คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 823 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลเด็กและเยาวชน: ผลของอายุที่แตกต่างจากที่จดไว้เมื่อยื่นฟ้อง
วันยื่นฟ้อง ศาลจังหวัดนครราชสีมาสอบถามแล้วจดอายุจำเลยว่า จำเลยอายุ 18 ปี ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลจังหวัดนครราชสีมาจะพิจารณาพิพากษา และศาลจังหวัดนครราชสีมาได้ทำการพิจารณาพิพากษาคดีไปแล้ว ต่อมาจำเลยอุทธรณ์อ้างว่าวันยื่นฟ้องจำเลยอายุ 17 ปี 7 เดือน 8 วัน โดยแนบสำเนาทะเบียนบ้านมาพร้อมอุทธรณ์คดีอยู่ในอำนาจของ ศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาดังนี้ กรณีต้องด้วยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 ซึ่งมีความว่า การพิจารณาพิพากษาของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีธรรมดา และศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนนั้นให้เป็นอันใช้ได้แม้ความจริงจะปรากฏในภายหลังว่าข้อเท็จจริงใน เรื่องอายุหรือการบรรลุนิติภาวะด้วยการสมรสของบุคคลที่เกี่ยวข้องจะผิดไป ซึ่งถ้าปรากฏเสียแต่ต้นจะเป็นเหตุให้ศาลนั้น ๆ ไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาก็ตาม'ดังนี้ การพิจารณาพิพากษาของศาลจังหวัดนครราชสีมามีผลใช้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3570/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องคดีแพ่ง ไม่ต้องละเอียดเท่าคดีอาญา คำฟ้องที่ระบุความประมาทเลินเล่อชอบแล้ว
การบรรยายคำฟ้องในคดีแพ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 กำหนดแต่เพียงว่าจะต้องแสดงให้แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเท่านั้น หาต้องบรรยายถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียด เหมือนกับฟ้องในคดีอาญาไม่ การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายควบคุมเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือหางยาว ได้กระทำการอันเป็นความประมาทเลินเล่อ ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังเท่าที่วิญญูชนจะพึงใช้ ทำให้เรือด่วนเจ้าพระยาชนกับเรือหางยาวเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2927/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องผิดพลาดเรื่องปริมาณยาเสพติดและสถานที่เกิดเหตุ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าฝิ่นที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองราคา64,500 บาท ฝิ่นราคากรัมละ 10 บาท ที่ว่าฝิ่นหนัก 6.450 กรัมจึงเป็นเพราะพิมพ์ผิดที่ถูกน่าจะเป็น 6,450 กรัม หรือ 6.450 กิโลกรัมจึงจะลงตัวกับราคาข้างต้นดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ในทางพิจารณาต่างกับฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องระบุสถานที่เกิดเหตุไว้หลายท้องที่ แม้จะฟังว่าของกลางที่ยึดได้จากบ้านจำเลยไม่ใช่ฝิ่นจึงไม่มีความผิดเกิดขึ้นที่แขวงสามเสนนอกตามที่ระบุไว้ก็ตาม แต่สถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ก็ไม่แตกต่างกับที่ได้ความในทางพิจารณาเพราะซอยคลังมนตรีที่ตำรวจจับจำเลยได้พร้อมฝิ่นและเฮโรอีนของกลาง ก็อยู่ในแขวงลาดยาว ตามฟ้องนั่นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2783/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเหตุสาธารณสมบัติของแผ่นดินขึ้นในชั้นฎีกาที่ไม่เคยกล่าวอ้างในชั้นฟ้อง ถือเป็นการต้องห้ามมิให้ฎีกา
ฎีกาโจทก์ที่ว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จึงต้องห้ามมิให้จำเลยต่อสู้กับแผ่นดินนั้น โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์เพิ่งยกปัญหาข้อนี้ขึ้นกล่าวอ้างในฎีกาจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2783/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการยกข้ออ้างใหม่ในฎีกา: สาธารณสมบัติของแผ่นดินต้องระบุในฟ้อง
ฎีกาโจทก์ที่ว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จึงต้องห้ามมิให้จำเลยต่อสู้กับแผ่นดินนั้น โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์เพิ่งยกปัญหาข้อนี้ขึ้นกล่าวอ้างในฎีกาจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2002/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดป่าไม้ ต้องระบุการได้มาซึ่งของป่าที่เป็นความผิดด้วย
