พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาวางค่าธรรมเนียมอุทธรณ์: เจตนาไม่แท้จริงและขาดความพยายาม
การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้อุทธรณ์ขอให้อนุญาตขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมการอุทธรณ์ตามที่กฎหมายกำหนดบังคับไว้ ก็เพื่อจะให้ได้รับอุทธรณ์นั่นเอง ศาลชั้นต้นได้อนุญาตขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมไว้ และในชั้นอุทธรณ์ก็ได้อนุญาตอีกครั้งหนึ่ง และว่าถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติก็เป็นอันยกอุทธรณ์ของจำเลยเสีย การที่จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่ง ขอให้ศาลอุทธรณ์ขยายระยะเวลาให้อีก ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ยกคำร้อง กรณียุติในการที่จะให้รับอุทธรณ์ต่อไปแล้ว ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 236
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
คดีอาญาเกินอำนาจศาลแขวงพิจารณาพิพากษา เมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์ย่อมอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวงคดีเกินอำนาจ: อุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
คดีอาญาเกินอำนาจศาลแขวงพิจารณาพิพากษาเมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์ย่อมอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวงและการอุทธรณ์คดีไม่มีมูล: ป.วิ.อ. ม.170 ไม่ขัดกับ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงฯ
คดีที่อยู่ในอำนาจศาลแขวง เมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้อง แล้วพิพากษาว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล ให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
ป.วิ.อ. มาตรา 170 ที่ให้โจทก์อุทธรณ์ฎีกาได้ เมื่อศาลสั่งว่าคดีไม่มีมูลนั้น เป็นบทบัญญัติถึงการไต่สวนมูลฟ้องซึ่งมิใช่เป็นคดีที่ต้องบังคับตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงฯ
ป.วิ.อ. มาตรา 170 ที่ให้โจทก์อุทธรณ์ฎีกาได้ เมื่อศาลสั่งว่าคดีไม่มีมูลนั้น เป็นบทบัญญัติถึงการไต่สวนมูลฟ้องซึ่งมิใช่เป็นคดีที่ต้องบังคับตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล และอำนาจศาลสั่งงดบังคับคดีระหว่างพิจารณาคดีใหม่
คำสั่งใด ๆ ของศาลล่าง เมื่อไม่มีบทบัญญัติให้คำสั่งนั้นเป็นที่สุดหรือบัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์หรือฎีกา คัดค้านคำสั่งนั้นต่อศาลสูงได้ เมื่อเป็นกรณีที่อุทธรณ์ได้แล้ว ควรอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะวินิจฉัยได้ การที่สั่งให้ทุเลาการบังคับหรือให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนนั้น เมื่อมีอุทธรณ์มาสู่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจสั่งได้ ไม่ใช่มีผลให้เพิกถอนคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่อย่างใด
ตามป.วิ.พ. มาตรา 209 ไม่ได้ตัดอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีในเมื่อมีคำขอให้พิจารณาใหม่ เพราะคำขออาจเป็นความจริงมีเหตุที่ควรให้พิจารณาใหม่ แต่ศาลยังจะต้องฟังพยานของอีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อน ถ้าไม่ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้บังคับคดีไว้ก่อนได้แล้ว คำร้องขอให้พิจารณาใหม่อาจไม่มีผล และเสียหายแก่ผู้ขอให้พิจารณาใหม่ได้ จึงย่อมอยู่ในอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนก็ได้
ตามป.วิ.พ. มาตรา 209 ไม่ได้ตัดอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีในเมื่อมีคำขอให้พิจารณาใหม่ เพราะคำขออาจเป็นความจริงมีเหตุที่ควรให้พิจารณาใหม่ แต่ศาลยังจะต้องฟังพยานของอีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อน ถ้าไม่ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้บังคับคดีไว้ก่อนได้แล้ว คำร้องขอให้พิจารณาใหม่อาจไม่มีผล และเสียหายแก่ผู้ขอให้พิจารณาใหม่ได้ จึงย่อมอยู่ในอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นอุทธรณ์ และการลงโทษเกินพยานหลักฐาน คดีอาญา
ในคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อโจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์มอบคดีแล้ว แต่จำเลยก็มิได้ยกข้อต่อสู้ว่าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์มอบคดีโดยชอบด้วยกฎหมายให้เป็นประเด็นขึ้นมา โจทก์จึงไม่มีข้อที่จะต้องนำสืบในข้อนี้ว่าผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์และเจ้าพนักงานได้บันทึกรับแจ้งความไว้ว่าอย่างไร จำเลยเพิ่งมายกเป็นข้อต่อสู้ขึ้นในชั้นอุทธรณ์หาชอบด้วยกระบวนพิจารณาไม่ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการแก้ไขโทษจำเลยอื่น แม้โจทก์อุทธรณ์เฉพาะบางจำเลย
คดีอาญา ถ้าศาลอุทธรณ์จะพิพากษาไม่ลงโทษหรือลดโทษให้จำเลย หากเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ถึงแม้โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวเฉพาะจำเลยอื่นที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องก็ตาม ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยคนที่ถูกศาลชั้นต้นลงโทษให้ความผิดฐานเดียวกัน หรือต่อเนื่องกันได้ คู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ไม่สำคัญตามฎีกาที่ 1031/2498 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 23/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์: พิพากษาได้แม้โจทก์อุทธรณ์จำเลยบางส่วน
คดีอาญา ถ้าศาลอุทธรณ์จะพิพากษาไม่ลงโทษหรือลดโทษให้จำเลยหากเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ถึงแม้โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวเฉพาะจำเลยอื่นที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องก็ตาม ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยคนที่ถูกศาลชั้นต้นลงโทษในความผิดฐานเดียวกันหรือต่อเนื่องกันได้ คู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ไม่สำคัญตามฎีกาที่1031/2498(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 23/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำร้องขออนาถาและการขยายอายุอุทธรณ์ ผลกระทบต่อสิทธิในการอุทธรณ์
เดิมจำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา จำเลยแถลงในวันนัดไต่สวนว่า พยานมาไม่ครบ และว่าเพื่อไม่ให้ยุ่งยาก จำเลยขอขยายอายุอุทธรณ์ไป 15 วัน เพื่อนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระศาลอนุญาต เช่นนี้ มีผลเสมอด้วยจำเลยขอถอนคำร้องขออนาถาเสียแล้ว ต่อมาเมื่อครบกำหนดดังกล่าว จำเลยจะมาแถลงว่าหาเงินค่าธรรมเนียมไม่ได้ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขออนาถาใหม่ และขอขยายอายุอุทธรณ์(เมื่อขาดอายุอุทธรณ์แล้ว) อีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นที่อุทธรณ์ และขอบเขตการใช้กฎหมายผ่อนผันโทษในคดีอาญา
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 1-2-3-4 ฐานพยายามปล้น และลงโทษจำเลยที่ 2-3 ฐานมีปืนไม่รับอนุญาต เฉพาะในข้อหาฐานมีปืนไม่รับอนุญาต ไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์ จำเลยที่ 4 อุทธรณ์เฉพาะในข้อหาฐานพยายามปล้นทรัพย์ เช่นนี้ แม้ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์จะมีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2501 มาตรา 9 ผ่อนผันไม่เอาโทษแก่ผู้ที่นำอาวุธปืนที่มีอยู่ไปจดทะเบียนขอรับอนุญาตต่อนายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนด 90 วันก็ตาม ศาลอุทธรณ์จะยกฟ้องจำเลยที่ 2-3 ในข้อหาฐานมีปืนไม่รับอนุญาต โดยอ้างว่าเป็นเหตุในลักษณะคดีหาได้ไม่ เพราะการที่จำเลยที่2-3 มีอาวุธปืนนั้น จะมีโดยได้รับอนุญาตหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นผู้อุทธรณ์ ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 เป็นอันยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว ศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจที่จะยกฟ้องโจทก์ในข้อหาตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 ซึ่งเกี่ยวกับจำเลยที่ 2-3