คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดต่างกรรมต่างกระทง ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจยกฟ้องความผิดที่ไม่ได้อุทธรณ์
เมื่อโจทก์จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยคงอุทธรณ์คัดค้านเฉพาะในความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเท่านั้น ถือว่า ความผิดตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯลฯ เป็นอันยุติแล้ว ศาลอุทธรณ์ย่อมไม่มีอำนาจที่จะยกฟ้องโจทก์ในข้อหาตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯลฯ เพราะเป็นความผิดต่างกรรมคนละกระทง คนละพระราชบัญญัติกับความผิดที่มีอุทธรณ์ขึ้นมา โจทก์อาจแยกฟ้องกระทงความผิดละสำนวนก็ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นอุทธรณ์พ้นกำหนดและเหตุผลทางสุขภาพที่ไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัย
จำเลยยื่นอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นอุทธรณ์และยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้รับอุทธรณ์ อ้างว่าป่วยศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ไว้ ดังนี้ เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 เพราะจำเลยไม่ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลารับอุทธรณ์ไว้ก่อนสิ้นระยะเวลายื่นอุทธรณ์และเหตุที่อ้างว่าป่วยก็ไม่ใช่กรณีที่มีเหตุสุดวิสัย เพราะจำเลยมีทนายแก้ต่างอยู่แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดอำนาจทนายความเมื่อมอบอำนาจโดยนิติบุคคล และผู้มอบอำนาจเสียชีวิตก่อนยื่นอุทธรณ์ ไม่กระทบอำนาจทนาย
วัดอันเป็นนิติบุคคลฟ้องความโดยมอบอำนาจให้ไวยาวัจกรเป็นผู้ดำเนินคดี ต่อมาไวยาวัจกรถึงแก่กรรมเสียก่อนวันยื่นอุทธรณ์ดังนี้ก็หาทำให้ใบแต่งทนายที่ไวยาวัจกรลงชื่อแต่งทนายไว้สิ้นสุดไปไม่ทนายความคงดำเนินกระบวนพิจารณาได้ต่อไป เพราะถือว่าทนายความยังเป็นทนายของโจทก์อยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดสิทธิอุทธรณ์ในคดีศาลแขวง: ปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ ยกเว้นสิทธิจำเลย
คดีที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะทำการพิจารณาพิพากษาได้นั้น เมื่อศาลแขวงได้ทำการพิจารณาพิพากษาแล้ว การที่คู่ความจะอุทธรณ์คำพิพากษาจึงต้องบังคับตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 ม. 22 กรณีเช่นนี้ฝ่ายโจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้เลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีในศาลแขวง: สิทธิอุทธรณ์ของโจทก์และจำเลยตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวง
คดีที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะทำการพิจารณาพิพากษาได้นั้นเมื่อศาลแขวงได้ทำการพิจารณาพิพากษาแล้วการที่คู่ความจะอุทธรณ์คำพิพากษาจึงต้องบังคับตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 22 กรณีเช่นนี้ฝ่ายโจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้เลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลในการนำส่งเอกสารอุทธรณ์ ถือเป็นการทิ้งฟ้องตาม ป.วิ.แพ่ง
ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยและให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน 15 วัน พ้นกำหนดแล้ว 12 วัน ทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องว่าป่วยไม่สามารถนำหมายภายในกำหนด ขอนำส่งอีกครั้ง ดังนี้ ถือว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ. แพ่ง มาตรา 174 (2) จึงเป็นการทิ้งฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลในการดำเนินคดีชั้นอุทธรณ์ ถือเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2)
ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยและให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน 15 วัน พ้นกำหนดแล้ว 12 วันทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องว่าป่วยไม่สามารถนำหมายภายในกำหนดขอนำส่งอีกครั้งดังนี้ ถือว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) จึงเป็นการทิ้งฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายในการประนีประนอมยอมความ และขอบเขตการฉ้อฉลที่อุทธรณ์ฎีกาได้
จำเลยอ้างว่าสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมนั้นทนายจำเลยกับโจทก์สมคบกันฉ้อฉลโจทก์โดยอ้างเหตุแต่เพียงว่าทนายไม่บอกจำเลยก่อนไม่ทำสัญญาประนีประนอมฯต่อหน้าทนายจำเลยคนอื่นในคดีเดียวกัน ไม่บอกกล่าวให้จำเลยทราบในภายหลังข้อกล่าวอ้างดังกล่าวนี้ไม่เป็นการฉ้อฉลที่จะเป็นเหตุให้อุทธรณ์ฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138(1)ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 572/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวิวาททำร้ายร่างกาย: สิทธิการอุทธรณ์/ฎีกาเพื่อไม่ให้รอการลงอาญาจำกัดเฉพาะผู้เสียหายโดยตรง
เมื่อศาลล่างฟังข้อเท็จจริงว่าการทำร้ายเกิดจากการวิวาทต่อสู้โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ดังนั้นจะอุทธรณ์หรือฎีกาขอไม่ให้รอการลงอาญาจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าห้องเพื่อประกอบการค้า ไม่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า และการถอนฟ้องในชั้นอุทธรณ์
แม้ในชั้นแรกจำเลยจะเช่าห้องพิพาทเพื่ออยู่อาศัยก็ตามเมื่อในชั้นหลังนี้ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยใช้ห้องพิพาทเป็นที่ประกอบการค้าแล้วจำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่ฝ่ายเดียว ฉะนั้นโจทก์จะขอถอนฟ้องของโจทก์ทั้งที่จำเลยยอมให้ถอนนั้นไม่ได้เพราะโจทก์ไม่มีคำฟ้องชั้นอุทธรณ์ที่จะถอนฟ้องได้
(ฎีกาที่ 624,625,626,627,628/2495 ฯลฯ)
of 349