คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิขอคืนเงินค่าฤชาธรรมเนียมหลังชนะคดีในชั้นอุทธรณ์ แม้คดีไม่ถึงที่สุด
หากคู่ความซึ่งแพ้คดีในศาลชั้นต้นได้อุทธรณ์และศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ชนะคดีแล้วคู่ความฝ่ายนั้นก็มีสิทธิที่จะทำคำแถลงขอคืนเงินที่วางไว้ต่อศาลเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาลชั้นต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้คดีถึงที่สุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 639/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดขอบเขตการสืบพยานและค่าเสียหาย: เมื่อโจทก์พอใจค่าเสียหายที่ศาลชั้นต้นพิพากษา ศาลไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ฎีกาเพิ่มเติม
ถ้าเดิมโจทก์ฟ้องว่าหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 200,000 บาท แต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียง 10,000 บาท แม้โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาให้ย้อนสำนวนไปสืบเรื่องความเสียหายเกี่ยวกับเกียรติคุณของโจทก์ ส่วนค่าเสียหายโจทก์ไม่เรียกร้องเกินกว่าที่ศาลชั้นต้กำหนดให้และไม่เสียค่าขึ้นศษลในทุนทรัพย์เกินกว่านี้ นั้น ศาลจึงไม่สมควรวินิจฉัยอุทธรณ์และฎีกาของโจทก์ในกรณีเช่นนี้ เพราะถึงอย่างไรเสียก็ไม่ได้ค่าเสียหายเกินกว่าจำนวนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 639/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดขอบเขตการสืบพยานและความเสียหาย: เมื่อโจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม ศาลไม่สมควรวินิจฉัยอุทธรณ์ฎีกา
ถ้าเดิมโจทก์ฟ้องว่าหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 200,000 บาทแต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียง 10,000 บาท แม้โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาให้ย้อนสำนวนไปสืบเรื่องความเสียหายเกี่ยวกับเกียรติคุณของโจทก์ ส่วนค่าเสียหายโจทก์ไม่เรียกร้องเกินกว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้และไม่เสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์เกินกว่านี้ นั้น ศาลจึงไม่สมควรวินิจฉัยอุทธรณ์และฎีกาของโจทก์ในกรณีเช่นนี้ เพราะถึงอย่างไรเสียก็ไม่ได้ค่าเสียหายเกินกว่าจำนวนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373-374/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์จำกัดเฉพาะคดีที่มีการอุทธรณ์ คดีที่ไม่อุทธรณ์ถือเป็นที่สิ้นสุด
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานนำเงินตราออกนอกประเทศโดยมิได้รับอนุญาตสำนวนหนึ่ง และฐานนำคนต่างด้าวออกนอกราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาตอีกสำนวนหนึ่ง และจำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาเฉพาะความผิดสำนวนแรกซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายต่างกับความผิดสำนวนหลังซึ่งจำเลยมิได้อุทธรณ์ คดีที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาจึงเป็นอันเสร็จเด็ดขาดแล้ว ฉะนั้นศาลอุทธรณ์ย่อมไม่มีอำนาจที่จะรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา ถือเป็นคำสั่งถึงที่สุด ห้ามฎีกา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 บัญญัติไว้ชัดว่า ในกรณีที่มีการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งยืนตามหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ก็ดี ให้คำสั่งของศาลอุทธรณ์นั้นเป็นที่สุด
ฉะนั้นในคดีที่จำเลยขาดนัดพิจารณาและศาลชั้นต้นไต่สวนสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ เมื่อโจทก์อุทธรณ์คำสั่งและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์เพราะเห็นว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณานั้น จึงเป็นคำสั่งที่ถึงที่สุด โจทก์จะฎีกาอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลในเรื่องค่าธรรมเนียม
อำนาจเกี่ยวกับการบังคับคดีนั้นเป็นของศาลเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นแต่เพียงเจ้าพนักงานของศาลในการที่จะบังคับคดีเท่านั้น ไม่มีอำนาจจะเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ด้วยประการใด
เรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีในที่สุดก็อยู่ในอำนาจของศาลที่จะสั่งเรียกเก็บหรือไม่เรียก ฉะนั้น การที่ศาลสั่งไม่เรียกเก็บ เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องปฏิบัติตามไม่มีสิทธิจะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลในเรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี (หมายเหตุ ทับฎีกาที่ 1053/2468)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1850/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีและการจำหน่ายคดี: สิทธิในการอุทธรณ์ถูกจำกัดเมื่อจำเลยไม่ติดใจให้ดำเนินคดีต่อ
โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ขาดนัดพิจารณา จำเลยแถลงว่าตนไม่ติดใจจะให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสีย แล้วโจทก์จะมาอ้างว่าไม่ได้จงใจขาดนัดอันจะเป็นเหตุให้ถือว่าขาดนัดพิจารณา ขอให้ศาลไต่สวนและสั่งว่าโจทก์ไม่ได้ขาดนัดพิจารณา แล้วให้ดำเนินคดีต่อไป ดังนี้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1850/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดี: สิทธิอุทธรณ์จำกัดเมื่อจำเลยไม่ติดใจให้พิจารณาต่อไป
โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ขาดนัดพิจารณา จำเลยแถลงว่าตนไม่ติดใจจะให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสีย แล้วโจทก์จะมาอ้างว่าไม่ได้จงใจขาดนัดอันจะเป็นเหตุให้ถือว่าขาดนัดพิจารณา ขอให้ศาลไต่สวนและสั่งว่าโจทก์ไม่ได้ขาดนัดพิจารณา แล้วให้ดำเนินคดีต่อไปดังนี้ หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องรอผลคดีอื่น ไม่เป็นคำสั่งที่อุทธรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้เลื่อนการพิจารณาการไต่สวนมูลฟ้องไว้ก่อนจนกว่าอีกศาลหนึ่งจะได้ชี้ขาดในคดีที่โจทก์ถูกฟ้องถึงที่สุดนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวนต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1621/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการไต่สวนมูลฟ้อง & คำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่รับอุทธรณ์
ในการไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา แม้เมื่อโจทก์แสดงว่าหมดพยานแล้ว ศาลก็มีอำนาจสั่งเรียกพยานหลักฐานมาเองเพื่อประกอบการวินิจฉัยทำคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้ และคำสั่งที่ให้รอคดีเพื่อฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 และถึงแม้ว่าในคำสั่งนั้นศาลจะได้สั่งไว้ด้วยว่าให้จำหน่ายคดีเสียชั่วคราว ถ้าสำนวนคดีที่ศาลสั่งเรียกมาเพื่อประกอบการวินิจฉัยนั้นเสร็จเมื่อใด ก็ให้โจกท์แถลงให้ศาลทราบ เพื่อจะได้ยกคดีที่มีการไต่สวนมูลฟ้องนี้ขึ้นพิจารณาสั่งต่อไป ดังนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นการสั่งจำหน่ายคดีที่ไม่ทำให้ประเด็นแพ่งคดีเสร็จไป โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนี้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2506)
of 349