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการได้มาอันเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ของผู้ได้มาซึ่งไม้หรือของป่าที่เป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดตามมาตรา 70 ย่อมเป็นองค์ประกอบความผิดที่โจทก์ต้องบรรยายมาในฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจรับถ่านไม้ 6 กระสอบปริมาตร 0.75 ลูกบาศก์เมตร อันเป็นของป่าหวงห้ามโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของป่าที่มีผู้ได้มาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และไม่ได้เสียค่าภาคหลวง และจำเลยช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้จำนวนดังกล่าว โจทก์มิได้บรรยายว่าผู้ที่ได้ถ่านไม้มาได้เก็บหาของป่าหรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ของป่าหวงห้ามในป่า อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 29 ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว เมื่อตามฟ้องไม่ปรากฏว่าผู้ได้ถ่านไม้มาได้ถ่านไม้นั้นมาโดยการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 29 ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว จำเลยซึ่งเป็นผู้รับและช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้ดังกล่าวก็ไม่มีความผิดฐานเป็นตัวการ ฟ้องโจทก์บรรยายไม่ครบถ้วน แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ: ฟ้องไม่ถึงสามีจำเลยจำกัดสิทธิเรียกร้องเฉพาะส่วนของโจทก์
โจทก์ฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ โดยบรรยายว่าทำนิติกรรมจดทะเบียนยกที่ดินให้สามีจำเลยด้วย เมื่อโจทก์มิได้ฟ้องสามีจำเลยว่า ประพฤติเนรคุณขอให้เรียกถอนคืนการให้ในส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของสามีจำเลย จึงต้องพิพากษาให้จำเลยโอนคืนเฉพาะส่วนที่โจทก์ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยเท่านั้น เมื่อเรียกถอนคืนการให้ได้เฉพาะส่วนของจำเลย ก็ไม่มีเหตุที่จะกำหนดค่าเสียหายเพิ่มให้โจทก์รวมถึงส่วนที่ยกให้สามีจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีป่าไม้ต้องระบุรายละเอียดการเคลื่อนย้ายไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ หากไม่บรรยายตามกฎหมาย ฟ้องขาดองค์ความผิด
มาตรา 38 พระราชบัญญัติ ป่าไม้ พ.ศ. 2484 บังคับแก่กรณีนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ต่อไปจากที่ ๆ ระบุไว้ เมื่อฟ้องมิได้บรรยายข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงขาดองค์ความผิดลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องตามเช็คค้ำประกันและการชำระดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย การใช้สิทธิไม่สุจริต
จำเลยกู้เงินโจทก์เป็นเงิน 80,000 บาท โดยมอบเช็คสั่งจ่ายเงินสดจำนวน 80,000 บาท ให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกัน และมอบโฉนดให้โจทก์ไว้เป็นประกันอีกด้วย การที่โจทก์ไม่นำสัญญากู้ยืมมาฟ้อง หากแต่ฟ้องเรียกเงินตามเช็คนั้น เป็นสิทธิของโจทก์ เมื่อโจทก์เห็นว่าการดำเนินคดีในเรื่องเช็คเป็นความสะดวกและดีกว่า โจทก์ย่อมทำได้ไม่ถือว่าเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต
จำเลยชำระดอกเบี้ยเงินกู้เกินอัตราเป็นผิดกฎหมาย จำเลยเรียกคืนไม่ได้ หักกับเงินที่ค้างชำระก็ไม่ได้
จำเลยให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยจะต้องแสดงโดยแจ้งชัดไว้ในคำให้การรวมทั้งเหตุแห่งการนั้นด้วยว่า ฟ้องของโจทก์ตอนไหนที่เคลือบคลุม จำเลยไม่เข้าใจอย่างไร จำเลยอ้างแต่เพียงว่าเคลือบคลุมโดยไม่ชี้แจงรายละเอียด จึงไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4051/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีภาษีโรงเรือนต้องชำระภาษีประเมินก่อนฟ้อง หากไม่ชำระ ศาลไม่รับฟ้อง
โจทก์ได้รับทราบคำชี้ขาดของจำเลยให้เสียภาษีตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยประเมินไว้แล้ว โจทก์ไม่พอใจคำชี้ขาดของจำเลย แต่โจทก์ไม่ยอมชำระค่าภาษีตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยประเมินไว้ กลับนำคดีมาฟ้องจำเลยต่อศาลว่าการประเมินไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติมาตรา31 การที่โจทก์ฟ้องจำเลยดังกล่าวจึงต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 39 คือโจทก์ต้องชำระค่าภาษีให้จำเลยไปก่อน เมื่อโจทก์ไม่ชำระค่าภาษีตามที่จำเลยประเมินไว้ก่อนฟ้องเช่นนี้ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ศาลจะรับไว้พิจารณาไม่ได้ และศาลไม่อาจที่จะสั่งให้โจทก์นำค่าภาษีมาชำระหลังจากฟ้องแล้วได้ ถือได้ว่าโจทก์ยังไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
of 83