คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับของโจร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 644 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์: การครอบครองทรัพย์สินของผู้เสียหายยังไม่สิ้นสุด แม้ทรัพย์สินตกหล่น การยักยอกทรัพย์ และการรับของโจร
ผู้เสียหายทำธนบัตรของกลางตกที่หน้าแผงลอยของพ. ขณะที่ล้วงกระเป๋าหยิบเงินมาชำระให้แก่พ. จำเลยมาพบก้มลงหยิบธนบัตรดังกล่าวไปหลังจากที่จำเลยเดินจากไปแล้วผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าธนบัตรของกลางหายไปดังนี้การที่จำเลยเอาธนบัตรของกลางไปในขณะที่ผู้เสียหายยังยืนอยู่ในบริเวณที่ทำธนบัตรตกและในเวลาใกล้เคียงกันนั้นเองผู้เสียหายก็รู้ทันทีว่าธนบัตรของตนหายไปถือได้ว่านับแต่เวลาที่ธนบัตรของกลางหลนลงไปที่พื้นจนถึงเวลาที่จำเลยหยิบเอาไปผู้เสียหายยังคงยึดถือธนบัตรนั้นอยู่การครอบครองธนบัตรยังอยู่กับผู้เสียหายเมื่อจำเลยเอาธนบัตรของกลางไปจากความครอบครองของผู้เสียหายเพื่อจะเอาไปเป็นของตนเองจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2093/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: พฤติการณ์นำทรัพย์ชิงทรัพย์ไปจำนำโดยไม่มีเอกสาร และให้การขัดแย้งในชั้นสอบสวน เป็นเหตุเชื่อได้ว่ารู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด
จำเลยมีอาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์ได้นำรถจักรยานยนต์ผู้เสียหายซึ่งถูกชิงทรัพย์ไปจำนำโดยมิได้นำทะเบียนรถไปแสดงเมื่อถูกกล่าวหาก็อ้างแต่เพียงว่าเป็นรถของส.โดยมิได้นำตัวส.มาสืบดังนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ช่วยจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำผิดอันเป็นความผิดฐานรับของโจรแม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา339ก็ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรตามมาตรา357ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192.(ที่มา-เนติฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: จำเลยต้องรู้ว่าทรัพย์นั้นได้มาจากการกระทำผิด การซื้อรถราคาถูกและการใช้งานเปิดเผยไม่ถือเป็นความรู้
แม้จะปรากฏว่าจำเลยซื้อรถจักรยานยนต์จากเพื่อนตำรวจด้วยกันในราคาถูกแต่เมื่อซื้อมาแล้วจำเลยก็ไม่ได้ปกปิดซ่อนเร้นได้ขับรถไปทำงานที่สถานีตำรวจ กับไปตรวจท้องที่อันเป็นการใช้รถโดยเปิดเผยทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทราบว่าผู้ขายได้รถมาอย่างไร เพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยได้ซื้อรถไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อรถจักรยานยนต์ราคาถูกโดยไม่ทราบแหล่งที่มาไม่ถือเป็นความผิดฐานรับของโจร
แม้จะปรากฏว่าจำเลยซื้อรถจักรยานยนต์จากเพื่อนตำรวจด้วยกันในราคาถูกแต่เมื่อซื้อมาแล้วจำเลยก็ไม่ได้ปกปิดซ่อนเร้นได้ขับรถไปทำงานที่สถานีตำรวจกับไปตรวจท้องที่อันเป็นการใช้รถโดยเปิดเผยทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทราบว่าผู้ขายได้รถมาอย่างไรเพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยได้ซื้อรถไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากลักทรัพย์เป็นรับของโจรโดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ จึงถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องข้อหาฐานรับของโจร จำเลยอุทธรณ์ขอให้พิพากษายกฟ้องข้อหาฐานลักทรัพย์ ประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยคือจำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์แต่ผิดฐานรับของโจร จึงมิชอบด้วยกระบวนพิจารณา จำเลยมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องข้อหาฐานรับของโจรได้ และศาลฎีกาไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ เพราะศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องจำเลยในข้อหาฐานลักทรัพย์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร โจทก์ต้องสืบพยานให้ชัดเจนถึงฐานความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร