พบผลลัพธ์ทั้งหมด 559 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3693/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพที่ไม่สมบูรณ์และการปฏิเสธความผิดในคดีบุกรุกและรบกวนการครอบครองทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควรและด่าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุข จำเลยให้การว่าได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อพูดขอยืมเงิน เป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างว่าเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยมีเหตุอันสมควรอันเป็นคำให้การปฏิเสธและเมื่อจำเลยให้การต่อไปว่า ไม่มีเงินต่อสู้คดีขอรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ จึงต้องถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลแขวงชอบที่จะสั่งให้โจทก์รับตัวจำเลยคืนเพื่อดำเนินการต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2916/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกลับคำให้การหลังรับสารภาพ: ศาลไม่อนุญาตหากมีเจตนาประวิงคดี
การที่จำเลยให้การรับสารภาพต่อศาลว่าได้กระทำความผิดตามฟ้องโจทก์แต่ขอให้ศาลเลื่อนการตัดสินคดีไปก่อนนั้นเป็นการรับสารภาพด้วยความสมัครใจของจำเลยมิได้เกิดขึ้นโดยความสำคัญผิดและการที่จำเลยยื่นคำร้องขอแก้คำให้การที่ให้การรับสารภาพเป็นให้การปฏิเสธเพื่อให้มีการสืบพยานต่อไปอีกโดยอ้างเหตุว่าจำเลยเพิ่งค้นพบพยานหลักฐานซึ่งจะนำมาอ้างปฏิเสธความรับผิดตามฟ้องโจทก์ได้นั้นเห็นได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อประวิงคดีจึงไม่มีเหตุอันควรที่จะอนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2913/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงใหม่หลังรับสารภาพ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจสั่งสืบพยานเพิ่มเติม
ศาลชั้นต้นพิพากษาโดยไม่ต้องสืบพยานหลักฐานว่าจำเลยมีความผิดและลงโทษตามฟ้องโจทก์โดยจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องทุกข้อหาซึ่งมีข้อหาฐานมีลูกระเบิดไว้ในความครอบครองรวมอยู่ด้วยเช่นนี้ การที่จำเลยอุทธรณ์ว่าลูกระเบิดไม่มีดินระเบิดและเชื้อปะทุจำเลยย่อมไม่มีความผิดข้อหามีลูกระเบิดจึงเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ซึ่งมิได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติตามฟ้องแล้วศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจสั่งให้ศาลชั้นต้นสอบโจทก์เกี่ยวกับรายงานการตรวจพิสูจน์ของกลางหรือสืบพยานผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางอีกต่อไป
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติตามฟ้องแล้วศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจสั่งให้ศาลชั้นต้นสอบโจทก์เกี่ยวกับรายงานการตรวจพิสูจน์ของกลางหรือสืบพยานผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางอีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1318/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การที่คลุมเครือถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสารภาพ หากโจทก์ไม่สืบพยาน ศาลลงโทษตามฟ้องไม่ได้
คำให้การของจำเลยที่ยื่นต่อศาลมีความว่า "คดีนี้ข้อเท็จจริงจำเลยเป็นลูกจ้างตัดไม้ ได้อาศัยรถยนต์คันเกิดเหตุไป ในระหว่างจับกุมวัตถุระเบิดมีผู้ต้องหา 3 คนผู้ต้องหาอีก 2 คนบอกให้จำเลยรับสารภาพแล้วจะช่วยเหลือเรื่องเงินทอง ด้วยความไม่รู้เท่าถึงการจำเลยจึงได้รับสารภาพ ความจริงแล้วระเบิดทั้งสองลูกไม่ใช่ของจำเลย แต่เพื่อไม่ให้ยุ่งยากแก่คดีจำเลยขอรับสารภาพตลอดข้อหาไม่ขอต่อสู้คดี" ดังนี้ ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นคำให้การที่รับสารภาพว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามที่โจทก์ฟ้อง เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานจึงลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาต้องกระทำความผิดก่อนวันที่ฟ้อง การรับสารภาพหลังความผิดยังไม่เกิดขึ้น ไม่อาจลงโทษได้
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2521 จำเลยกระทำความผิดฐานกระทำอนาจาร พ. และทำร้ายร่างกาย ส. แต่โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 9 มิถุนายน 2521 จึงเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดภายหลังวันที่โจทก์ฟ้อง จะฟ้องล่วงหน้าว่าจำเลยกระทำความผิดหาได้ไม่ แม้จำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาต้องกระทำหลังการกระทำผิด การฟ้องล่วงหน้าเป็นโมฆะ แม้จำเลยรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษได้
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2521 จำเลยกระทำความผิดฐานกระทำอนาจาร พ.และทำร้ายร่างกายส. แต่โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 9 มิถุนายน 2521 จึงเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดภายหลังวันที่โจทก์ฟ้อง จะฟ้องล่วงหน้าว่าจำเลยกระทำความผิดหาได้ไม่ แม้จำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3007/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงคำให้การหลังรับสารภาพเพื่อประวิงคดี ศาลไม่อนุญาตแก้คำให้การได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาระหว่างสืบพยานจำเลยขอถอนคำให้การเดิมขอให้การรับสารภาพผิดตามฟ้อง แต่ขอเวลาหาเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ เพื่อให้โจทก์ถอนฟ้อง อันเป็นการรับสารภาพด้วยความสมัครใจ แต่จำเลยหาเงินไม่ได้จึงขอแก้คำให้การรับสารภาพเป็นปฏิเสธและขอสืบพยานต่อไป ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยขอแก้คำให้การเพื่อประวิงคดี จึงไม่มีเหตุสมควรจะอนุญาตแก้คำให้การ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3007/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้คำให้การรับสารภาพเป็นปฏิเสธเพื่อประวิงคดี ศาลไม่อนุญาตได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธต่อมาระหว่างสืบพยานจำเลยจำเลยขอถอนคำให้การเดิมขอให้การรับสารภาพผิดตามฟ้อง แต่ขอเวลาหาเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์เพื่อให้โจทก์ถอนฟ้อง อันเป็นการรับสารภาพด้วยความสมัครใจ แต่จำเลยหาเงินไม่ได้จึงขอแก้คำให้การรับสารภาพเป็นปฏิเสธและขอสืบพยานต่อไป ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยขอแก้คำให้การเพื่อประวิงคดี จึงไม่มีเหตุสมควรจะอนุญาตแก้คำให้การ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจำเลยในคดีอาญา: การมอบตัวและการรับสารภาพที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา
จำเลยให้การว่าไม่ได้ขว้างระเบิด แต่ลูกระเบิดเกี่ยวรั้วลวดหนามตกลงไปเอง ศาลไม่เชื่อจำเลย คำรับของจำเลยว่ามีลูกระเบิดจึงไม่ให้ความรู้เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา แต่จำเลยเข้ามอบตัวเมื่อหนีไป 9 เดือนถือได้ว่าลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงาน ลดโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องฐานทำสุราโดยไม่ระบุประเภทสุรา และการรับสารภาพของจำเลย
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานทำสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 มาตรา 5 มีโทษตามมาตรา 30 โดยมิได้ระบุว่าเป็นสุราแช่หรือมิใช่ เป็นการกล่าวถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด รวมทั้งสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยถูกต้องครบถ้วนตามที่มาตรา 5 บัญญัติไว้ และพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นเหตุขัดข้องในการกำหนดโทษจำเลยตามมาตรา 30 ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158