พบผลลัพธ์ทั้งหมด 648 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจฟ้องคดีโดยใช้ตราบริษัทที่จดทะเบียน แม้ขนาดเล็กกว่าก็ใช้ได้หากเป็นตราที่ใช้ประจำ
ตราสำคัญของบริษัทโจทก์ที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีมีรูปร่างลักษณะเหมือนกับตราสำคัญซึ่งได้จดทะเบียนไว้ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แม้จะมีขนาดเล็กกว่าแต่ก็ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้ และเป็นตราที่โจทก์ใช้ในกิจการทั่ว ๆ ไปเป็นประจำทั้งกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ยืนยันว่าเป็นผู้มอบอำนาจให้ฟ้องคดีการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์จึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจฟ้องคดี: ตราประทับบริษัทใช้ได้แม้ขนาดเล็กกว่าที่จดทะเบียน หากเป็นตราที่ใช้ในกิจการทั่วไป
ตราสำคัญของบริษัทโจทก์ที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีมีรูปร่างลักษณะเหมือนกับตราสำคัญซึ่งได้จดทะเบียนไว้ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แม้จะมีขนาดเล็กกว่าแต่ก็ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้ และเป็นตราที่โจทก์ใช้ในกิจการทั่ว ๆ ไปเป็นประจำทั้งกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ยืนยันว่าเป็นผู้มอบอำนาจให้ฟ้องคดีการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์จึงชอบแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2425/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อากรแสตมป์ในการมอบอำนาจฟ้องคดี: การพิจารณาอำนาจกระทำการครั้งเดียวและการแต่งทนายความ
การมอบอำนาจให้ฟ้องคดี เป็นการมอบอำนาจให้บุคคลคนเดียวกระทำการครั้งเดียวตามข้อ 7(ก) ของบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ส่วนที่โจทก์ผู้มอบอำนาจระบุข้อความในหนังสือมอบอำนาจว่า ให้มีอำนาจจำหน่ายสิทธิของโจทก์เช่น การยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง การถอนฟ้อง การประนีประนอมยอมความ การสละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกา หรือในการขอให้พิจารณาคดีใหม่ ให้มีอำนาจแต่งทนายความและรับเงินหรือเอกสารคืนจากศาลนั้นเป็นเรื่องกระบวนพิจารณาที่ผู้รับมอบอำนาจจักต้องกระทำในการพิจารณา ของศาลอันสืบเนื่องมาจากการฟ้องคดีที่ได้รับมอบอำนาจ ไม่ใช่เป็นเรื่องอื่นต่างหากจากการมอบอำนาจให้ฟ้องคดี โจทก์ผู้มอบอำนาจเสียอากรโดยปิดอากรแสตมป์ 10 บาท จึงชอบด้วยกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2425/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อากรแสตมป์หนังสือมอบอำนาจ: การกระทำครั้งเดียว vs. หลายครั้ง และขอบเขตอำนาจที่มอบให้
ฎีกาของจำเลยที่ว่าโจทก์ปิดอากรแสตมป์ในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีไม่ครบถ้วน เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยไม่ได้ให้การเป็นประเด็นและไม่ได้อุทธรณ์ซึ่งถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ตาม จำเลยก็มีสิทธิยกขึ้นฎีกาได้ การมอบอำนาจให้ฟ้องคดีเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลคนเดียวกระทำการครั้งเดียวตามข้อ 7(ก) ของบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ส่วนที่โจทก์ผู้มอบอำนาจระบุข้อความในหนังสือมอบอำนาจว่า ให้มีอำนาจจำหน่ายสิทธิของโจทก์ เช่น การยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้องการถอนฟ้อง การประนีประนอมยอมความ การสละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกา หรือในการขอให้พิจารณาคดีใหม่ ให้มีอำนาจแต่งทนายความและรับเงินหรือเอกสารคืนจากศาลนั้น เป็นเรื่องกระบวนพิจารณาที่ผู้รับมอบอำนาจจักต้องกระทำในการพิจารณาของศาลอันสืบเนื่องมาจากการฟ้องคดีที่ได้รับมอบอำนาจ ไม่ใช่เป็นเรื่องอื่นต่างหากจากการมอบอำนาจให้ฟ้องคดี โจทก์เสียอากรโดยปิดอากรแสตมป์ 10 บาท จึงชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2413/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ให้ภริยาโดยไม่ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ และการรักษาทรัพย์ที่ยึดตามดุลพินิจเจ้าพนักงานบังคับคดี
จำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่ ส. ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ โดย ส. ไม่ได้เป็นตัวเจ้าหนี้และไม่เป็นผู้มีอำนาจรับชำระหนี้แทนโจทก์ ทั้ง ส.ไม่ได้อยู่ร่วมกับโจทก์ และในวันที่ส.รับชำระหนี้โจทก์ก็ไม่ได้อยู่รู้เห็นด้วย จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ให้ ส.รับชำระหนี้แทนและเป็นการให้สัตยาบันในการชำระหนี้การชำระหนี้ของจำเลยย่อมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 315 การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะมอบทรัพย์สินที่ยึดให้ผู้ใดรักษาเป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานบังคับคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2413/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อผู้รับชำระหนี้ไม่ใช่เจ้าหนี้หรือได้รับมอบอำนาจ
