คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1477/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสำเนาอุทธรณ์ของจำเลยที่อุทธรณ์: ถือเป็นโจทก์ในชั้นอุทธรณ์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ผู้อุทธรณ์คดี แม้ถึงจะเป็นจำเลยในศาลชั้นต้น ก็ถือว่าเป็นโจทก์ในชั้นศาลอุทธรณ์ มีหน้าที่จะต้องนำเจ้าพนักงานศาลไปจัดการส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้อีกฝ่ายในกำหนด 15 วัน มิฉะนั้นศาลถือว่าทิ้งฟ้อง และสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1474/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ในคดีมโนสาเร่: ศาลอุทธรณ์ต้องยึดข้อเท็จจริงจากศาลชั้นต้น
คดีมโนสาเร่ที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้เช่าเรือนพิพาทอยู่อาศัยมาจากเจ้าของเดิมตั้งแต่ก่อนที่จะตกมาเป็นของโจทก์ และฟังว่าฝ่ายโจทก์ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงว่าจำเลยได้อาศัยอยู่ในเรือนพิพาท จำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายที่ชนะคดีตามที่ท้ากันไว้นั้น แต่ศาลอุทธรณ์กลับฟังว่าจำเลยไม่ได้เช่าจากเจ้าของเดิมคนสุดท้ายที่โอนให้แก่โจทก์ จึงพิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยและบริวารเสียนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนจากคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นเช่นนี้ คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะคดีมโนสาเร่คู่ความจะอุทธรณ์ได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องคดีภาษีหลังอุทธรณ์ต่อผู้ว่าฯ: การโต้แย้งสิทธิในการวางขายโดยไม่เสียภาษี
การที่จำเลยไปประเมินที่ที่โจทก์วางหมูขายว่าเป็นที่ ๆ ควรเสียภาษีและกำหนดให้โจทก์ไปเสียภาษี โจทก์เห็นว่าที่นั้นไม่ควรเสียภาษีเพราะไม่ใช่ที่ประกอบการค้า จึงอุทธรณ์คำสั่งของของจำเลยต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ๆ สั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์เสีย โจทก์มีสิทธิ์ที่จะมาฟ้องจำเลยให้งดเก็บภาษีต่อศาลอีกได้ การอุทธรณ์ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นวิธีการเบื้องต้น ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะมาฟ้องจำเลย ตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.55.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องร้องกรณีถูกประเมินภาษีซ้ำซ้อน แม้มีการอุทธรณ์ต่อผู้ว่าฯ แล้ว ยังมีสิทธิฟ้องต่อศาลได้
การที่จำเลยไปประเมินที่ที่โจทก์วางหมูขายว่าเป็นที่ที่ควรเสียภาษีและกำหนดให้โจทก์ไปเสียภาษีโจทก์เห็นว่าที่นั้นไม่ควรเสียภาษีเพราะไม่ใช่ที่ประกอบการค้า จึงอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์เสียโจทก์มีสิทธิ์ที่จะมาฟ้องจำเลยให้งดเก็บภาษีต่อศาลอีกได้การอุทธรณ์ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นวิธีการเบื้องต้นไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะมาฟ้องจำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำเรื่องแบ่งมรดก: ศาลพิพากษาแล้ว แม้ไม่ได้อุทธรณ์ ก็ถือเป็นคำพิพากษาเด็ดขาด
