พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,273 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดฐานมีอาวุธปืนฯ โจทก์ต้องพิสูจน์จำเลยไม่มีใบอนุญาต
ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ เมื่อโจทก์มิได้นำสืบให้ได้ความชัดว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด จำเลยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ให้มีและใช้ได้ตามกฎหมาย ทั้งคดีไม่ได้อาวุธปืนดังกล่าวมาเป็นของกลางประกอบกับโจทก์มิได้นำสืบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืนที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด จำเลยจึงไม่จำเป็นต้องนำสืบหักล้างดังนั้นแม้จำเลยจะไม่ได้นำสืบปฏิเสธว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวจำเลยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ก็ไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ลายมือชื่อในพินัยกรรม: ศาลพิจารณาจากหลักวิชาการและลักษณะลายมือชื่อเพื่อวินิจฉัยความถูกต้องของพินัยกรรม
การที่ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรมแล้วลงความเห็นว่า ลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรมไม่ใช่ลายมือชื่อของส. นั้น เป็นการแสดงความเห็นตามหลักวิชาการ หาได้รับฟังถ้อยคำจากบุคคลใดมากล่าว ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจึงมิใช่พยานบอกเล่าแต่ศาลก็มิได้รับฟังคำเบิกความของผู้เชี่ยวชาญเป็นหลักในการวินิจฉัยเสมอไป หากแต่รับฟังประกอบดุลพินิจของศาลเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมปลอม: การพิสูจน์เจตนาทำพินัยกรรมและสภาพจิตของผู้ทำพินัยกรรม
คดีก่อน ก. เป็นผู้ร้องขอจัดการมรดก จำเลยในคดีนี้เป็นผู้คัดค้าน แม้คดีทั้งสองจะมีประเด็นวินิจฉัยเดียวกันว่าพินัยกรรมฉบับพิพาทเป็นพินัยกรรมปลอมหรือไม่ แต่โจทก์ในคดีนี้เป็นคนละคนกับผู้ร้องในคดีก่อน ฉะนั้นโจทก์คดีนี้จึงไม่ใช่คู่ความในคดีก่อน ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากพยานบุคคลและการพิจารณาพฤติการณ์ก่อนลงมือ
เหตุเกิดเวลากลางวัน ก่อนเกิดเหตุ เด็กชาย ส. อายุ13 ปีพบกับจำเลยกับพวก จำเลยถาม หาไร่ของผู้ตายและให้เด็กชาย ส.ไปตามผู้ตายมาพบ เมื่อผู้ตายกับโจทก์ร่วมมาพบจำเลยได้พูดคุยกันนานประมาณ 10 นาที จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย การที่คนร้ายนั่งพูดคุยกับผู้ตายนานถึง 10 นาที จึงใช้อาวุธปืนยิงนั้น ไม่ใช่เป็นข้อพิรุธ เพราะคนร้ายจะยิงผู้ตายเมื่อไรก็เป็นการเลือกหาโอกาสของคนร้ายเอง มิใช่ว่าเมื่อคนร้ายพบผู้ตายที่คนร้ายประสงค์จะฆ่าแล้วจะต้องลงมือฆ่าในทันที พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงจึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ยิงผู้ตาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจร: การพิสูจน์เจตนาของผู้รับของกลาง จำเลยปฏิเสธการรับสารภาพในชั้นจับกุม จึงใช้ยันไม่ได้
เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับแจ้งข้อหาจำเลยว่ากระทำความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร คำให้การรับสารภาพของจำเลยตลอดข้อหา ในบันทึกการจับกุมโดยไม่ระบุว่ารับสารภาพฐานใดนั้น เมื่อจำเลยปฏิเสธในชั้นศาลว่าไม่ได้ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม จึงใช้ยันจำเลยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส: การพิสูจน์ความเสียหายและขอบเขตความรับผิด
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 และ พ.ได้รับอันตรายสาหัส ป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน และประกอบกรณียกิจไม่ได้เกินกว่า20 วัน แต่โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่า พ.ต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน หรือจนประกอบกรณียกิจไม่ได้เกินกว่า 20 วันอย่างไร อันจะถือว่าพ.ได้รับอันตรายสาหัส แม้จะฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้รับอันตรายสาหัส แต่ก็เป็นผลมาจากการกระทำของจำเลยที่ 1 เอง จึงลงโทษจำเลยที่ 1 ตาม ป.อ. มาตรา 300 ไม่ได้ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงคงเป็นความผิดตามมาตรา 390 เท่านั้น และแม้ปัญหานี้ยุติแล้วในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตามป.วิ.อ. มาตรา 185 ประกอบมาตรา 215 และ 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารสัญญากู้ยืม: การนำสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความไม่สมบูรณ์ของสัญญา
จำเลยกล่าวอ้างว่าเอกสารสัญญากู้ยืมไม่มีผลผูกพัน เพราะโจทก์จำเลยทำขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานคุ้มครองเงินของโจทก์ที่นำไปช่วยลงทุนค้าขายน้ำแข็งก้อนกับจำเลย ดังนั้นจำเลยชอบที่จะนำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างเช่นนั้นได้เพราะเป็นการนำสืบว่าเอกสารกู้ยืมไม่สมบูรณ์นั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานบุคคลเพื่อพิสูจน์ว่าสัญญากู้ยืมไม่สมบูรณ์ แม้จะมีการอ้างเอกสารสัญญากู้ยืมแล้ว
จำเลยกล่าวอ้างว่าเอกสารสัญญากู้ยืมไม่มีผลผูกพัน เพราะโจทก์จำเลยทำขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานคุ้มครองเงินของโจทก์ที่นำไปช่วยลงทุนค้าขายน้ำแข็งก้อนกับจำเลย ดังนั้น จำเลยชอบที่จะนำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างเช่นนั้นได้เพราะเป็นการนำสืบว่าเอกสารกู้ยืมไม่สมบูรณ์นั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4102/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยต้องเข้าข่ายรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด จึงจะมีความผิดฐานรับของโจร โจทก์มีหน้าที่พิสูจน์
คดีอาญาโจทก์มีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาสืบเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย เมื่อนำสืบมารับฟังไม่ได้ว่าจำเลยรับจำนำอาวุธปืนของผู้เสียหายไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมา คดีก็รับฟังลงโทษจำเลยฐานรับของโจรไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3991/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร: จำเลยต้องพิสูจน์การเสียภาษีของสินค้าที่ซื้อเข้ามา
ความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิจะต้องเป็นการซื้อของที่ตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ซึ่งหน้าที่พิสูจน์ในกรณีนี้ตกอยู่แก่จำเลยที่จะต้องมีภาระการพิสูจน์ว่าสินค้าของกลางซึ่งได้นำเข้ามาจากต่างประเทศได้เสียภาษีโดยถูกต้องแล้ว ดังที่มาตรา 100 บัญญัติไว้หาใช่เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะนำสืบไม่ เมื่อจำเลยไม่นำสืบ เพียงแต่อ้างว่าเป็นสินค้าที่จำหน่ายโดยถูกต้องตามกฎหมาย เพราะขายในตลาดสุขาภิบาลโดยเปิดเผย จึงเป็นความเข้าใจของจำเลยที่ไม่ได้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวกับกรณีนี้ และไม่เป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิด จึงต้องฟังว่าจำเลยซื้อสินค้าของกลางโดยรู้ว่ายังไม่ได้เสียค่าภาษี