คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โอนกรรมสิทธิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 556 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนแล้ว สัญญาเช่าซื้อมีผลผูกพัน แม้ทำสัญญาขณะยังเป็นของผู้อื่น
จำเลยนำรถยนต์ที่จำเลยเช่าซื้อและค้างชำระค่าเช่าซื้ออยู่มาเสนอขายให้โจทก์ โดยให้โจทก์ชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างแทนและชำระเงินอีกจำนวนหนึ่งให้จำเลย แล้วจำเลยจะโอนกรรมสิทธิ์ให้และเช่าซื้อรถยนต์คันนั้นจากโจทก์ โจทก์ตกลงและได้ให้จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ดังกล่าวไว้ เมื่อโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อทั้งหมดที่ค้างอยู่แทนจำเลย และชำระเงินให้ตามข้อตกลงแล้วเช่นนี้ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นย่อมตกเป็นของโจทก์ จำเลยต้องผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อกับโจทก์จำเลยจะอ้างว่าขณะทำสัญญาเช่าซื้อโจทก์มิใช่เจ้าของรถยนต์ดังกล่าวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3249/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่มีเงื่อนเวลาเริ่มต้นและผลของการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้รับโอนต้องผูกพันตามสัญญาเดิม
การที่จำเลยทำสัญญาเช่าที่พิพาทจากเจ้าของเดิมเมื่อวันที่4 มีนาคม 2508 มีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2525 เป็นต้นไป นั้นถือว่าเป็นสัญญาเช่าที่มีเงื่อนเวลาเริ่มต้นเมื่อได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ แม้โจทก์รับโอนที่พิพาทมาก่อนถึงกำหนดวันเริ่มต้นแห่งสัญญาเช่าก็ต้องรับมาทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนที่มีต่อผู้เช่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 569.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2759/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในค่าภาษีโรงเรือนของผู้ขายและผู้ซื้อเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ และขอบเขตความรับผิดของลูกหนี้ร่วม
จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารพิพาทเดิมค้างชำระค่าภาษีโรงเรือนต่อโจทก์ก่อนโอนขายให้จำเลยที่ 3จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารพิพาทต้องร่วมรับผิดในค่าภาษีโรงเรือนที่ค้างด้วยในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วม โดยผลแห่งพระราชบัญญัติ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 มาตรา 45 การที่จำเลยที่ 3 ต้องรับผิดในค่าภาษีโรงเรือนที่ค้างชำระมาตั้งแต่จำเลยที่ 4 เป็นเจ้าของ ไม่ใช่เรื่องที่ทรัพย์สินที่ซื้อขายตกอยู่ในบังคับแห่งสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งเป็นเหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมประโยชน์อันจะพึงได้แต่ทรัพย์สินนั้นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 479 ศาลจึงจะพิพากษาให้จำเลยที่ 4 รับผิดในค่าภาษีโรงเรือนที่ค้างชำระนั้นต่อจำเลยที่ 3 ให้เสร็จไปในคดีเดียวกันตามมาตรา 477 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2759/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในค่าภาษีโรงเรือนของผู้ขายและผู้ซื้อเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงการรอนสิทธิ์จากทรัพย์สิน
จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารพิพาทเดิมค้างชำระค่าภาษีโรงเรือนต่อโจทก์ก่อนโอนขายให้จำเลยที่ 3จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารพิพาทต้องร่วมรับผิดในค่าภาษีโรงเรือนที่ค้างด้วยในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วม โดยผลแห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินพุทธศักราช 2475 มาตรา 45
การที่จำเลยที่ 3 ต้องรับผิดในค่าภาษีโรงเรือนที่ค้างชำระมาตั้งแต่จำเลยที่ 4 เป็นเจ้าของ ไม่ใช่เรื่องที่ทรัพย์สินที่ซื้อขายตกอยู่ในบังคับแห่งสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งเป็นเหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมประโยชน์อันจะพึงได้แต่ทรัพย์สินนั้นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 479 ศาลจึงจะพิพากษาให้จำเลยที่ 4 รับผิดในค่าภาษีโรงเรือนที่ค้างชำระนั้นต่อจำเลยที่ 3 ให้เสร็จไปในคดีเดียวกันตามมาตรา 477 ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2704/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้รับจำนองเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยจำนอง สิทธิยังคงมีอยู่ตามกฎหมาย
จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างย่อมมีสิทธิจำหน่ายทรัพย์สินดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1336 เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างรายนี้แก่โจทก์ และได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งมอบโฉนดที่ดินนั้นเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา เสร็จแล้วจะส่งคืนให้ผู้ร้องยึดถือไว้ต่อไป เช่นนี้ผู้ร้องซึ่งได้ยึดถือโฉนดที่ดินไว้ในฐานะผู้รับจำนองจะปฏิเสธไม่ยอมส่งมอบโดยอ้างสิทธิยึดหน่วงโฉนดที่ดินนั้นไว้หาได้ไม่ทั้งนี้เพราะศาลเพียงแต่มีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งมอบโฉนดที่ดินเป็นการชั่วคราวเท่านั้น หาใช่จะเอาโฉนดที่ดินนั้นไปจากการยึดถือครอบครองของผู้ร้องเสียเลยทีเดียวไม่ แม้ที่ดินดังกล่าวจะโอนกรรมสิทธิ์ไปยังโจทก์ สิทธิของผู้ร้องในฐานะผู้รับจำนองก็คงยังมีอยู่ตามเดิม ส่วนวิธีการที่จะบังคับจำนองเอากับที่ดินแปลงนี้ย่อมเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่สิทธิของผู้ร้องแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2704/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำนองคงอยู่แม้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ผู้รับจำนองไม่เสียสิทธิบังคับจำนอง
จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างย่อมมีสิทธิจำหน่ายทรัพย์สินดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างรายนี้แก่โจทก์ และได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งมอบโฉนดที่ดินนั้นเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา เสร็จแล้วจะส่งคืนให้ผู้ร้องยึดถือไว้ต่อไปเช่นนี้ ผู้ร้องซึ่งได้ยึดถือโฉนดที่ดินไว้ในฐานะผู้รับจำนองจะปฏิเสธไม่ยอมส่งมอบโดยอ้างสิทธิยึดหน่วงโฉนดที่ดินนั้นไว้หาได้ไม่ ทั้งนี้เพราะศาลเพียงแต่มีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งมอบโฉนดที่ดินเป็นการชั่วคราวเท่านั้น หาใช่จะเอาโฉนดที่ดินนั้นไปจากการยึดถือครอบครองของผู้ร้องเสียเลยทีเดียวไม่
แม้ที่ดินดังกล่าวจะโอนกรรมสิทธิ์ไปยังโจทก์ สิทธิของผู้ร้องในฐานะผู้รับจำนองก็คงยังมีอยู่ตามเดิม ส่วนวิธีการที่จะบังคับจำนองเอากับที่ดินแปลงนี้ย่อมเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่สิทธิของผู้ร้องแต่อย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4176/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากหนังสือมอบอำนาจปลอม และผลกระทบต่อการขายฝาก
จำเลยที่ 1 ใช้ใบมอบอำนาจของ อ. ซึ่งเป็นใบมอบอำนาจปลอมโอนขายที่ดินของ อ.ให้จำเลยที่2โดยอ. มิได้รู้เห็นยินยอม แล้วจำเลยที่ 2 นำที่ดินไปขายฝากแก่จำเลยที่ 3 ดังนี้ จำเลยที่ 2 ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและย่อมไม่มีอำนาจที่จะนำไปขายฝากแก่จำเลยที่ 3 ได้ โจทก์ซึ่งเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของ อ. จึงมีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นกลับคืนมาเป็นของ อ. ตามเดิมได้
โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง ขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินซึ่งตั้งอยู่ในเขตศาลจังหวัดนครปฐม การที่ศาลแพ่งรับฟ้องรับคำให้การ ตลอดจนสืบพยานจนเสร็จการพิจารณาย่อมแสดงว่าศาลแพ่งยอมรับพิจารณาคดีนี้ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14(4) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4164/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องค่าเสียหายจากการจำนองที่ดินเช่าซื้อ แม้คดีเดิมเป็นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ ไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
คดีเดิม โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยโอนที่ดินให้ตามสัญญาเช่าซื้อ ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วยเหตุที่จำเลยนำที่ดินดังกล่าวไปจำนองไว้กับธนาคารแล้วไม่ไถ่จำนองจนในที่สุดมีการบังคับจำนองทำให้ไม่อาจโอนที่ดินนั้นให้โจทก์ได้ มิได้ฟ้องโดยอาศัยข้อผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อ ประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยในคดีนี้จึงเป็นคนละประเด็นกับในคดีที่ได้เคยฟ้องร้องกันมาแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3585/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการโอนกรรมสิทธิ์: แม้ยังมิได้จดทะเบียน แต่สิทธิในทรัพย์สินได้เปลี่ยนมือไปแล้วเมื่อมีสัญญาประนีประนอมยอมความ
จำเลยปลูกบ้านในที่ดินซึ่งผู้ร้องเช่ามาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เมื่อปี พ.ศ. 2512 โดยมีข้อสัญญาว่า เมื่อครบกำหนด 13 ปี จำเลยจะโอนกรรมสิทธิ์บ้านพิพาทให้แก่ผู้ร้อง ต่อมาก่อนครบกำหนดผู้ร้องและจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันยกกรรมสิทธิ์บ้านพิพาทให้แก่ผู้ร้องตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2525 ข้อตกลงนี้ แม้ยังไม่จดทะเบียนโอนก็ไม่ทำให้บ้านพิพาทยังเป็นของจำเลยอยู่ เพราะที่ดินเป็นสิทธิของผู้ร้องตามสัญญาเช่า ดังนั้น โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยอีกคดีหนึ่ง จะนำยึดบ้านพิพาทเพื่อบังคับคดีหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3585/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการโอนกรรมสิทธิ์: แม้ยังมิได้จดทะเบียน แต่การยกกรรมสิทธิ์ตามสัญญาประนีประนอมทำให้อายุความสิ้นสุดลง
จำเลยปลูกบ้านในที่ดินซึ่งผู้ร้องเช่ามาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เมื่อปี พ.ศ. 2512 โดยมีข้อสัญญาว่าเมื่อครบกำหนด 13 ปีจำเลยจะโอนกรรมสิทธิ์บ้านพิพาทให้แก่ผู้ร้อง ต่อมาก่อนครบกำหนดผู้ร้องและจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันยกกรรมสิทธิ์บ้านพิพาทให้แก่ผู้ร้องตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2525 ข้อตกลงนี้ แม้ยังไม่จดทะเบียนโอนก็ไม่ทำให้บ้านพิพาทยังเป็นของจำเลยอยู่ เพราะที่ดินเป็นสิทธิของผู้ร้องตามสัญญาเช่า ดังนั้น โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยอีกคดีหนึ่ง จะนำยึดบ้านพิพาทเพื่อบังคับคดีหาได้ไม่.
of 56