ได้ความว่าเดิมโจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกที่ดิน 3 โฉนดจากจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งที่ดินสองโฉนดตามขอ ส่วนที่ดินอีกโฉนดหนึ่งที่โจทก์ขอแบ่งนั้น จำเลยให้การว่าหมายเลขโฉนดมิใช่หมายเลขดั่งที่โจทก์ระบุมาในฟ้อง โจทก์ทราบแล้วมิได้ขอแก้ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยอย่างไร ศาลชั้นต้นจึงไม่พิพากษาให้แบ่งเพราะจะเป็นการเกินคำขอ โจทก์มิได้อุทธรณ์ในข้อนี้ ต่อมาโจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ขึ้นอีกขอให้แบ่งที่ดินตามหมายเลขโฉนดที่จำเลยให้การระบุไว้ไม่ตรงกับที่โจทก์ระบุในฟ้องคดีแรกโดยอ้างว่าคดีก่อนโจทก์อ้างเลขโฉนดผิดไปและมิได้ขอแก้ฟ้อง เช่นนี้ถือว่าฟ้องของโจทก์ในคดีเป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีก่อนและคดีนี้คู่ความเป็นคนคนเดียวกัน พิพาทกันเรื่องขอแบ่งมรดกที่ดินแปลงพิพาทนี้แปลงเดียวกันนั่นเอง หากโจทก์ฟ้องอ้างเลขโฉนดผิดไป ศาลชั้นต้นไม่ได้พิพากษาเด็ดขาดในเรื่องการแบ่งไม่ได้ เพราะศาลชั้นต้นพิพากษาไม่แบ่งนั้นเป็นคำพิพากษาแล้วและถ้าไม่เป็นที่พอใจของคู่ความฝ่ายใด ฝ่ายนั้นย่อมอุทธรณ์หรือฎีกาต่อไปได้ ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงต้องห้ามมิให้ฟ้องอีกตาม ป.วิ.แพ่ง ม.148.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำเรื่องแบ่งมรดก: ศาลพิพากษาแล้ว แม้มิได้อุทธรณ์ ก็ถือเป็นคำพิพากษาเด็ดขาด
ได้ความว่าเดิมโจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกที่ดิน 3 โฉนดจากจำเลยศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งที่ดินสองโฉนดตามขอส่วนที่ดินอีกโฉนดหนึ่งที่โจทก์ขอแบ่งนั้นจำเลยให้การว่าหมายเลขโฉนดมิใช่หมายเลขดั่งที่โจทก์ระบุมาในฟ้องโจทก์ทราบแล้วมิได้ขอแก้ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยอย่างไรศาลชั้นต้นจึงไม่พิพากษาให้แบ่งเพราะจะเป็นการเกินคำขอโจทก์มิได้อุทธรณ์ในข้อนี้ต่อมาโจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ขึ้นอีกขอให้แบ่งที่ดินตามหมายเลขโฉนดที่จำเลยให้การระบุไว้ไม่ตรงในฟ้องคดีแรกโดยอ้างว่าคดีก่อนโจทก์อ้างเลขโฉนดผิดไปและมิได้ขอแก้ฟ้องเช่นนี้ถือว่าฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีก่อนและคดีนี้คู่ความเป็นคนคนเดียวกัน พิพาทกันเรื่องขอแบ่งมรดกที่ดินแปลงพิพาทนี้แปลงเดียวกันนั่นเอง หากโจทก์ฟ้องอ้างเลขโฉนดผิดไปศาลชั้นต้นไม่แบ่งให้เพราะจะเป็นการเกินคำขอของโจทก์โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์จะว่าศาลชั้นต้นไม่ได้พิพากษาเด็ดขาดในเรื่องการแบ่งไม่ได้เพราะศาลชั้นต้นพิพากษาไม่แบ่งนั้นเป็นคำพิพากษาแล้วและถ้าไม่เป็นที่พอใจของคู่ความฝ่ายใดฝ่ายนั้นย่อมอุทธรณ์หรือฎีกาต่อไปได้ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงต้องห้ามมิให้ฟ้องอีกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลตาม ม.24 ป.วิ.แพ่ง: การชี้ขาดประเด็นก่อนสืบพยาน และขอบเขตการอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิ จำเลยโต้แย้งว่าจำเลยได้กรรมสิทธิโดยทางครอบครอง
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชี้ขาด ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.24 ว่าคำให้การจำเลย จำเลยไม่ได้ต่อสู้ว่าจำเลยมีเจตนาเป็นเจ้าของฉนั้นจำเลยจึงไม่มีประเด็นนำสืบในข้อจำเลยมีเจตนาเป็นเจ้าของ จำเลยไม่มีทางชนะคดี
ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำสืบก่อนโจทก์คัดค้าน ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำให้การของจำเลยมีข้อต่อสู้ในข้อจำเลยครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของส่วนหน้าที่นำสืบนั้นศาลสั่งชอบแล้ว
คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งตาม ม.24 ไม่ใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ ฎีกา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลตาม ม.24 มิใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา เปิดทางให้อุทธรณ์ได้ หากศาลชี้ขาดแล้วแต่ไม่เป็นไปตามที่ร้องขอ
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิ์จำเลยโต้แย้งว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครอง
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชี้ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24ว่าคำให้การจำเลย จำเลยไม่ได้ต่อสู้ว่าจำเลยมีเจตนาเป็นเจ้าของฉะนั้นจำเลยจึงไม่มีประเด็นจะนำสืบในข้อจำเลยมีเจตนาเป็นเจ้าของจำเลยไม่มีทางชนะคดี
ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำสืบก่อนโจทก์คัดค้าน ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำให้การของจำเลยมีข้อต่อสู้ในข้อจำเลยครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของส่วนหน้าที่นำสืบนั้นศาลสั่งชอบแล้ว
คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งตาม มาตรา 24 ไม่ใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งสำเนาอุทธรณ์ล่าช้า: ศาลต้องกำหนดเวลาชัดเจน มิฉะนั้นถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง
โจทก์แพ้คดีศาลชั้นต้นโจทก์จึงอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งแต่เพียงว่า "รับอุทธรณ์โจทก์" ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าจะให้โจทก์มารับสำเนาไปส่งแก่จำเลยภายในเวลาเท่าใด เมื่อโจทก์มาขอรับสำเนาอุทธรณ์ไปส่งให้แก่จำเลยหลังจากฟ้องอุทธรณ์แล้วเป็นเวลา 27 วัน เช่นนี้ก็ตามก็ยังเรียกไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตาม ป.วิ.แพ่ง ม.174(2) เพราะศาลชั้นต้นยังไม่ได้กำหนดวันให้โจทก์มานำสำเนาอุทธรณ์ส่งให้แก่จำเลยไว้
การส่งหมายเรียกไม่เหมือนกับการส่งสำเนาอุทธรณ์
ป.วิ.แพ่ง ม.174(1) กำหนดระยะเวลา 15 วันไว้ตายตัวว่าโจทก์มีหน้าที่จะต้องส่งหมายเรียกให้จำเลยมาแก้คดี ไม่เหมือน ม.174(2) ซึ่งให้ศาลเป็นผู้กำหนดเวลาตามสมควร
ฎีกาที่ 798/2498

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งสำเนาอุทธรณ์และการทิ้งฟ้อง: ศาลต้องกำหนดเวลาชัดเจน การส่งสำเนาอุทธรณ์ต่างจากหมายเรียก
โจทก์แพ้คดีศาลชั้นต้นโจทก์จึงอุทธรณ์ศาลชั้นต้นสั่งแต่เพียงว่า'รับอุทธรณ์โจทก์ สำเนาให้จำเลย' ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าจะให้โจทก์มารับสำเนาไปส่งแก่จำเลยภายในเวลาเท่าใดเมื่อโจทก์มาขอรับสำเนาอุทธรณ์ไปส่งให้แก่จำเลยหลังจากฟ้องอุทธรณ์แล้วเป็นเวลา 27 วันเช่นนี้ก็ตามก็ยังเรียกไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา174(2) เพราะศาลชั้นต้นยังไม่ได้กำหนดวันให้โจทก์มานำสำเนาอุทธรณ์ส่งให้แก่จำเลยไว้
การส่งหมายเรียกไม่เหมือนกับการส่งสำเนาอุทธรณ์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา174(1) กำหนดระยะเวลา 15 วันไว้ตายตัวว่าโจทก์มีหน้าที่จะต้องส่งหมายเรียกให้จำเลยมาแก้คดีไม่เหมือนมาตรา174(2) ซึ่งให้ศาลเป็นผู้กำหนดเวลาตามสมควร(ฎีกาที่ 798/2498)
of 349