คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 359 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกร้องหนี้จากสัญญาจะซื้อขายที่ดินที่ถูกเพิกถอนสิทธิ โดยการไม่อุทธรณ์ถือเป็นการยอมรับหนี้
กรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการไม่ยอมรับสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินระหว่างลูกหนี้ผู้ล้มละลายกับผู้ขายตามอำนาจในมาตรา 122 และดำเนินการเรียกร้องเงินค่าที่ดินที่ผู้ขายได้รับไว้จากลูกหนี้คือตามอำนาจในมาตรา 119 เมื่อดำเนินการมาจนถึงขั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือยืนยันหนี้ให้ผู้ขายคืนเงินค่าที่ดินและแจ้งให้ผู้ขายร้องคัดค้านต่อศาลภายในกำหนดเวลาสิบสี่วัน แต่ผู้ขายมิได้ร้องคัดค้านต่อศาลแต่อย่างใด ดังนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำขอต่อศาลขอให้บังคับผู้ขายชำระหนี้เงินค่าที่ดินดังกล่าว ศาลก็ต้องมีคำสั่งบังคับไปตามคำขอ ไม่มีปัญหาที่ศาลจะต้องวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีสิทธิเรียกร้องเงินค่าที่ดินคืนจากผู้ขายหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกร้องหนี้จากสัญญาซื้อขายที่ดินหลังการล้มละลาย และผลของการไม่คัดค้านต่อศาล
กรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการไม่ยอมรับสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินระหว่างลูกหนี้ผู้ล้มละลายกับผู้ขายตามอำนาจในมาตรา 122 และดำเนินการเรียกร้องเงินค่าที่ดินที่ผู้ขายได้รับไว้จากลูกหนี้คือตามอำนาจในมาตรา 119 เมื่อดำเนินการมาจนถึงขั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือยืนยันหนี้ให้ผู้ขายคืนเงินค่าที่ดินและแจ้งให้ผู้ขายร้องคัดค้านต่อศาลภายในกำหนดเวลาสิบสี่วันแต่ผู้ขายมิได้ร้องคัดค้านต่อศาลแต่อย่างใด ดังนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำขอต่อศาลขอให้บังคับผู้ขายชำระหนี้เงินค่าที่ดินดังกล่าว ศาลก็ต้องมีคำสั่งบังคับไปตามคำขอ ไม่มีปัญหาที่ศาลจะต้องวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีสิทธิเรียกร้องเงินค่าที่ดินคืนจากผู้ขายหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1289/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความหลังศาลพิพากษาตามยอม ถือเป็นสิทธิและหน้าที่ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลายไม่อาจปฏิเสธได้
จำเลยถูกผู้ร้องฟ้องคดีแพ่งเรื่องผิดสัญญาซื้อขายที่ดินคดีนั้นจำเลยกับผู้ร้องได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันไว้ว่า จำเลยจะออกโฉนดที่พิพาทแล้วโอนให้ผู้ร้อง โดยผู้ร้องจะต้องชำระราคาที่ดินอีก 10,000 บาทให้จำเลย ต่อมาจำเลยถูกสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และที่ดินมีราคาสูงขึ้นเป็น 100,000 บาท เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ไม่อาจอ้างอำนาจตามมาตรา 122 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2485 มาบอกปัดความผูกพันตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวเพราะสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้ร้องชำระราคาที่ดินอีก 10,000 บาทนั้น มิใช่สิทธิตามสัญญาโดยแท้ แต่เป็นสิทธิตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว ถือได้ว่าเป็นสิทธิตามคำพิพากษานั่นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1289/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลพิพากษาตามยอมมีสถานะเป็นคำพิพากษา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจยกเว้นการปฏิบัติตามได้
จำเลยถูกผู้ร้องฟ้องคดีแพ่งเรื่องผิดสัญญาซื้อขายที่ดินคดีนั้นจำเลยกับผู้ร้องได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันไว้ว่า จำเลยจะออกโฉนดที่พิพาทแล้วโอนให้ผู้ร้อง โดยผู้ร้องจะต้องชำระราคาที่ดินอีก 10,000 บาทให้จำเลย ต่อมาจำเลยถูกสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และที่ดินมีราคาสูงขึ้นเป็น 100,000 บาทเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ไม่อาจอ้างอำนาจตามมาตรา 122 วรรคแรกแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2485 มาบอกปัดความผูกพันตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวเพราะสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้ร้องชำระราคาที่ดินอีก 10,000 บาท นั้นมิใช่สิทธิตามสัญญาโดยแท้ แต่เป็นสิทธิตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว ถือได้ว่าเป็นสิทธิตามคำพิพากษานั่นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกลูกหนี้ล้มละลาย และการใช้เอกสารประกอบการพิจารณาคดี
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ไม่ใช้บังคับถึงวิธีการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกลูกหนี้ของผู้ล้มละลายให้ชำระหนี้ให้แก่กองทรัพย์สินของผู้ล้มละลาย ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 119 มาตรา 119 ได้กำหนดวิธีการให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กระทำเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายล้มละลาย โดยเฉพาะเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลในการสอบสวนหนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการไปตามอำนาจและหน้าที่ที่มีอยู่ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังมิได้มีฐานะเป็นคู่ความในคดีดังเช่นที่บัญญัติไว้ในมาตรา 89ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ดังนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีหน้าที่อ้างเอกสารหมาย ร.ค.1 และ ร.ค.4 มาประกอบคำกล่าวอ้างของตน และซักค้าน ผู้ร้องซึ่งเป็นลูกหนี้ของผู้ล้มละลายและถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกร้องให้ชำระหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกลูกหนี้ - ไม่ผูกพันด้วยวิธีพิจารณาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ไม่ใช้บังคับถึงวิธีการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกลูกหนี้ของผู้ล้มละลายให้ชำระหนี้ให้แก่กองทรัพย์สินของผู้ล้มละลาย ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 119 มาตรา 119 ได้กำหนดวิธีการให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กระทำเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายล้มละลายโดยเฉพาะเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลในการสอบสวนหนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการไปตามอำนาจและหน้าที่ที่มีอยู่ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังมิได้มีฐานะเป็นคู่ความในคดีดังเช่นที่บัญญัติไว้ในมาตรา 89 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ดังนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีหน้าที่อ้างเอกสารหมาย ร.ค.1 และ ร.ค.4 มาประกอบคำกล่าวอ้างของตน และซักค้านผู้ร้องซึ่งเป็นลูกหนี้ของผู้ล้มละลายและถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกร้องให้ชำระหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีล้มละลายและการจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ สิทธิในการร้องคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลในกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ผู้ร้องชำระเงินที่ผู้ร้องเป็นลูกหนี้จำเลยผู้ล้มละลาย ฉะนั้น การที่ผู้ร้องและทนายตลอดจนพยานไม่มาศาลตามวันเวลาที่นัดไต่สวน โดยมิได้ขอเลื่อนหรือแจ้งเหตุให้ศาลทราบ ถือได้ว่าเป็นการขาดนัด และในกรณีเช่นนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป ศาลก็ต้องสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 ผู้ร้องมีทางดำเนินคดีต่อไปได้เพียงประการเดียว คือการร้องเริ่มต้นคดีใหม่ ซึ่งจะต้องอยู่ในบังคับแพ่งอายุความหรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนั้น การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนใหม่เกินกำหนดเวลา 14 วันนับจากที่ผู้ร้องทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ชำระหนี้ จึงเป็นการไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย
ในกรณีที่ผู้ร้องขาดนัดพิจารณา และศาลสั่งให้จำหน่ายคดีของผู้ร้องไปนั้น ถือได้ว่าเป็นการละทิ้งคดี จึงไม่เป็ฯเหตุให้กำหนดระยะเวลาที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สะดุดหยุดลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีล้มละลาย และผลกระทบต่อการคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลในกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ผู้ร้องชำระเงินที่ผู้ร้องเป็นลูกหนี้จำเลยผู้ล้มละลาย. ฉะนั้น การที่ผู้ร้องและทนายตลอดจนพยานไม่มาศาลตามวันเวลาที่นัดไต่สวน โดยมิได้ขอเลื่อนหรือแจ้งเหตุให้ศาลทราบ. ถือได้ว่าเป็นการขาดนัด. และในกรณีเช่นนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป. ศาลก็ต้องสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201.ผู้ร้องมีทางดำเนินคดีต่อไปได้เพียงประการเดียว คือการร้องเริ่มต้นคดีใหม่ ซึ่งจะต้องอยู่ในบังคับแห่งอายุความหรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้. ดังนั้น การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนใหม่เกินกำหนดเวลา 14 วันนับจากที่ผู้ร้องทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ชำระหนี้. จึงเป็นการไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย.
ในกรณีที่ผู้ร้องขาดนัดพิจารณา และศาลสั่งให้จำหน่ายคดีของผู้ร้องไปนั้น. ถือได้ว่าเป็นการละทิ้งคดี. จึงไม่เป็นเหตุให้กำหนดระยะเวลาที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สะดุดหยุดลง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินหลังล้มละลาย: การโต้แย้งสิทธิระหว่างเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กับผู้ซื้อเดิม และค่าธรรมเนียมศาล
คำร้องขอของผู้ร้องซึ่งยื่นต่อศาลคัดค้านการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จำเลยในคดีล้มละลาย อ้างเหตุว่า ที่พิพาทที่ถูกยึดเป็นของผู้ร้องซึ่งได้ซื้อมาจากจำเลยและได้ครอบครองตลอดมานั้น มีประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยว่า ผู้ร้องได้สิทธิครอบครองที่พิพาท เพราะจำเลยสละการครอบครองให้ผู้ร้องแล้ว
การที่ผู้ร้องร้องคัดค้านการยึดทรัพย์ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานพิทักษ์สั่งไม่ให้ถอนการยึด ผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องต่อศาลนั้น ถือได้ว่ามีการโต้แย้งสิทธิกันระหว่างเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กับผู้ร้อง ซึ่งศาลต้องดำเนินการพิจารณาและมีคำสั่งชี้ขาดเหมือนอย่างคดีธรรมดา ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 158 ดังนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งเป็นคู่ความจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการยื่นฟ้องอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่พิพาทในคดีล้มละลาย: การโต้แย้งสิทธิระหว่างเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กับผู้ร้อง และค่าธรรมเนียมศาล
คำร้องขอของผู้ร้องซึ่งยื่นต่อศาลคัดค้านการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จำเลยในคดีล้มละลาย. อ้างเหตุว่าที่พิพาทที่ถูกยึดเป็นของผู้ร้องซึ่งได้ซื้อมาจากจำเลยและได้ครอบครองตลอดมานั้น. มีประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยว่า ผู้ร้องได้สิทธิครอบครองที่พิพาท เพราะจำเลยสละการครอบครองให้ผู้ร้องแล้ว.
การที่ผู้ร้องร้องคัดค้านการยึดทรัพย์ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์.และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึด. ผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องต่อศาลนั้น ถือได้ว่ามีการโต้แย้งสิทธิกันระหว่างเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กับผู้ร้อง ซึ่งศาลต้องดำเนินการพิจารณาและมีคำสั่งชี้ขาดเหมือนอย่างคดีธรรมดา. ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 158. ดังนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งเป็นคู่ความจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการยื่นฟ้องอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 149.
of 36