คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่สมบูรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 391 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงพาผู้เยาว์ไปกระทำชำเราและการยอมความที่ไม่สมบูรณ์
จำเลยหลอกลวงผู้เยาว์อายุ 16 ปี ว่าคู่รักต้องการพบผู้เยาว์หลงเชื่อตามจำเลยไปแล้วถูกจำเลยข่มขืนกระทำชำเรากับหน่วงเหนี่ยวกักขัง โจทก์และภริยาเป็นบิดามารดาของผู้เยาว์รับขมาด้วยเงิน 2,000 บาทโดยยังไม่ได้ตกลงกันเกี่ยวกับความผิดในทางอาญาและยอมรับขมาเพื่อให้ได้ตัวผู้เสียหายกลับคืนมาและเพื่อล้างอายกับเข้าใจว่าบุตรของตนตามเขาไปดังนี้ เป็นเรื่องตกลงกันในทางแพ่ง ไม่เกี่ยวกับความผิดในทางอาญา จึงถือไม่ได้ว่ามีการยอมความกันถูกต้องตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
จำเลยหลอกลวงผู้เยาว์ว่า คู่รักของผู้เยาว์มาคอยพบจะถือว่าผู้เยาว์เต็มใจไปกับจำเลยหาได้ไม่
จำเลยหลอกลวงพาผู้เยาว์ไปบังคับขู่เข็ญกระทำชำเรา มิใช่พาไปในฐานชู้สาว จึงเป็นการพรากไปเพื่อการอนาจาร
พรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจผิดตามมาตรา 318 วรรคท้าย เป็นบทหนักกว่ามาตรา 319 ซึ่งศาลอุทธรณ์ปรับมา แต่โจทก์มิได้ฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาจะพิพากษาให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้เรื่องเจตนาในการทำสัญญา และผลของการกรอกข้อความในสัญญาเกินจริง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ จำเลยให้การว่าไม่ได้กู้ ความจริงโจทก์ให้เงินจำเลยไปหากำไรทางดอกเบี้ยซึ่งโจทก์ได้ให้จำเลยที่ 1 ลงชื่อในแบบพิมพ์สัญญากู้ ให้จำเลยที่ 2 ลงชื่อในช่องผู้ค้ำประกันด้านหลังโดยยังไม่ได้กรอกข้อความและวันเดือนปีหรือลงจำนวนเงินในสัญญากู้นั้นเลย โจทก์สมคบกับพยานและผู้เขียนกรอกข้อความและจำนวนปลอมขึ้น ดังนี้ การที่จำเลยนำสืบตามข้อต่อสู้นี้ ไม่ถือว่าจำเลยนำสืบเจตนาเป็นอย่างอื่น แต่เป็นการนำสืบถึงมูลเหตุแห่งสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันนั้นว่าไม่สมบูรณ์ จำเลยย่อมมีสิทธินำสืบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย
การที่โจทก์มากรอกข้อความลงในสัญญากู้และค้ำประกันในจำนวนเงินเกินว่าจำนวนหนี้ที่เป็นจริง โดยจำเลยมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย สัญญากู้และค้ำประกันดังกล่าวจึงไม่สมบูรณ์ จำเลยไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ว่าสัญญากู้ไม่สมบูรณ์จากข้อตกลงที่ไม่ชัดเจนและการกรอกข้อความเกินจริง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ จำเลยให้การว่าไม่ได้กู้ ความจริงโจทก์ให้เงินจำเลยไปหากำไรทางดอกเบี้ยซึ่งโจทก์ได้ให้จำเลยที่ 1 ลงชื่อในแบบพิมพ์สัญญากู้ ให้จำเลยที่ 2 ลงชื่อในช่องผู้ค้ำประกันด้านหลังโดยยังไม่ได้กรอกข้อความและวันเดือนปีหรือลงจำนวนเงินในสัญญากู้นั้นเลย โจทก์สมคบกับพยานและผู้เขียนกรอกข้อความและจำนวนเงินปลอมขึ้นดังนี้ การที่จำเลยสืบตามข้อต่อสู้นี้ไม่ถือว่าจำเลยนำสืบเจตนาเป็นอย่างอื่น แต่เป็นการนำสืบถึงมูลเหตุแห่งสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันนั้นว่าไม่สมบูรณ์ จำเลยย่อมมีสิทธินำสืบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย
การที่โจทก์มากรอกข้อความลงในสัญญากู้และค้ำประกันในจำนวนเงินเกินกว่าจำนวนหนี้ที่เป็นจริง โดยจำเลยมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย สัญญากู้และค้ำประกันดังกล่าวจึงไม่สมบูรณ์ จำเลยไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์สินจากการยืมเงินเพื่อปลูกสร้าง: การโอนสิทธิยังไม่สมบูรณ์แบบ
