พบผลลัพธ์ทั้งหมด 670 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำพินัยกรรมที่สมบูรณ์: ผู้เขียนและพยานเดียวกันได้หรือไม่
พ. ทำพินัยกรรมเป็นหนังสือลงวัน เดือน ปี ในขณะนั้น และได้ลงลายมือชื่อของตนไว้ต่อหน้า ส. ผู้เขียนและ ท. พยานในพินัยกรรมส. ได้ลงลายมือชื่อในขณะนั้นเช่นกันเพียงแต่ไม่มีข้อความต่อท้ายว่าเป็นพยาน เช่นนี้ก็ถือว่า ส. เป็นพยานรู้เห็นในการทำพินัยกรรมตลอดมาแต่ต้นคือเป็นทั้งผู้เขียนพินัยกรรมและเป็นพยานในพินัยกรรมต้องด้วยความประสงค์ของกฎหมายว่าด้วยการทำพินัยกรรมแล้วพินัยกรรมจึงสมบูรณ์ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1671
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้นที่รโหฐาน: การค้นต่อหน้าบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลอื่นที่เจ้าพนักงานขอร้องเป็นพยาน ถือเป็นการชอบ
การค้นในที่รโหฐานนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 102 บัญญัติให้ทำการค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลในครอบครัวของผู้นั้น เท่าที่สามารถจะทำได้ หรือถ้าหาบุคคลเช่นกล่าวนั้นไม่ได้ ก็ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อย 2 คน ซึ่งเจ้าพนักงานได้ขอร้องมาเป็นพยาน ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าสามารถทำการค้นได้ต่อหน้าคนอื่น ฉะนั้น การที่จำเลยกับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานทำการค้นบ้านโจทก์ต่อหน้ามารดาโจทก์และบุคคลอื่นอีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งจำเลยขอร้องมาเป็นพยาน จึงอาจเป็นกรณีที่จำเลยกระทำเท่าที่สามารถจะทำได้ และไม่อาจจะหาบุคคลอื่นใดมาเป็นพยานในการค้นของจำเลยมากไปกว่านั้น ถือได้ว่าเป็นการค้นที่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2910/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้คำเบิกความจากคดีก่อนเป็นหลักฐานพิสูจน์ความผิดในคดีใหม่ จำเป็นต้องมีการสืบพยานต่อหน้าจำเลย
โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายซึ่งเป็นประจักษ์พยานขณะเกิดเหตุมาเบิกความเพราะตามหาตัวไม่พบ ดังนี้ จะถือเอาคำเบิกความของผู้เสียหายดังกล่าวในคดีเรื่องก่อนมาใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของจำเลยในคดีนี้หาได้ไม่ เพราะการพิจารณาสืบพยานผู้เสียหายในคดีก่อนไม่ได้กระทำต่อหน้าจำเลยในคดีนี้ ดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172ได้บัญญัติไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2847/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยมีสิทธิอ้างพยานเบิกความเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แม้ไม่ซักค้านพยานโจทก์
ในคดีอาญาจำเลยนำพยานเข้าสืบความบริสุทธิ์ของจำเลยได้โดยไม่จำต้องซักค้านพยานโจทก์ในข้อที่จะนำสืบนั้นไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2810/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมต้องมีพยานลงชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือครบถ้วนจึงมีผลบังคับใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีพยานลงชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือสองคนคู่สัญญาคนหนึ่งมาลงลายพิมพ์นิ้วมือให้ในภายหลังซึ่งพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือที่ได้ลงชื่อเป็นพยานไว้ก่อนไม่รู้เห็นด้วย จึงเป็นลายพิมพ์นิ้วมือที่ไม่มีพยานลงลายมือชื่อรับรองไว้ด้วยสองคน สัญญาประนีประนอมดังกล่าวไม่เป็นหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851 ประกอบด้วย มาตรา 9 วรรค 3 จะใช้ฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้แม้เรื่องนี้จะมิได้ยกขึ้นว่ากันมา แต่ก็เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลยกขึ้นวินิจฉัยได้ เมื่อเห็นสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1441/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำเนาเอกสารราชการที่ผู้ทำลงชื่อรับรองและไม่คัดค้าน ศาลรับฟังเป็นพยานได้