จำเลยชำระหนี้ตาม คำพิพากษาให้กับ ส. ภริยาโดยชอบด้วย กฎหมายของโจทก์ แต่ ส. ไม่ได้เป็นตัว เจ้าหนี้และไม่เป็นผู้มีอำนาจรับชำระหนี้แทนโจทก์ นอกจากนี้ ส. ไม่ได้อยู่ร่วมกับโจทก์และในวันที่ ส. รับชำระหนี้โจทก์ก็ไม่ได้อยู่รู้เห็นด้วย จึงหาเป็นการแสดงว่าโจทก์ให้ ส. รับชำระหนี้แทนและเป็นการให้สัตยาบันในการชำระหนี้ไม่ การชำระหนี้ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 315 การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะมอบทรัพย์สินที่ยึดมาจากลูกหนี้ให้ผู้ใดรักษาเป็นดุลพินิจ ของเจ้าพนักงานบังคับคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจสมบูรณ์แม้ชื่อกรรมการไม่ตรงตามที่ระบุไว้ หากมีอำนาจลงนามตามหนังสือรับรองบริษัท
หนังสือมอบอำนาจระบุว่า บริษัทโจทก์โดย ว. และ ณ.กรรมการเป็นผู้มอบอำนาจให้ฟ้อง แต่ ตอนท้ายของหนังสือมอบอำนาจกลับปรากฏว่า ว. ร่วมกับ อ. กรรมการอีกคนหนึ่งของโจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อมอบอำนาจให้ฟ้อง เมื่อตาม หนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครระบุว่า กรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนโจทก์คือ ว. ลงลายมือชื่อร่วมกับ ก.หรือคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการอีกคนหนึ่งและต้อง ประทับตราสำคัญของโจทก์ ดังนั้นการที่ ว. ลงลายมือชื่อร่วมกับ อ. กรรมการอีกคนหนึ่งของโจทก์และประทับตราสำคัญของโจทก์ จึงถือได้ว่าการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์สมบูรณ์แล้วแม้ ณ. จะไม่ได้ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจฟ้องคดี: ความสมบูรณ์ของหนังสือมอบอำนาจและการลงลายมือชื่อของกรรมการบริษัท
หนังสือมอบอำนาจระบุว่าบริษัทโจทก์โดย ว. และ ณ.กรรมการเป็นผู้มอบอำนาจให้ฟ้อง แต่ตอนท้ายของหนังสือมอบอำนาจกลับปรากฏว่า ว.ร่วมกับอ. กรรมการอีกคนหนึ่งของโจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อมอบอำนาจให้ฟ้อง เมื่อตามหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครระบุว่า กรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนโจทก์คือ ว. ลงลายมือชื่อร่วมกับ ก.หรือคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการอีกคนหนึ่งและต้องประทับตราสำคัญของโจทก์ ดังนั้นการที่ ว. ลงลายมือชื่อร่วมกับ อ. กรรมการอีกคนหนึ่งของโจทก์และประทับตราสำคัญของโจทก์จึงถือได้ว่าการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์สมบูรณ์แล้ว แม้ ณ.จะไม่ได้ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจที่ไม่ชัดเจนและการขาดข้อตกลงเรื่องค่าก่อสร้าง ทำให้ฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้
หนังสือมอบอำนาจที่จำเลยมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการจัดทำแบบแปลนและก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดของจำเลย มิได้มีข้อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ออกเงินค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงินเท่าใดและโจทก์ในฐานะ ผู้รับมอบอำนาจจะได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อย่างใดบ้าง ใบมอบอำนาจดังกล่าวยังไม่มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนคงถือได้ว่าเป็นหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อประสานงานและเสนอขออนุมัติแบบแปลน แผนผัง การวางเงินมัดจำกับทางจังหวัดและ กรมธนารักษ์ เท่านั้น ส่วนการ ก่อสร้าง อาคารพาณิชย์ และตลาดสดจะได้มีการตกลง ทำสัญญากันอีกต่างหาก คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า โจทก์คิดค่าก่อสร้างแล้ว เมื่อหักค่าใช้จ่ายออกโจทก์จะมีกำไรเป็นจำนวนเงินดังกล่าวในฟ้องแต่ โจทก์ก็มิได้บรรยายว่าโจทก์จะคิดค่าก่อสร้างจากจำเลยโดย อาศัยข้อตกลงอะไร เมื่อโจทก์และจำเลยมิได้ทำสัญญากันไว้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่แจ้งชัดพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์เพราะอะไรและโจทก์จะมีกำไรจากการก่อสร้างอย่างไร โจทก์จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจไม่ติดอากรแสตมป์ทำให้ไม่มีอำนาจฟ้อง แม้จะชำระภายหลังก็ยังใช้ไม่ได้
หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ที่ให้ ม. ฟ้องคดีแทนไม่ได้ปิดอากรแสตมป์แต่ศาลชั้นต้นก็พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยมิได้วินิจฉัยเรื่องนี้ จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาดังกล่าวโจทก์จึงได้ไปเสียอากรแสตมป์พร้อมเงินเพิ่มต่อเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ตามใบสลักหลังตราสารและส่งต่อศาลพร้อมคำแก้อุทธรณ์ แม้โจทก์จะได้เสียค่าอากรแสตมป์สำหรับหนังสือมอบอำนาจครบถ้วนในระหว่างอุทธรณ์ก็ตาม แต่ในขณะยื่นฟ้องหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 ซึ่งเท่ากับว่า ม. ฟ้องคดีนี้โดยมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ ม. จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และการไม่ปิดอากรแสตมป์นี้แม้จำเลยจะไม่ตั้งเป็นประเด็นขึ้นมาแต่แรกจำเลยก็ยกขึ้นอุทธรณ์ได้ เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจึงชอบแล้ว