จำเลยดำเนินการปลูกสร้างแต่ยังไม่สำเร็จบริบูรณ์เพราะขาดเงิน จำเลยจึงยืมเงินผู้ร้องโดยมีข้อตกลงว่าจำเลยจะทำการปลูกสร้างต่อไปให้แล้วเสร็จ ตึกแถวที่ปลูกสร้างนี้จำเลยจะเป็นผู้จัดหาผู้เช่าเข้ามาเช่าโดยตกลงทำสัญญากับผู้ร้องแต่ละห้อง และเจ้าของที่ดินได้ให้ความยินยอมด้วย จำเลยกับผู้ร้องยังได้ตกลงกันอีกว่า ถ้าจำเลยชำระเงินที่ยืมคืนเมื่อใด ผู้ร้องจะโอนสิทธิในการปลูกสร้าง รวมทั้งสิทธิให้เช่าตึกแถวแก่จำเลยทันที ผู้ร้องยังรับรองต่อไปด้วยว่า ถ้าจำเลยสร้างไม่เสร็จ ผู้ร้องจะเป็นผู้สร้างและออกทุนเองแทนจำเลย ปรากฏว่าจำเลยสร้างไม่เสร็จ ผู้ร้องจึงต้องปลูกสร้างต่อจนเสร็จ ข้อตกลงดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ร้องคงมีสิทธิเพียงเป็นผู้ทำการปลูกสร้างต่อไป รวมทั้งสิทธิที่จะทำสัญญาเช่ากับผู้เช่าที่จำเลยจัดหามาเท่านั้น ส่วนกรรมสิทธิ์และสิทธิในการจัดหาคนมาเช่าก็ยังคงเป็นของจำเลยอยู่ตามเดิมและไม่เป็นการโอนสิทธิของจำเลยให้ผู้ร้องโดยเด็ดขาด ผู้ร้องไม่มีอำนาจร้องขัดทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์สินจากการยืมเงินปลูกสร้าง: การโอนสิทธิไม่สมบูรณ์และอำนาจร้องขัดทรัพย์
จำเลยดำเนินการปลูกสร้างแต่ยังไม่สำเร็จบริบูรณ์เพราะขาดเงิน จำเลยจึงยืมเงินผู้ร้องโดยมีข้อตกลงว่า จำเลยจะทำการปลูกสร้างต่อไปให้แล้วเสร็จ ตึกแถวที่ปลูกสร้างนี้จำเลยจะเป็นผู้จัดหาผู้เช่าเข้ามาเช่าโดยตกลงทำสัญญากับผู้ร้องแต่ละห้องและเจ้าของที่ดินได้ให้ความยินยอมด้วยจำเลยกับผู้ร้องยังได้ตกลงกันอีกว่า ถ้าจำเลยชำระเงินที่ยืมคืนเมื่อใด ผู้ร้องจะโอนสิทธิในการปลูกสร้างรวมทั้งสิทธิให้เช่าตึกแถวแก่จำเลยทันที ผู้ร้องยังรับรองต่อไปด้วยว่า ถ้าจำเลยสร้างไม่เสร็จ ผู้ร้องจะเป็นผู้สร้างและออกทุนเองแทนจำเลย ปรากฏว่าจำเลยสร้างไม่เสร็จ ผู้ร้องจึงต้องปลูกสร้างต่อจนเสร็จ ข้อตกลงดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ร้องคงมีสิทธิเพียงเป็นผู้ทำการปลูกสร้างต่อไปรวมทั้งสิทธิที่จะทำสัญญาเช่ากับผู้เช่าที่จำเลยจัดหามาเท่านั้น ส่วนกรรมสิทธิ์และสิทธิในการจัดหาคนมาเช่าก็ยังคงเป็นของจำเลยอยู่ตามเดิม และไม่เป็นการโอนสิทธิของจำเลยให้ผู้ร้องโดยเด็ดขาด ผู้ร้องไม่มีอำนาจร้องขัดทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงลายมือชื่อในฟ้องคดีอาญา: ทนายไม่สามารถลงแทนโจทก์ได้ แม้มีมอบอำนาจ
ทนายความซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นทนายโจทก์และให้มีอำนาจ "ดำเนินกระบวนพิจารณา ประนีประนอมยอมความ ถอนฟ้อง สละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา" ได้ลงลายมือชื่อในฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาแทนโจทก์ เช่นนี้ คำฟ้องคดีส่วนอาญาจึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(7) โจทก์ชอบที่จะขอแก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา 163,164 จะถือว่าการที่โจทก์ได้สาบานตัวเบิกความต่อศาลยืนยันว่าโจทก์เป็นผู้ฟ้องจำเลยและในชั้นอุทธรณ์โจทก์ลงชื่อในท้ายอุทธรณ์นั้น เป็นการให้สัตยาบันว่า โจทก์มอบอำนาจให้ทนายความฟ้องคดีส่วนอาญาแล้วไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต้องมีลายมือชื่อโจทก์เอง แม้มีมอบอำนาจทนายก็ไม่สมบูรณ์
ทนายความซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นทนายโจทก์ และให้มีอำนาจ 'ดำเนินกระบวนพิจารณา ประนีประนอมยอมความ ถอนฟ้องสละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา' ได้ลงลายมือชื่อในฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวกับคดีอาญาแทนโจทก์ เช่นนี้คำฟ้องคดีส่วนอาญาจึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) โจทก์ชอบที่จะขอแก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา 163,164 จะถือว่าการที่โจทก์ได้สาบานตัวเบิกความต่อศาลยืนยันว่าโจทก์เป็นผู้ฟ้องจำเลยและในชั้นอุทธรณ์โจทก์ลงชื่อในท้ายอุทธรณ์นั้น เป็นการให้สัตยาบันว่า โจทก์มอบอำนาจให้ทนายความฟ้องคดีส่วนอาญาแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองและการซื้อขายก่อนกำหนด: สิทธิของเจ้าหนี้และผู้ซื้อเมื่อข้อตกลงไม่สมบูรณ์แต่มีการยินยอม
การที่ผู้จำนองตกลงให้ผู้รับจำนองขายทรัพย์ที่จำนองได้ก่อนหนี้ถึงกำหนดชำระ เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 711 นั้นก็มีผลเพียงไม่สมบูรณ์โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเรียกร้องให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องปฏิบัติตามข้อตกลงไม่ได้เท่านั้น แต่ถ้าผู้รับจำนองเอาทรัพย์นั้นขายให้แก่บุคคลอื่นตามข้อตกลง โดยผู้จำนองรู้เห็นด้วย และมิได้ทักท้วงอย่างใด ทั้งผู้ซื้อก็ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของ โดยสงบและเปิดเผยเป็นเวลา 20 ปีแล้ว ดังนี้ ผู้ซื้อก็ได้กรรมสิทธิ์ ผู้จำนองจะรื้อฟื้นเอาความไม่สมบูรณ์นั้นมาว่ากล่าวขอไถ่ถอนจำนองอีกหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1852/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะให้ของหมั้นยังไม่สมบูรณ์ ไม่ถือเป็นมูลหนี้ที่บังคับได้
จำเลยขอหมั้นน้องสาวโจทก์เพื่อให้แต่งงานกับบุตรจำเลย แต่จำเลยไม่มีเงิน จึงทำสัญญากู้ให้โจทก์ยึดถือไว้และโจทก์จำเลยตกลงกันว่าถ้าจำเลยปลูกเรือนหอ โจทก์จะลดเงินกู้ให้บ้างตามราคาของเรือนหอ ต่อมาจำเลยไม่ปลูกเรือนหอและบุตรจำเลยไม่ยอมแต่งงานกับน้องสาวโจทก์ โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ สัญญากู้ดังกล่าวนี้เป็นเพียงสัญญาจะให้ทรัพย์สินเป็นของหมั้นกันในวันข้างหน้า ยังไม่ได้มีการมอบทรัพย์สินให้แก่กันอย่างแท้จริง เจตนาอันแท้จริงของคู่สัญญาก็มิได้มุ่งต่อการให้ สัญญากู้ตกเป็นของอีกฝ่ายหนึ่งในสภาพของหมั้นและไม่มีความประสงค์ให้ตกเป็นสิทธิแก่หญิงเมื่อสมรสแล้วในกรณีเช่นนี้ถือไม่ได้ว่ามีการให้ของหมั้นกันตามกฎหมาย โจทก์จะฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้หาได้ไม่ เพราะสัญญากู้รายนี้ไม่มีมูลหนี้เดิมอันจะมีผลทำให้โจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1773/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาไม่สมบูรณ์ต้องระบุวันเวลาการกระทำความผิด แม้โจทก์ไม่ทราบวันเวลาที่จำเลยมีเจตนาทุจริตก็ต้องระบุช่วงเวลา
บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2502เวลากลางวัน โจทก์มอบเงินให้จำเลยไปซื้อกระบือมาให้โจทก์ จำเลยรับรองว่าจะซื้อมาให้ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2503 ครั้นถึงกำหนด จำเลยก็มิได้นำกระบือมาให้ ต่อมาวันที่ 10 มิถุนายน 2503 โจทก์จึงทราบว่าจำเลยได้ยักยอกเอาเงินที่โจทก์มอบให้นั้นเสีย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ฟ้องเช่นนี้หาได้กล่าวถึงวันเวลาที่จำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอกเงินนั้นไม่ จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
of 40