แสดงว่าโจทก์ประสงค์ขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาใดข้อหาหนึ่งเพียงข้อหาเดียว เพราะเป็นความผิดคนละฐานกัน จะลงโทษจำเลยทั้งสองฐานความผิดย่อมไม่ได้ คำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ว่าได้กระทำผิดตามฟ้องโจทก์จริง ไม่ชัดเจนพอจะชี้ขาดว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานใด จึงเป็นหน้าที่โจทก์จะต้องสืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำผิดของจำเลยเมื่อโจทก์ไม่สืบพยานก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 819/2513 ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4283/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพบกระบือที่ถูกลัก แต่ไม่แจ้งเจ้าของและเรียกค่าตอบแทนเข้าข่ายรับของโจร
จำเลยทั้งสองติดตามไปพบกระบือผู้เสียหายที่ถูกลักไป แต่ไม่นำมาให้ผู้เสียหายหรือบอกให้ผู้เสียหายทราบตามที่ขอให้ช่วย เป็นเพียงปกปิดความจริงที่ควรบอกให้ผู้เสียหายทราบ ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับกระบือไว้จากคนร้าย หรือเอากระบือที่พบไปไว้ที่อื่นก่อน หรือร่วมรู้กับคนร้ายมาเรียกค่าไถ่กระบือจากผู้เสียหาย ไม่มีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4283/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: การพบกระบือที่ถูกลักไปแต่ไม่แจ้งเจ้าของและเรียกค่าตอบแทนเข้าข่ายความผิด
จำเลยทั้งสองติดตามไปพบกระบือผู้เสียหายที่ถูกลักไปแต่ไม่นำมาให้ผู้เสียหายหรือบอกให้ผู้เสียหายทราบตามที่ขอให้ช่วยเป็นเพียงปกปิดความจริงที่ควรบอกให้ผู้เสียหายทราบข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับกระบือไว้จากคนร้ายหรือเอากระบือที่พบไปไว้ที่อื่นก่อนหรือร่วมรู้กับคนร้ายมาเรียกค่าไถ่กระบือจากผู้เสียหายไม่มีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2208/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โจทก์ฟ้องไม่ตรงกับของกลาง ศาลยกฟ้องฐานลักทรัพย์/รับของโจร ยางพาราชนิดต่างกัน
โจทก์ฟ้องว่า มีคนร้ายหลายคนลักยางพาราแผ่น 11 มัดของ จ. ผู้เสียหายไป ต่อมาเจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้ และยึดยางพาราแผ่น 1 มัดของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป ดังกล่าวเป็นของกลางทางพิจารณาได้ความว่ายางพาราแผ่น 1 มัดของกลางที่จำเลยทั้งสองลักไป เป็นยางคนละชนิดคนละ จำนวนกับยางพาราแผ่น 11 มัดของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป จึงเป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์มิได้มุ่งประสงค์ให้ลงโทษ จำเลยทั้งสองฐานลักหรือรับของโจรยางพาราแผ่น 1 มัดของกลางข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจึงแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวใน ฟ้องและมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษศาล จะลงโทษจำเลยทั้งสองฐานลักยางพาราแผ่น 1 มัดของกลางมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2208/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีลักทรัพย์/รับของโจร: โจทก์ต้องมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในความผิดที่ฟ้องเท่านั้น
โจทก์ฟ้องว่า มีคนร้ายหลายคนลักยางพาราแผ่น 11 มัดของ จ. ผู้เสียหายไป ต่อมาเจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้ และยึดยางพาราแผ่น 1 มัดของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป ดังกล่าวเป็นของกลางทางพิจารณาได้ความว่ายางพาราแผ่น 1 มัดของกลางที่จำเลยทั้งสองลักไป เป็นยางคนละชนิดคนละ จำนวนกับยางพาราแผ่น 11 มัดของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลัก ไป จึงเป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์มิได้มุ่งประสงค์ให้ลงโทษ จำเลยทั้งสองฐานลักหรือรับของโจรยางพาราแผ่น 1 มัดของกลางข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจึงแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวใน ฟ้องและมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษศาล จะลงโทษจำเลยทั้งสองฐานลักยางพาราแผ่น 1 มัดของกลางมิได้
of 65