เอกสารราชการรายงานผลการสอบสวนผู้รับผิดในเงินของทางราชการที่ขาดไป โจทก์ส่งภาพถ่ายเอกสารนี้โดยนิติกรผู้ทำเอกสารนั้นลงชื่อและเบิกความรับรอง จำเลยก็ไม่คัดค้านความถูกต้องของสำเนานี้ศาลรับฟังเป็นพยานได้โดยไม่ต้องสั่งให้ส่งต้นฉบับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำตายของผู้ถูกยิงเป็นหลักฐานสำคัญประกอบกับพยานหลักฐานอื่นพิสูจน์ความผิดจำเลยได้
คำของผู้ถูกยิงระบุตัวผู้ยิงเมื่อถูกยิงใหม่ๆ อีก 1 ชั่วโมงก็ตายฟังคำบอกเล่าเป็นความจริงได้ประกอบกับหลักฐานอื่นฟังลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแถลงของทนายแทนโจทก์เรื่องพยานไม่มาศาล ศาลชอบที่จะสั่งสืบพยานจำเลยได้ และไม่จำเป็นต้องไต่สวนคำร้องของโจทก์ภายหลัง
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์รอพยานอยู่จนเวลา 10.30 น. พยานโจทก์ก็ยังไม่มาศาลทนายโจทก์แถลงว่านัดกับ ร. พยานโจทก์แล้วว่าจะมา แต่ไม่มา ไม่ทราบจะทำประการใดขอให้ศาลสั่งต่อไปดังนี้เป็นการแถลงของทนายโจทก์ซึ่งมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 เมื่อศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานมาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ให้ถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ และนัดสืบพยานจำเลยต่อไปตามที่จำเลยแถลงขอสืบพยาน จึงชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้วการที่วันรุ่งขึ้นโจทก์ยื่นคำร้องขอให้สืบพยานโจทก์ใหม่ โดยอ้างว่าความจริงในวันนัด ร. มาศาลเมื่อเวลา 10.15 น. แต่มิได้เข้าห้องพิจารณาเพราะดูในกระดานนัดความของศาลไม่พบชื่อบริษัทโจทก์ ก็จะนำมาลบล้างคำแถลงของทนายโจทก์โดยจำเลยมิได้ยินยอมด้วยไม่ได้ทั้งเป็นการล่วงเลยเวลาสืบพยานโจทก์ไปแล้ว ไม่มีเหตุที่จะสืบพยานโจทก์ใหม่ศาลชอบที่จะยกคำร้องของโจทก์เสีย กรณีเช่นนี้ข้อเท็จจริงปรากฏอยู่ตามคำร้องของโจทก์ชัดแจ้งแล้ว ศาลหาจำต้องไต่สวนคำร้องนั้นอีกไม่และมาตรา 21 ก็ไม่ได้บังคับว่าศาลต้องไต่สวนก่อนมีคำสั่งทั้งไม่ใช่กรณีที่ศาลไม่ให้โอกาสเต็มที่แก่คู่ความที่จะมาฟังการพิจารณาและใช้สิทธิเกี่ยวกับกระบวนพิจารณาตามมาตรา 103 ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยเสร็จและมีคำพิพากษาแล้วจึงไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะใช้อำนาจตามมาตรา 243(2) ยกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์เสียก่อนแล้วสั่งใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานปรากฏต่อศาล คำพยานที่ตอบต่อศาลถือเป็นพยานหลักฐานได้
โจทก์อ้าง ส. เป็นพยานปรากฏต่อศาลแล้ว ศาลถามพยานได้คำพยานที่ตอบศาลฟังเป็นพยานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 470/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างพยานแทนเอกสารที่ถูกทำลายในคดีแพ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 3
สืบพยานโจทก์เสร็จแล้วจำเลยจึงทราบว่าเอกสารที่จำเลยอ้างถูกทำลาย จำเลยร้องขออ้างพยานบุคคลแทนเอกสารนั้นได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 3