คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทุจริต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 532 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2830/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการกระทำผิดสำคัญกว่าลำดับเหตุการณ์ การลาออกก่อนสมัครย่อมไม่มีเจตนาทุจริต
หนังสือลาออกของจำเลยระบุชัดเจนว่าขอลาออกจากตำแหน่งกำนันก่อนที่จะยื่นใบสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดดังนั้น แม้หนังสือลาออกของจำเลยจะไปถึงจังหวัดและจำเลยได้รับการอนุมัติให้ออกจากตำแหน่งหลังจากที่จำเลยยื่นใบสมัครแล้วก็ตาม ก็เป็นการปฏิบัติของทางราชการจำเลยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยการกระทำของจำเลยจึงเป็นการขาดเจตนาจำเลยไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2747/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างต้องมีเหตุอันสมควร แม้ลูกจ้างลาป่วยผิดระเบียบก็ไม่ถือเป็นเหตุทุจริตต่อหน้าที่
คำว่า 'ทุจริตต่อหน้าที่' ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 123(1) หมายถึง การแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้จากตำแหน่งหน้าที่ เมื่อปรากฏว่าตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือการปฏิบัติของบริษัทนายจ้าง ลูกจ้างประจำรายเดือนลากิจหรือลาป่วยคงได้รับค่าจ้างเช่นเดียวกัน การที่ลูกจ้างมีความจำเป็นที่มาทำงานไม่ได้จึงลาป่วยเพราะไม่อาจลากิจได้เนื่องจากการลากิจต้องลาล่วงหน้า การลาของลูกจ้างจึงเป็นการลาผิดระเบียบ ไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ เพราะลูกจ้างไม่ได้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายจากค่าจ้างที่ได้รับจากนายจ้างแต่ประการใด
ลูกจ้างหยุดงานเพียง หนึ่งวันครึ่งโดยยื่นใบลาผิดระเบียบ ยังไม่เป็นการร้ายแรงถึงขนาดที่นายจ้างจะถือเป็นเหตุเลิกจ้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกให้ลาออกเพื่อหลีกเลี่ยงดำเนินคดีทุจริต ไม่ถือเป็นการข่มขู่ให้ลาออก
เมื่อลูกจ้างได้กระทำการอันส่อว่าทุจริตเกี่ยวกับการเงินแล้วนายจ้างบอกให้ลูกจ้างลาออกมิฉะนั้นจะดำเนินคดีเป็นการขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ดังนั้น เมื่อลูกจ้างสมัครใจลาออก จึงถือไม่ได้ว่านายจ้างเลิกจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องในคดีเช็ค: ผู้ร่วมทุจริตนำเช็คเข้าบัญชี ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย
โจทก์กับผู้อื่นร่วมกันทุจริตนำเช็คพิพาทของบริษัทแห่งหนึ่งให้โจทก์นำไปเข้าบัญชีเรียกเก็บเงินจากธนาคารโจทก์ย่อมมิใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น โจทก์หาใช่ผู้เสียหายตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) ไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 470/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกจ้างรายงานเท็จเพื่อรับค่าแรง ย่อมเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้
ผู้คัดค้านมีหน้าที่ตัดผ้าใบ แล้วไม่ตัดผ้าใบตามคำสั่งกลับทำรายงานเท็จว่าตัดเสร็จแล้ว เพื่อแสวงหาประโยชน์จากเงินค่าแรงที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ย่อมถือได้ว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 47(1)(2) จึงเป็นความผิดทางวินัยดังระบุไว้ตามข้อบังคับของผู้ร้อง ผู้ร้องมีสิทธิเลิกจ้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่เป็นธรรมเนื่องจากลูกจ้างใต้บังคับบัญชาทุจริตและผลงานไม่เป็นที่พอใจ
