม่ใช่ทางผ่านและฉีกถุงปูนซีเมนต์ที่เก็บไว้หน้าอาคาร 2 แสดงว่าจำเลยมีเจตนาเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของ ส. ครูใหญ่ของโรงเรียนดังกล่าวโดยปกติสุขจำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1338/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีทำให้เสียทรัพย์เป็นของผู้เสียหายโดยตรง ส่วนความผิดฐานบุกรุกเกิดจากการรบกวนการครอบครอง
ขณะเกิดเหตุโรงเรียนจ้างเหมานางเล็กก่อสร้างส้วม และปูนซีเมนต์ที่ได้รับความเสียหายก็เป็นของนางเล็ก แม้ปูนซีเมนต์จะอยู่ในบริเวณโรงเรียนซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลของนางสมรครูใหญ่ แต่นางเล็กก็มีคนงานพักอาศัยอยู่ในบริเวณโรงเรียนและมอบปูนซีเมนต์ให้อยู่ในความครอบครองดูแลของคนงาน ดังนี้นางเล็กเป็นผู้เสียหายโดยตรง นางสมรไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีแก่จำเลยได้ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358 เป็นความผิดต่อส่วนตัวเมื่อผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนการสอบสวนในข้อหาความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์จึงไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 121 วรรคสอง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยเข้าไปในโรงเรียน แม้จำเลยจะมีสิทธิเดินผ่านโรงเรียนได้ แต่การที่จำเลยเดินเข้าไปในบริเวณโรงเรียนในเวลากลางคืนจนไปถึงอาคารซึ่งไม่ใช่ทางผ่านและฉีกถุงปูนซีเมนต์ที่เก็บไว้หน้าอาคาร แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของนางสมรครูใหญ่โดยปกติสุขจึงมีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(3) ประกอบด้วยมาตรา 362.(ที่มา-ส่งเสริม)
จำเลยเข้าไปในโรงเรียน แม้จำเลยจะมีสิทธิเดินผ่านโรงเรียนได้ แต่การที่จำเลยเดินเข้าไปในบริเวณโรงเรียนในเวลากลางคืนจนไปถึงอาคารซึ่งไม่ใช่ทางผ่านและฉีกถุงปูนซีเมนต์ที่เก็บไว้หน้าอาคาร แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของนางสมรครูใหญ่โดยปกติสุขจึงมีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(3) ประกอบด้วยมาตรา 362.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1338/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีทำให้เสียทรัพย์ขึ้นอยู่กับผู้เสียหายที่แท้จริง แม้ทรัพย์สินจะอยู่ในความครอบครองของผู้อื่น การบุกรุกต้องมีเจตนา
แม้ปูนซีเมนต์ที่จำเลยทำให้เสียหายจะอยู่ในบริเวณโรงเรียนซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลของ ส. ครูใหญ่ แต่ปูนซีเมนต์ดังกล่าวเป็นของ ล. ซึ่งรับเหมาก่อสร้างให้โรงเรียน และมีคนงานของ ล. พักอาศัยอยู่ในบริเวณโรงเรียนด้วย แสดงว่า ล. มอบปูนซีเมนต์ดังกล่าวให้อยู่ในความครอบครองดูแลของคนงานของตนส. จึงมิใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เป็นความผิดต่อส่วนตัว เมื่อผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวน การสอบสวนไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 121 วรรคสอง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง การที่จำเลยเดินเข้าไปในบริเวณโรงเรียนในเวลากลางคืน จนไปถึงอาคาร 2 ซึ่งไม่ใช่ทางผ่านและฉีกถุงปูนซีเมนต์ที่เก็บไว้หน้าอาคาร 2 แสดงว่าจำเลยมีเจตนาเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของ ส. ครูใหญ่ ของโรงเรียนดังกล่าวโดยปกติสุขจำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1338/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีทำให้เสียทรัพย์ และความผิดฐานบุกรุก: ผู้เสียหายที่แท้จริงและการกระทำที่เป็นความผิด
แม้ปูนซีเมนต์ที่จำเลยทำให้เสียหายจะอยู่ในบริเวณโรงเรียนซึ่ง อยู่ในความครอบครองดูแล ของ ส. ครูใหญ่ แต่ ปูนซีเมนต์ดังกล่าวเป็นของ ล. ซึ่ง รับเหมาก่อสร้างให้โรงเรียน และมีคนงานขอ ล. พักอาศัยอยู่ในบริเวณโรงเรียนด้วย แสดงว่า ล. มอบปูนซีเมนต์ดังกล่าวให้อยู่ในความครอบครองดูแล ของคนงานของตน ส. จึงมิใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เป็นความผิดต่อส่วนตัว เมื่อผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวน การสอบสวนไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 121 วรรคสอง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง การที่จำเลยเดิน เข้าไปในบริเวณโรงเรียนในเวลากลางคืนจนไปถึง อาคาร 2 ซึ่ง ไม่ใช่ทางผ่านและฉีก ถุง ปูนซีเมนต์ที่เก็บไว้หน้าอาคาร 2 แสดงว่าจำเลยมีเจตนาเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของ ส. ครูใหญ่ของโรงเรียนดังกล่าวโดยปกติสุขจำเลยจึงมีความผิดฐาน บุกรุก.