คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประมาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 560 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 82/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของเจ้าของรถและผู้ขับขี่จากการประมาททางรถยนต์ แม้ไม่มีความสัมพันธ์ตัวการตัวแทน
จำเลยที่ 1 อาสาขับรถให้จำเลยที่ 3 โดยมีจำเลยที่ 3 เจ้าของรถนั่งไปด้วย ระหว่างทางจำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย กรณีเช่นนี้จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ตัวแทนจำเลยที่ 3 เพราะมิใช่เป็นกิจการที่ทำแทนตัวการต่อบุคคลที่ 3 เป็นกิจการในระหว่างจำเลยที่ 3 เจ้าของรถกับจำเลยที่ 1 ผู้อาสา จำเลยที่ 3 ผู้ครอบครองและจำเลยที่ 1 ผู้ควบคุมรถยนต์อันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกลจึงต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดแก่ยานพาหนะนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบิดามารดาต่อละเมิดของบุตรผู้เยาว์ที่หลบหนีออกจากบ้านและขับรถประมาท
เด็กหนีจากบ้านไปตั้งแต่อายุ 12 ปี แม้ถูกล่ามโซ่ไว้ก็ยังหนีจนอายุ 18 ปี ไปรับจ้างขับรถยนต์บิดามารดาใช้ความระวังดูแลอย่างดีแล้ว นอกเหนืออำนาจของบิดามารดาจะระวังได้ บิดามารดาไม่ต้องรับผิดในละเมิดที่บุตรขับรถชนผู้อื่นโดยประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3055/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงปืนในที่สาธารณะโดยประมาทเล็งผลถึงแก่ชีวิต ถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปที่ร้านผู้เสียหายด้วยอาการเมาสุรา ขณะที่ผู้เสียหายเปิดร้านค้าอยู่ห่างจำเลยเพียง 10 เมตร โดยมีผู้คนกำลังซื้อของ จำเลยอาจเล็งเห็นผลได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายคนในร้านถึงแก่ความตายได้ เมื่อผู้เสียหายถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิงที่บริเวณหลังใต้สะบักกระสุนฝังในได้รับอันตรายสาหัส จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อระงับเมื่อรถหายโดยมิใช่ความประมาทของผู้เช่าซื้อ ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นความรับผิด
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์ไปจากโจทก์ได้จอดรถยนต์ที่เช่าซื้อไว้ที่ถนน แล้วถูกคนร้ายลักไป เมื่อถนนดังกล่าวเป็นที่จอดรถได้ และมีรถยนต์คันอื่นจอดอยู่หลายคัน ดังนี้จะเรียกว่าจำเลยประมาทเลินเล่อไม่ได้ เมื่อรถดังกล่าวถูกขโมยลักไป สัญญาเช่าซื้อย่อมระงับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 ประกอบด้วยมาตรา 567 จำเลยไม่ต้องชำระเงินค่าเช่าซื้อหรือค่าเสียหายตั้งแต่งวดที่รถหายเป็นต้นไป
โจทก์ฎีกาในข้อที่มิได้บรรยายมาในฟ้องหรือนำสืบให้ปรากฏนั้น ศาลฎีกาจะวินิจฉัยให้จำเลยรับผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2982-2983/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดต่อความเสียหายจากผู้ขับรถประมาท แม้ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิด
โจทก์ได้รับความเสียหายเนื่องจากความประมาทของผู้ขับรถยนต์คันที่จำเลยรับประกันภัยค้ำจุนไว้ ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยได้โดยตรงในฐานะเป็นผู้รับประกันภัยโดยไม่ต้องฟ้องผู้เอาประกันภัย
เมื่อลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยได้ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยด้วยความประมาทก่อให้เกิดความเสียหายซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวย่อมต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ผู้ต้องเสียหายโดยตรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2731/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง: ประมาทจากการขับรถ
ในคดีส่วนอาญาศาลได้สืบพยานโจทก์จำเลยและได้มีการวินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นของคดีนั้นว่า โจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ชนรถผู้เสียหาย แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีถึงที่สุด ดังนี้ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 โดยต้องฟังว่า โจทก์ไม่มีพยานสืบให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือกระทำละเมิดด้วย แม้ผู้เสียหายจะไม่ได้ฟ้องหรือร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในคดีอาญาด้วยก็ตาม
โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เสียหายก็จำต้องผูกพันตามข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีส่วนอาญาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยประมาทจากการเล่นหยอกล้อทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300
จำเลยจับเท้าของผู้เสียหายทั้งสองข้างยกขึ้นจนมือขวาของผู้เสียหายลอยสูงจากพื้นดินประมาณ 1 ศอก แล้วจำเลยผลักตัวผู้เสียหายลงกับพื้นทำให้แขวนขวาของผู้เสียหายหัก ด้วยการเล่นหยอกล้อกัน เป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ซึ่งจำเลยอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยประมาท ไม่ใช่กระทำโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1289/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการต่อเติมอาคารโดยประมาท และการไม่มีส่วนร่วมในความเสียหาย
การที่จำเลยที่ 2 ปลูกสร้างต่อเติมอาคารโดยมิได้รับอนุญาตจากเทศบาลแม้จะเป็นการผิดเทศบัญญัติ แต่ก็ไม่ได้ล่วงสิทธิของโจทก์ จึงถือว่าจำเลยที่ 2 ทำละเมิดต่อโจทก์มิได้ คดีนี้โจทก์ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าสมุด หนังสือ ฯลฯ ที่เสียหายอันเนื่องจากลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ประมาทเลินเล่อในการก่อสร้างอาคารให้จำเลยที่ 2 โดยทำให้รางน้ำและท่อน้ำฝนของโจทก์อุดตัน น้ำฝนไหลเข้าเปียกสมุดหนังสือ ฯลฯ ของโจทก์ที่มีไว้ขายเสียหาย มิได้เรียกร้องค่าเสียหายอันเกี่ยวกับตัวฝาผนังฝ่ายจำเลยใช้เป็นฐานในการต่อเติมเป็นฝาผนังอาคารของจำเลยที่ 2 ทั้งข้อนำสืบของโจทก์ก็ไม่ปรากฏว่าความเสียหายที่จำเลยที่ 1 หรือลูกจ้างจำเลยที่ 1 ก่อให้เกิดขึ้นเพราะจำเลยที่ 2 เป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ หรือในคำสั่งที่จำเลยที่ 2 ให้ไว้หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดเพื่อความเสียหายที่จำเลยที่ 1 ก่อให้เกิดขึ้นแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1258/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากรถยนต์: ศาลต้องพิจารณาความรับผิดทั้งฐานผู้ขับและผู้ครอบครองรถยนต์ แม้คดีอาญาพิพากษาแล้ว
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะจำเลยเป็นผู้ขับรถยนต์โดยประมาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420ประการหนึ่ง และให้รับผิดในฐานะจำเลยเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ขณะเกิดเหตุตามมาตรา 437 อีกประการหนึ่งฉะนั้น แม้คดีอาญาที่จำเลยถูกฟ้องศาลพิพากษาถึงที่สุดว่า ต. เป็นคนขับรถจำเลยก็ตาม ในคดีนี้ศาลก็ยังต้องวินิจฉัยต่อไปว่าความรับผิดของจำเลยตามมาตรา 437 มีเพียงใด ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่ามาตรา 437มุ่งหมายให้มีข้อสันนิษฐานเป็นคุณแก่ฝ่ายที่มิใช่ยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล โจทก์จำเลยต่างเป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล ไม่อาจบังคับใช้บทบัญญัติมาตรา 437 ได้นั้น เป็นการกล่าวเกี่ยวกับภาระแห่งการพิสูจน์หรือหน้าที่นำสืบ มิใช่วินิจฉัยชี้ขาดว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดตามมาตรา 437ที่ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่นั้นชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดเจ้าของรถยนต์: การพิสูจน์การครอบครองและการประมาทของคนขับ
จำเลยเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ชนกัน จำเลยไม่ใช่นายจ้างของคนขับรถ ไม่ได้ความว่าจำเลยครอบครองรถยนต์ จำเลยไม่ต้องรับผิดตาม มาตรา 437 ผู้รับประกันภัยค้ำจุนของจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดด้วย
of 56