พบผลลัพธ์ทั้งหมด 388 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฉ้อโกง: การบรรยายฟ้องที่มุ่งเน้นเจตนาทุจริตและความครบถ้วนขององค์ประกอบความผิด
ฟ้องบรรยายว่า "วันที่ 8 ก.พ. 93 เวลากลางวัน จำเลยกล่าวเท็จหลอกลวงโจทก์ว่า มีคนต้องการซื้อผ้า จำเลยขอรับผ้าไปถ้าขายได้จะนำเงินมาให้ ถ้าขายไม่ได้จะนำผ้ามาคืนในวันที่ 9 เดือนเดียวกันโจทก์หลงเชื่อ จึงมอบผ้าให้จำเลยรับไป ครั้นถึงวันเวลากำหนด จำเลยไม่นำเงินหรือผ้ามาคืน" และในตอนท้ายบรรยายว่า " ในระหว่างวันที่ 8-9 ก.พ. 93 เวลาใดไม่ปรากฏ จำเลยมีเจตนาทุจริต ยักยอกทรัพย์รายนี้ " ดังนี้ เป็นฟ้องที่โจทก์มุ่งหมายบรรยายหนักไปทางว่าจำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกง ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม และสมบูรณ์ เป็นฟ้องฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารที่ไม่ชัดเจนถึงองค์ประกอบความผิด ทำให้ศาลยกฟ้อง
ฟ้องหาว่า จำเลยฉ้อโกงและปลอมหนังสือ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฎว่าจำเลยเอาข้อความเท็จมาหลอกลวงเมื่อวันเวลาใดเป็นแต่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากล่าว แล้วบรรยายต่อไปว่าจำเลยเขียนเช็คฉบับใด ลงวันเดือนปี ให้ผู้มีชื่อ ๆ นำเช็คนั้นมามอบให้โจทก์เมื่อวันใดก็ไม่บอกในฟ้อง และทั้งในฟ้องก็ไม่บรรยายว่าจำเลยทำผิดฐานปลอมหนังสือนั้นทำอย่างไร เป็นแต่โจทก์บอกมาในฟ้องว่า โจทก์นำเช็ค 3 ฉบับไปขอรับเงินที่ธนาคาร ๆ ว่าเงินไม่พอจ่าย จึงคืนเช็คเพียงเท่านี้ เป็นฟ้องที่ยังลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดฉ้อโกง ฟ้องไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องไม่เป็น
ความผิดฐานฉ้อโกงนั้นต้องประกอบด้วยเจตนาทุจริต ถ้าในฟ้องไม่บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต และไม่บรรยายด้วยข้อความอันรัดกุมเพียงพอให้ได้ความว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตแล้ว ฟ้องนั้นก็ไม่เป็นฟ้องอันจะลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งทราบคำสั่งทางปกครองเป็นองค์ประกอบความผิด การพิสูจน์การรับรู้
ประกาศของคณะกรมการจังหวัดที่ออกโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ นั้นเป็นแต่คำสั่งของเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นกฎหมาย จำเลยจะมีผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวก็ต่อเมื่อได้ความว่าได้ทราบคำสั่งนั้นแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง: ต้องมีเจตนาหลอกลวง ผู้ถูกหลอกเชื่อ และส่งทรัพย์ให้
ความสำคัญของความผิดฐานฉ้อโกง จะต้องปรากฏว่ามีเจตนาทุจริตกล่าวเท็จหลอกลวง ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและส่งทรัพย์ให้ ฟ้องโจทก์ ปรากฏแต่เพียงว่าจำเลยกล่าวเท็จอย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่เป็นองค์ความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำ: ศาลยกฟ้องคดีเดิมด้วยเหตุฟ้องไม่ชัดเจน/ไม่ครบองค์ประกอบ โจทก์ฟ้องใหม่ไม่ได้
กรณีเรื่องเดียวกัน โจทก์ได้ฟ้องจำเลยต่อศาล ศาลได้พิพากษายกฟ้อง โดยกล่าวว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมบ้าง และไม่ครบองค์ประกอบเป็นความผิดบ้าง ดั่งนี้ เป็นการยกฟ้องในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว โจทก์ยื่นฟ้องใหม่ไม่ได้ (อ้างฎีกา 382-383/2488 และ 776/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในความผิดเดิม แม้ฟ้องเดิมขาดองค์ประกอบความผิด สิทธิฟ้องระงับตามกฎหมาย
ศาลพิพากษายกฟ้องของโจทก์ เพราะฟ้องของโจทก์ขาดองค์สำคัญแห่งความผิดแม้จะพิจารณาได้ความตามฟ้องก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ดังนี้ได้ชื่อว่าศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะการกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตามมาตรา 185 สิทธินำคดีมาฟ้องใหม่ย่อมระงับไปตามมาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความหมายของการลักทรัพย์และการระบุเจตนาทุจริตในฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจลักทรัพย์ไป การลักทรัพย์ย่อมมีความหมายว่า บังอาจเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยการทุจริตอยู่ในตัวแล้ว ดังนี้ ฟ้องของโจทก์จึงไม่จำเป็นต้องบรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือโดยการทุจริต
การอุทธรณ์ฎีกาว่า ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์นั้น แม้มิได้ยกขึ้นโต้เถียงในศาลชั้นต้น ก็ยกขึ้นอุทธรณ์ฎีกาได้
การอุทธรณ์ฎีกาว่า ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์นั้น แม้มิได้ยกขึ้นโต้เถียงในศาลชั้นต้น ก็ยกขึ้นอุทธรณ์ฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์องค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์: ข้อโต้แย้งเรื่องการอนุญาตและความถูกต้องของข้อเท็จจริง
การกระทำของจำเลยจำครบองค์เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นองค์ประกอบความผิดมาตรา 136-138 การอ้างไม่รู้กฎหมายใช้ไม่ได้หากยังไม่ครบองค์ความผิด
ความผิดตาม มาตรา 136,137,138 ผู้กระทำจะต้องมีเจตนาทุจริต
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตามกฎหมายทุกประการแล้ว
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตามกฎหมายทุกประการแล้ว