คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เหตุสุดวิสัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 516 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3360/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการขับรถประมาท: ผู้ขับขี่มีหน้าที่ตรวจสภาพรถและขับขี่ปลอดภัย แม้ไฟหน้าดับก็ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย
จำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์โดยสารมาด้วยความเร็วสูง เมื่อขับขี่เข้าทางโค้งก็ไม่ชะลอความเร็วลง รถจึงเสียการทรงตัวแล่นออกนอกเส้นทางพลิกคว่ำตกข้างถนน ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์โดยประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งโดยสารมาในรถได้รับบาดเจ็บและแม้ไฟหน้าส่องทางรถดับมืดลงก่อนเกิดเหตุเนื่องจากไฟลัดวงจรก็ตาม ก็หาเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ผู้ขับขี่ที่จะต้องตรวจตราระมัดระวังให้รถอยู่ในสภาพเรียบร้อยและขับขี่ด้วยความปลอดภัย จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ทำละเมิดต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3360/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการขับรถประมาท แม้ไฟดับก็ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ผู้ขับขี่ต้องตรวจสภาพรถและขับขี่ปลอดภัย
จำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์โดยสารมาด้วยความเร็วสูง เมื่อขับขี่เข้าทางโค้งก็ไม่ชะลอความเร็วลง รถจึงเสียการทรงตัวแล่นออกนอกเส้นทางพลิกคว่ำตกข้างถนน ถือได้ว่าจำเลยที่ 1ขับขี่รถยนต์โดยประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งโดยสารมาในรถได้รับบาดเจ็บและแม้ไฟหน้าส่องทางของรถดับมืดลงก่อนเกิดเหตุเนื่องจากไฟลัดวงจรก็ตาม ก็หาเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ผู้ขับขี่ที่ต้องตรวจตราระมัดระวังให้รถอยู่ในสภาพเรียบร้อยและขับขี่ด้วยความปลอดภัย จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ทำละเมิดต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2999/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัย-ขยายเวลาคำขอรับชำระหนี้: ชื่อจำเลยเปลี่ยนแปลง-ผู้ร้องไม่ทราบ
การที่จำเลยติดต่อทางธุรกิจกับผู้ร้องซึ่งเป็นนิติบุคคลโดยใช้ชื่อว่า นายศุกร์สันต์ เตชะธาดากุล ตลอดมา และชื่อนี้จำเลยได้เปลี่ยนมาจากชื่อเดิมว่านายฉ่งคี้ แซ่แต้ เมื่อประมาณ 20 ปี มาแล้ว จึงเป็นการยากที่ผู้ร้องจะรู้จักชื่อเดิมของจำเลยได้ดังนั้น คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ก็ดี การโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ก็ดีที่ได้กระทำในชื่อของจำเลยว่านายฉ่งคี้ แซ่แต้ แต่เพียงชื่อเดียวผู้ร้องย่อมไม่อาจทราบได้ว่านายศุกร์สันต์ ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์นั้นแล้วถือว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนด 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดได้ และถือว่าเป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำขอขยายระยะเวลาหลังจากสิ้นระยะเวลาแล้วได้ แต่ผู้ร้องจะต้องยื่นคำขอขยายระยะเวลาเสียภายในเวลาอันสมควรที่ผู้ร้องอาจยื่นได้หลังจากที่ทราบเรื่องจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว การที่ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้หลังจากทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดแล้วหลายเดือน โดยมิได้ขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 ก่อนแล้วจึงมาขอขยายระยะเวลา ผู้ร้องย่อมไม่อาจขอให้ขยายระยะเวลาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2999/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลาคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย เหตุสุดวิสัยและเจตนาประมาทเลินเล่อ
การที่จำเลยติดต่อทางธุรกิจกับผู้ร้องซึ่งเป็นนิติบุคคลโดยใช้ชื่อว่า นายศุกร์สันต์เตชะธาดากุล ตลอดมา และชื่อนี้จำเลยได้เปลี่ยนมาจากชื่อเดิมว่านายฉ่งคี้แซ่แต้ เมื่อประมาณ20 ปี มาแล้ว จึงเป็นการยากที่ผู้ร้องจะรู้จักชื่อเดิมของจำเลยได้ดังนั้น คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ก็ดี การโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ก็ดีที่ได้กระทำในชื่อของจำเลยว่านายฉ่งคี้แซ่แต้ แต่เพียงชื่อเดียวผู้ร้องย่อมไม่อาจทราบได้ว่านายศุกร์สันต์ ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์นั้นแล้วถือว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนด 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดได้ และถือว่าเป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำขอขยายระยะเวลาหลังจากสิ้นระยะเวลาแล้วได้ แต่ผู้ร้องจะต้องยื่นคำขอขยายระยะเวลาเสียภายในเวลาอันสมควรที่ผู้ร้องอาจยื่นได้หลังจากที่ทราบเรื่องจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว การที่ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้หลังจากทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดแล้วหลายเดือน โดยมิได้ขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 ก่อนแล้วจึงมาขอขยายระยะเวลา ผู้ร้องย่อมไม่อาจขอให้ขยายระยะเวลาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่เมื่อจำเลยไม่ทราบเรื่องฟ้องคดีโดยความผิดของโจทก์ และเหตุสุดวิสัยในการยื่นคำขอ
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่อ้างว่า จำเลยย้ายจากภูมิลำเนาตามฟ้องไปอยู่ที่อื่นก่อนฟ้อง 3 ปีเศษแล้ว ซึ่งโจทก์อาจสืบทราบภูมิลำเนาใหม่ของจำเลยได้โดยง่าย แต่โจทก์ได้ขอให้ศาลส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยทราบโดยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์และส่งคำบังคับโดยปิดประกาศหน้าศาลจึงเป็นการไม่ชอบ จำเลยเพิ่งทราบว่าถูกฟ้องและศาลออกคำบังคับโดยมีผู้แจ้งให้จำเลยทราบและจำเลยไปตรวจดูสำนวนที่ศาล ถือได้ว่าจำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ภายในสิบห้าวันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ และพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้นี้สิ้นสุดลงเมื่อจำเลยทราบว่าถูกฟ้อง จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้นี้สิ้นสุดลง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำให้การหลังวันชี้สองสถาน และการยกเว้นความรับผิดจากเหตุสุดวิสัยในสัญญาซื้อขาย
จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การในวันชี้สองสถาน และข้อที่ขอแก้ไขก็เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดแจ้งในคำให้การแต่แรกอยู่แล้ว จึงเป็นคำร้องที่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180 (2) ชอบที่จะยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอ้างเหตุส่งมอบดินขาวให้โจทก์ตามสัญญาไม่ได้เพราะมีโจรแบ่งแยกดินแดนข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจากโรงงานที่ผลิตดินขาวของจำเลยจนคนงานไม่กล้าเข้าไปทำงาน ดังนี้ เมื่อตามสัญญามิได้เจาะจงให้ส่งมอบดินขาวจากแหล่งผลิตของโรงงานจำเลย จำเลยจึงย่อมจัดหาดินขาวจากแหล่งอื่นได้ ดินขาวมิใช่เป็นทรัพย์เฉพาะสิ่ง จำเลยจะอ้างว่าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยและปฏิเสธความรับผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การนอกกรอบเวลา และการอ้างเหตุสุดวิสัยเพื่อเลี่ยงความรับผิดในสัญญาซื้อขาย
จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การในวันชี้สองสถาน และข้อที่ขอแก้ไขก็เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดแจ้งในคำให้การแต่แรกอยู่แล้วจึงเป็นคำร้องที่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180(2) ชอบที่จะยกคำร้องของจำเลย จำเลยอ้างเหตุส่งมอบดินขาวให้โจทก์ตามสัญญาไม่ได้เพราะมีโจรแบ่งแยกดินแดนข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจากโรงงานที่ผลิตดินขาวของจำเลยจนคนงานไม่กล้าเข้าไปทำงาน ดังนี้ เมื่อตามสัญญามิได้เจาะจงให้ส่งมอบดินขาวจากแหล่งผลิตของโรงงานจำเลย จำเลยจึงย่อมจัดหาดินขาวจากแหล่งอื่นได้ ดินขาวมิใช่เป็นทรัพย์เฉพาะสิ่งจำเลยจะอ้างว่าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยและปฏิเสธความรับผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำให้การนอกระยะเวลา และการอ้างเหตุสุดวิสัยเพื่อเลี่ยงหนี้สัญญาซื้อขาย
จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การในวันชี้สองสถาน และข้อที่ขอแก้ไขก็เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดแจ้งในคำให้การแต่แรกอยู่แล้ว จึงเป็นคำร้องที่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180(2) ชอบที่จะยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอ้างเหตุส่งมอบดินขาวให้โจทก์ตามสัญญาไม่ได้เพราะมีโจรแบ่งแยกดินแดนข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจากโรงงานที่ผลิตดินขาวของจำเลยจนคนงานไม่กล้าเข้าไปทำงาน ดังนี้ เมื่อตามสัญญามิได้เจาะจงให้ส่งมอบดินขาวจากแหล่งผลิตของโรงงานจำเลย จำเลยจึงย่อมจัดหาดินขาวจากแหล่งอื่นได้ ดินขาวมิใช่เป็นทรัพย์เฉพาะสิ่ง จำเลยจะอ้างว่าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยและปฏิเสธความรับผิดไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัย: น้ำท่วมฉับพลัน vs. ระดับน้ำสูงตามฤดูกาล และผลกระทบต่อสัญญา
เหตุสุดวิสัยหมายถึงเหตุใด ๆ อันจะเกิดขึ้นและให้ผลพิบัติโดยไม่มีใครอาจจะป้องกันได้ การที่น้ำป่าพัดสะพานพัง ถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยแต่กรณีระดับน้ำในแม่น้ำเมยสูงขึ้นเป็นสิ่งที่เป็นไปโดยปกติตามฤดูกาล โดยระดับน้ำในหน้าฝนจะสูงขึ้นเช่นนี้ทุกปี ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัย: น้ำท่วม-น้ำป่า พังสะพาน-น้ำในแม่น้ำสูงขึ้น พิจารณาตามสภาพการณ์และฤดูกาล
เหตุสุดวิสัยหมายถึงเหตุใด ๆ อันจะเกิดขึ้นและให้ผลพิบัติโดยไม่มีใครอาจจะป้องกันได้ การที่น้ำป่าพัดสะพานพัง ถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย แต่กรณีระดับน้ำในแม่น้ำเมยสูงขึ้นเป็นสิ่งที่เป็นไปโดยปกติตามฤดูกาล โดยระดับน้ำในหน้าฝนจะสูงขึ้นเช่นนี้ ทุกปี ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย
of 52