การเลิกจ้างเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมนั้น จะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงเป็นเรื่อง ๆ ไป การที่ ธ. ลูกจ้างจำเลยและอยู่ใต้บังคับบัญชาโจทก์ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ที่มีอยู่ในบริษัทจำเลยไปขายสินค้า ส่งสินค้า เรียกเก็บเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ตนมีหุ้นอยู่ ทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทจำเลย โจทก์ได้รู้เห็นการกระทำของ ธ. ที่ทำให้จำเลยเสียหาย ทำให้จำเลยมีความระแวงสงสัยและไม่ไว้ใจในตัวโจทก์ กับการทำงานของโจทก์มีผลงานไม่เป็นที่พอใจจำเลย ดังนี้ เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ จึงเป็นการเลิกจ้างที่มีเหตุสมควรและเป็นธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3908/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทุจริตต่อหน้าที่ของลูกจ้างผู้จัดการสำนักกฎหมาย และผลกระทบต่อสิทธิรับค่าชดเชย
โจทก์เป็นผู้จัดการสำนักกฎหมายของจำเลยมีหน้าที่ดำเนินคดีแทนจำเลยโจทก์เบิกเงินค่าฤชาธรรมเนียมในการดำเนินคดีตามหน้าที่ของโจทก์เหลือเท่าใดโจทก์ต้องคืนให้จำเลย โจทก์ถอนฟ้อง ศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลเป็นเงิน 39,283 บาทโจทก์มีหน้าที่ต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวคืนให้จำเลย แต่โจทก์กลับเบียดบังเอาไว้เป็นของตน ถือได้ว่าโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 47 (1)จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3908/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกจ้างทุจริตต่อหน้าที่เบียดบังเงินค่าฤชาธรรมเนียม จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
โจทก์เป็นผู้จัดการสำนักกฎหมายของจำเลยมีหน้าที่ดำเนินคดีแทนจำเลยโจทก์เบิกเงินค่าฤชาธรรมเนียมในการดำเนินคดีตามหน้าที่ของโจทก์เหลือเท่าใดโจทก์ต้องคืนให้จำเลย โจทก์ถอนฟ้อง ศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลเป็นเงิน 39,283 บาทโจทก์มีหน้าที่ต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวคืนให้จำเลย แต่โจทก์กลับเบียดบังเอาไว้เป็นของตน ถือได้ว่าโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 47(1)จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานละเว้นหน้าที่, แจ้งความเท็จ, และการกระทำโดยทุจริตต่อหน้าที่
จำเลยเป็นกำนัน ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการโครงการสร้างถนนเข้าหมู่บ้าน เป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ ฯ การที่จำเลยเบิกเงินต่อผู้ว่าราชการจังหวัดผ่านนายอำเภอ เพื่อจ่ายแก่ผู้รับเหมาทำถนนในขณะที่ถนนยังไม่เสร็จ แต่เบิกมาเพื่อจะจ่ายให้ผู้รับเหมาทำงานต่อไปได้และจำเลยจ่ายเงินแก่ผู้รับเหมาไปแล้วนั้น แม้ข้ออ้างของจำเลยที่ว่าทำตามคำแนะนำของนายอำเภอและไม่เป็นเหตุให้จำเลยไม่ต้องรับโทษ แต่ก็แสดงว่าจำเลยกระทำไปโดยขาดเจตนาที่จะแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงาน จึงไม่มีความผิดฐานแจ้งความเท็จและเหตุดังกล่าวเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องถึงจำเลยคนอื่นซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วได้
เมื่อจำเลยรับเงินมาจ่ายให้ผู้รับเหมาแล้วได้ละเว้นไม่ดำเนินการให้ผู้รับเหมาทำงานต่อไปให้เสร็จตามสัญญา เป็นการทำให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยผู้รับเหมาได้รับเงินมากกว่าที่ควรจะได้ จึงเป็นการกระทำโดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3313/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกจ่ายเงินบำรุงการศึกษาและการสั่งซื้ออาหารเพิ่มเติม ครูใหญ่ไม่ผิดฐานทุจริตหากไม่มีเจตนาเบียดบัง
จำเลยเป็นครูใหญ่โรงเรียนอนุบาล กรอกรายการเพิ่มขึ้นในใบสำคัญคู่จ่ายค่าอาหารเลี้ยงนักเรียน มีจำนวนสูงกว่าหลักฐานการเบิกเงินของแม่ครัว เนื่องจากการที่จำเลยสั่งซื้ออาหารเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอรับประทาน เป็นการกรอกเพิ่มขึ้นเพื่อให้จำนวนเงินตรงกับที่จ่ายไปจริงหาได้มีเจตนาทุจริตคิดเบียดบังเอาเงินบำรุงการศึกษาของโรงเรียนเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นไม่ และไม่เป็นการทำเอกสารเท็จหรือรับรองข้อความอันเป็นเท็จอันจะเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,162
of 54